xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กแดง"โอนธุรกิจกองทัพคืนคลัง รื้อเกลี้ยง"รร.-กอล์ฟ-ม้า-มวย-ปั๊ม"

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360-ผบ.ทบ.ลงนามเอ็มโอยูให้กรมธนารักษ์ ดูแลการจัดโครงการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบก ในที่ทหารเกือบ 1 ล้านไร่ ให้ถูกต้องตามระเบียบ ทั้งโรงแรม สนามกอล์ฟ มวย ม้า ปั๊มน้ำมัน ตลาดนัด โดยแบ่งรายได้เข้าแผ่นดิน ที่เหลือนำเป็นกองทุนสวัสดิการและเป็นส่วนลดให้กำลังพล ชี้เป็นรูปแบบเดียวกับกองทัพสหรัฐฯ ด้าน เสธ.ทบ.เผยรายได้ยังไม่ถึงพันล้าน เพราะยังเป็นสวัสดิการภายใน ไม่ใช่ธุรกิจมืออาชีพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (17ก.พ.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นตัวแทนกองทัพบกลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ในโครงการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบก ร่วมกับกรมธนารักษ์ โดยมีนายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นตัวแทนกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เพื่อให้การใช้ที่ราชพัสดุของกองทัพบก ประกอบด้วย ที่ดิน อาคาร และสิ่งปลูกสร้างในการจัดสวัสดิการภายในกองทัพบกเป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และการจัดสวัสดิการภายในกองทัพบกดำเนินการภายใต้กรอบระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ. 2547 และประกาศคณะกรรมการสวัสดิการข้าราชการเรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจประกาศ ณ วันที่ 8 ก.ค.2548 เช่น สถานีบริการน้ำมัน ร้านค้า ตลาดนัด กิจการสโมสร สนามมวย สนามกอล์ฟ สนามม้า และสถานพักฟื้นพักผ่อนกองทัพบก อีกทั้งเพื่อปรับรูปแบบการจัดสวัสดิการภายในของกองทัพบกในบางกิจการเป็นการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ

โดยการกำกับดูแลของกองทัพบก แบ่งเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ 1.การจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ กรณีปกติทั่วไป เช่น สถานีบริการน้ำมัน ร้านค้าตลาดนัด เป็นต้น ให้เรียกเก็บค่าเช่า ค่าธรรมเนียม ตามอัตราที่กำหนดตามระเบียบและคำสั่งที่ใช้บังคับ ณ เวลานั้น 2.การจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจกรณีพิเศษ ได้แก่ สนามมวย สนามกอล์ฟ สนามม้า และสถานพักฟื้นพักผ่อนให้เรียกเก็บค่าเช่าค่าธรรมเนียมตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

จากนั้น นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสนาธิการทหารบก ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุม โดยนายประสงค์ กล่าวว่า ตั้งแต่พล.อ.อภิรัชต์ ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ได้หารือกับกรมธนารักษ์ โดยเริ่มจัดการเรื่องร้านค้าสวัสดิการ 7-11 ในกองทัพภาคที่ 1 ก่อน และเมื่อขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ก็ได้จัดการร้าน 7-11 ในกองทัพบกขึ้น สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในระบบการเช่า โดยใช้พื้นที่เชิงธุรกิจกับกรมธนารักษ์ เมื่อได้ดำเนินการมาและเห็นว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ จึงได้คุยกันต่อว่าจะทำอย่างไรให้การทำสวัสดิการเชิงธุรกิจเกิดขึ้น เช่น โรงแรมที่สวนสนประดิพัทธ์ จากเดิมกองทัพบกเริ่มจากสวัสดิการที่ดูแลทหารที่เจ็บป่วย และกำลังพลที่ไปพักผ่อน จากนั้นก็จะมีญาติของทหาร และผู้ที่รู้จักเข้ามาพักจึงกลายเป็นเชิงธุรกิจ จึงมองว่าจะทำอย่างไรให้ถูกต้องในส่วนอื่นด้วย เช่น ปั้มน้ำมัน สนามมวย สนามกอล์ฟ ทาง พล.อ.อภิรัชต์ จึงได้คุยว่าจะทำอย่างไรให้เกิดขึ้นโดยได้หารือกับอธิบดีกรมธนารักษ์คนที่แล้วประมาณเดือนพ.ย.2561 ในขณะเดียวกันก็มาทำความเข้าใจกับคนในกองทัพ แต่ละส่วนงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าใจ เพราะเดิมสวัสดิการแต่ละส่วนงานของกองทัพก็ดูแลกันเอง จึงต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ที่ถูกต้อง

