กองปราบเตรียมเรียกเมีย และพี่ชาย "บรรยิน" ผู้ต้องหาอุ้มเผานั่งยางพี่ชายผู้พิพากษาสอบเพิ่ม หลังพบจุดเผาศพ อยู่ในที่ดินภรรยา ส่วนพี่ชาย เป็นคนยืมรถตำรวจมาให้น้องใช้ก่อเหตุ
วานนี้ (1 มี.ค.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึง ความคืบหน้าจับกุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภาภรณ์ และพวกรวม 6 คน ร่วมกันก่อเหตุอุ้มฆ่าเผานั่งยาง นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายของผู้พิพากษาว่า ขณะนี้สำนวนคดีมีความคืบหน้าไปมาก ส่วนการสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ ก็เกือบครบถ้วนแล้ว คงเหลือสอบปากคำเจ้าหน้าที่แพทย์ และ พฐ. อีกบางส่วนเท่านั้น เพราะยังต้องรอผลการตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาตร์ออกมาอย่างเป็นทางการก่อน จึงจะทำการสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนได้ ซึ่งคาดว่าภายในเดือนมี.ค.นี้ สำนวนคดีดังกล่าวน่าจะแล้วเสร็จ
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการสืบหาหลักฐานอื่นเพิ่มเติมนั้น เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ประสานนักประดาน้ำลงงมค้นหาหลักฐานในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ ต.กลางแดด อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์ อีกครั้ง เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนจะพบหลักฐานสำคัญ เป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ และจักรยานยนต์ รวม 4 แผ่น ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบแผ่นป้ายทะเบียน 2 ใน 4 แผ่นดังกล่าว เป็นป้ายทะเบียนที่ พ.ต.ท.บรรยิน และพวก นำมาติดรถยนต์ของกลาง ที่ใช้ในการก่อเหตุ ส่วนอีก 2 แผ่นนั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับคดี หรือไม่
นอกจากนี้ พ.ต.อ.เอนก ยังได้เดินทางไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ขนส่งรายหนึ่ง ในพื้นที่จ.นครสวรรค์ หลังพบว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเป็นคนจัดหาแผ่นป้ายทะเบียนรถให้กับพ.ต.ท.บรรยิน ซึ่งจากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ขนส่งคนดังกล่าว ให้การว่า รู้จักกับพ.ต.ท.บรรยิน มานานแล้ว โดยก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.บรรยินได้ติดต่อขอแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ด้วยความที่ไม่ได้คิดว่าจะนำไปใช้ทำความผิด จึงให้ไป กระทั่งมารู้ภายหลังว่าพ.ต.ท.บรรยิน นำแผ่นป้ายทะเบียนเหล่านี้ ไปสวมตบตาเจ้าหน้าที่ เพื่อใช้ก่อเหตุดังกล่าว
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีของกองปราบ ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน มาทำการรังวัดที่ดินตรงจุดที่พบเศษชิ้นส่วนกระดูกของ นายวีรชัย ผู้ตาย ซึ่งเป็นป่ารกร้างบริเวณเขาใบไม้ จ.นครสวรรค์ เพื่อพิสูจน์ทราบว่า ที่ดินผืนดังกล่าวนั้นใครเป็นผู้ครอบครอง กระทั่งเมื่อทำการรังวัด และตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว จึงพบว่าที่ดินผืนดังกล่าว นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน เป็นผู้ครอบครอง จึงได้เตรียมเชิญตัวมาสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ ทางพนักงานสอบสวนกองปราบ เตรียมเชิญตัว ร.อ.จักรวาล ตั้งภากรณ์ พี่ชายของพ.ต.ท.บรรยิน มาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยอีกราย หลังแนวทางสืบสวนพบว่าร.อ.จักรวาล เป็นผู้ติดต่อขอยืมรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ 1 ในรถยนต์ของกลาง มาจากพ.ต.ท.ประเสริฐ ผลประสาร เจ้าของ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ใน จ.พิจิตร เพื่อนำมาใช้งาน ก่อนที่ต่อมาทางพ.ต.ท.บรรยิน น้องชาย จะนำรถคันดังกล่าวไปใช้ในการก่อเหตุ จึงจำเป็นต้องเชิญตัวมาสอบปากคำ เพื่อให้คลายข้อสงสัยในส่วนนี้
