สภากลาโหมสั่งเหล่าทัพรับมือสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาดระยะ 3 เตรียม 35 มทบ.พร้อมตั้ง รพ.สนามเป็นพื้นที่ควบคุม ให้ ทอ.ประสานอดีตนักบิน ทอ.ในแอร์เอเชีย สแตนด์บายรับคนไทยที่ยังอยู่ในเมืองอู่ฮั่น
วันนี้ (21 ก.พ.) พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ฝากให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ขอบคุณกองทัพเรือที่ได้สนับสนุนอาคารรับรองในการใช้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ของคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศอู่ฮั่น ประเทศจีน พร้อมขอบคุณทีมนักบินที่เป็นอดีตนักบินของกองทัพอากาศทั้งหมดของแอร์เอเชียที่ไปรับกลับมา และขอบคุณทุกหน่วยงานทุกเหล่าทัพที่จัดทีทแพทย์เฉพาะกิจสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขออกคัดกรองตรวจตราประชาชน โดยเฉพาะใน 10 สนามบิน
นอกจากนั้น ได้กำชับให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมเตรียมพร้อมศูนย์แพทย์อาเซียนมีความพร้อมรองรับการเพิ่มระดับความร่วมมือของกลไกศูนย์แพทย์อาเซียนในการฝึกปฏิบัติร่วมกัน เป็นไปตามแถลงการณ์ร่วมด้านความมั่นคงว่าด้วยการรับมือกับโรคระบาดที่ได้ประชุมกันไว้
ทั้งนี้ ยังได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพพร้อมมาตรการ 1. ยกระดับการทำงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคระบาดของกระทรวงกลาโหมเพื่อสนับสนุนการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข โดยมอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยประสานการปฏิบัติ 2. เพิ่มช่องทางการรับรู้ของประชาชนในการป้องกันและดูแลตัวเองให้มากขึ้น 3. ให้กองกำลังป้องกันชายแดนเพิ่มมาตรการการคัดกรองพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง 4. ได้กำชับให้ มณฑลทหารบกทั้ง 35 แห่ง โรงพยาบาลเหล่าทัพสนับสนุนการรักษาผู้ป่วย รวมทั้งเตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับ เตรียมพื้นที่ในหน่วยทหารซึ่งอาจเป็นในหน่วยมณฑลทหารบกเพื่อรองรับการควบคุมและรักษาผู้ติดเชื้อหากสถานการณ์ระบาดเกินการควบคุมเข้าสู่ระยะที่ 3 พร้อมขอให้กองทัพอากาศประสานกับอดีตนักบินเพื่อเตรียมพร้อมเพื่อไปรักคนไทยที่อู่ฮั่น