“ก่อนที่จะลงนามในร่างเอ็มโอยู ผบ.ทบ.ได้มีการตรวจร่างเอ็มโอยูประมาณ 1 เดือนครึ่ง วันนี้ถือเป็นวันที่ประสบความสำเร็จและลงนามร่วมกัน ซึ่งที่ดินในส่วนที่เป็นเชิงธุรกิจในการจัดสวัสดิการเชิงธุรกิจจะต้องส่งที่คืนให้กรมธนารักษ์ และกรมธนารักษ์ก็จะเข้าไปบริหารจัดการเชิงธุรกิจ ขณะที่รายได้ก็จะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน” นายประสงค์กล่าว

สำหรับสัดส่วนการแบ่งรายได้ จะเป็นไปตามกฎหมายของกรมธนารักษ์ เพราะแต่ละธุรกิจมีการคิดสัดส่วนไม่เท่ากันเนื่องจากบางธุรกิจมีกำไรน้อย ส่วนแบ่งก็จะอยู่ในระดับหนึ่ง อีกทั้งต้องมองทำเลและมูลค่าเป็นส่วนประกอบ เช่น ปั้มน้ำมันของกองทัพบกที่จำนวน 100 กว่าปั้ม ก็จะมีการประเมินมูลค่าที่ดิน ทรัพย์สิน และราคาเช่าที่ควรจะเก็บ ในส่วนของตลาดนัดภายในหน่วยงาน กองทัพบกและกรมธนารักษ์จะลงพื้นที่เพื่อพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง ทั้งนี้ ในส่วนของปั้มน้ำมันกองทัพบก กรมธนารักษ์จะแบ่งสัดส่วนกลับคืนให้กองทัพบกไม่ต่ำกว่า 2.5-5% ขึ้นไป และบางอย่างก็ 7.5% ขณะที่ที่ดินที่ของกองทัพบกที่กรมธนารักษ์จะต้องเข้าไปดูแลมีประมาณ 1 ล้านไร่

ด้าน พล.อ.ธีรวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากนี้กองทัพบก จะดำเนินการยื่นโครงการต่างๆ ให้กรมธนารักษ์พิจารณาว่าในแต่ละโครงการจะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ยืนยัน คือ ไม่ว่าจะดำเนินการในลักษณะใด เช่นจะเป็นลักษณะสวัสดิการภายในหน่วย หรือสวัสดิการเชิงธุรกิจ ทางกำลังพลและครอบครัวของกองทัพบก ยังคงได้รับสิทธิที่จะได้รับค่าใช้บริการในราคาต่ำ และได้รับการลดราคา การดำเนินการในลักษณะเช่นนี้ทั้งสถานพักฟื้นพักผ่อน สนามกอล์ฟ ไม่ได้มีเฉพาะกองทัพบกไทย แต่กองทัพบกต่างประเทศเช่นกองทัพบกสหรัฐฯ ก็มีโรงแรม และสนามกอล์ฟเช่นกัน โดยกองทัพบกสหรัฐฯ มีสนามกอล์ฟ 160 แห่งที่บริหารเช่นเดียวกัน

"สิ่งที่กองทัพบกทำในวันนี้ คือ ทำให้เกิดความถูกต้อง สามารถที่จะตรวจสอบได้ โปร่งใส รายได้ภายหลังจากที่เราจ่ายกับกรมธนารักษ์แล้ว ก็นำเงินเข้ากองทุนสวัสดิการกองทัพบก โดยกองทัพบกก็มีระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในกองทัพ พ.ศ.2554 เงินเหล่านี้ก็จะมาดูแลกำลังพล เช่น ทุนการศึกษาบุตร ดูแลสวัสดิการให้กับกำลังพลชั้นผู้น้อย ส่วนกิจการเชิงธุรกิจของกองทัพบกแต่ละปีไม่ถึง 1 พันล้าน เพราะปัจจุบันดำเนินการในเชิงสวัสดิการภายใน หากทำในเชิงธุรกิจก็ต้องปรับปรุงพื้นที่ และไม่ใช่มืออาชีพ จึงไม่ได้มีรายได้มาก”เสนาธิการทหารบก กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น