วานนี้ (1 มี.ค.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึง ความคืบหน้าจับกุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภาภรณ์ และพวกรวม 6 คน ร่วมกันก่อเหตุอุ้มฆ่าเผานั่งยาง นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายของผู้พิพากษาว่า ขณะนี้สำนวนคดีมีความคืบหน้าไปมาก ส่วนการสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ ก็เกือบครบถ้วนแล้ว คงเหลือสอบปากคำเจ้าหน้าที่แพทย์ และ พฐ. อีกบางส่วนเท่านั้น เพราะยังต้องรอผลการตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาตร์ออกมาอย่างเป็นทางการก่อน จึงจะทำการสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนได้ ซึ่งคาดว่าภายในเดือนมี.ค.นี้ สำนวนคดีดังกล่าวน่าจะแล้วเสร็จ
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการสืบหาหลักฐานอื่นเพิ่มเติมนั้น เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ประสานนักประดาน้ำลงงมค้นหาหลักฐานในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ ต.กลางแดด อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์ อีกครั้ง เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนจะพบหลักฐานสำคัญ เป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ และจักรยานยนต์ รวม 4 แผ่น ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบแผ่นป้ายทะเบียน 2 ใน 4 แผ่นดังกล่าว เป็นป้ายทะเบียนที่ พ.ต.ท.บรรยิน และพวก นำมาติดรถยนต์ของกลาง ที่ใช้ในการก่อเหตุ ส่วนอีก 2 แผ่นนั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับคดี หรือไม่
นอกจากนี้ พ.ต.อ.เอนก ยังได้เดินทางไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ขนส่งรายหนึ่ง ในพื้นที่จ.นครสวรรค์ หลังพบว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเป็นคนจัดหาแผ่นป้ายทะเบียนรถให้กับพ.ต.ท.บรรยิน ซึ่งจากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ขนส่งคนดังกล่าว ให้การว่า รู้จักกับพ.ต.ท.บรรยิน มานานแล้ว โดยก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.บรรยินได้ติดต่อขอแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ด้วยความที่ไม่ได้คิดว่าจะนำไปใช้ทำความผิด จึงให้ไป กระทั่งมารู้ภายหลังว่าพ.ต.ท.บรรยิน นำแผ่นป้ายทะเบียนเหล่านี้ ไปสวมตบตาเจ้าหน้าที่ เพื่อใช้ก่อเหตุดังกล่าว
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีของกองปราบ ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน มาทำการรังวัดที่ดินตรงจุดที่พบเศษชิ้นส่วนกระดูกของ นายวีรชัย ผู้ตาย ซึ่งเป็นป่ารกร้างบริเวณเขาใบไม้ จ.นครสวรรค์ เพื่อพิสูจน์ทราบว่า ที่ดินผืนดังกล่าวนั้นใครเป็นผู้ครอบครอง กระทั่งเมื่อทำการรังวัด และตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว จึงพบว่าที่ดินผืนดังกล่าว นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน เป็นผู้ครอบครอง จึงได้เตรียมเชิญตัวมาสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ ทางพนักงานสอบสวนกองปราบ เตรียมเชิญตัว ร.อ.จักรวาล ตั้งภากรณ์ พี่ชายของพ.ต.ท.บรรยิน มาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยอีกราย หลังแนวทางสืบสวนพบว่าร.อ.จักรวาล เป็นผู้ติดต่อขอยืมรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ 1 ในรถยนต์ของกลาง มาจากพ.ต.ท.ประเสริฐ ผลประสาร เจ้าของ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ใน จ.พิจิตร เพื่อนำมาใช้งาน ก่อนที่ต่อมาทางพ.ต.ท.บรรยิน น้องชาย จะนำรถคันดังกล่าวไปใช้ในการก่อเหตุ จึงจำเป็นต้องเชิญตัวมาสอบปากคำ เพื่อให้คลายข้อสงสัยในส่วนนี้