ผู้จัดการรายวัน360-ดับได้แล้ว ไฟไหม้ “ภูกระดึง” สรุปวอด 3.4 พันไร่ ส่วนใหญ่เป็นป่าสน เผยไม่มีเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวได้รับอันตราย ไม่มีทรัพย์สินเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ไฟไหม้ป่าลุกลามบนยอดอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ตั้งแต่คืนวันที่ 16 ก.พ.2563 และลุกลามเป็นวงกว้าง พื้นที่เสียหายประมาณ 3,400 ไร่ โดยมีเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าท่ามกลางสภาพพื้นที่ที่แห้งแล้ง ประกอบกับสภาพกระแสลมพัดแรง ทำให้เกิดลูกไฟพัดลอยข้ามแนวกันไฟมาตกในพื้นที่บริเวณหลังแป ใกล้ผาเมษา ห่างจากขอบหน้าผาประมาณ 400 เมตร
ล่าสุด วานนี้ (17 ก.พ.) เพจ “ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” ได้รายงานความคืบหน้า โดยนายอดิสร เหมทานนท์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการดับไฟป่า แจ้งว่า เมื่อเวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟป่าบนหลังแปยอดภูกระดึงได้แล้ว และได้ประเมินพื้นที่เสียหายรวมทั้งสิ้นประมาณ 3,400 ไร่ เบื้องต้นไม่มีเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวผู้ใดได้รับอันตรายและไม่มีทรัพย์สินของทางราชการรวมถึงของผู้ประกอบการได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
นายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวว่า ได้คุมไฟไว้ได้หมดแล้ว และได้ใช้รถแท็กเตอร์ทำแนวกั้นไฟ เพื่อไม่ให้ลุกลามมาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ถือว่าไฟไหม้ครั้งนี้ เป็นการสูญเสียพื้นที่ป่าสน ซึ่งเป็นเสน่ห์ของภูกระดึงไป ถือเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 8 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พื้นที่ที่เสียหาย ส่วนใหญ่เป็นป่าต้นสนสองใบและสนสามใบ โดยเป็นความเสียหายมากในรอบ 20 ปี ของการเกิดไฟไหม้ป่าบนภูกระดึง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ไฟไหม้ป่าลุกลามบนยอดอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ตั้งแต่คืนวันที่ 16 ก.พ.2563 และลุกลามเป็นวงกว้าง พื้นที่เสียหายประมาณ 3,400 ไร่ โดยมีเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าท่ามกลางสภาพพื้นที่ที่แห้งแล้ง ประกอบกับสภาพกระแสลมพัดแรง ทำให้เกิดลูกไฟพัดลอยข้ามแนวกันไฟมาตกในพื้นที่บริเวณหลังแป ใกล้ผาเมษา ห่างจากขอบหน้าผาประมาณ 400 เมตร
ล่าสุด วานนี้ (17 ก.พ.) เพจ “ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” ได้รายงานความคืบหน้า โดยนายอดิสร เหมทานนท์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการดับไฟป่า แจ้งว่า เมื่อเวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟป่าบนหลังแปยอดภูกระดึงได้แล้ว และได้ประเมินพื้นที่เสียหายรวมทั้งสิ้นประมาณ 3,400 ไร่ เบื้องต้นไม่มีเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวผู้ใดได้รับอันตรายและไม่มีทรัพย์สินของทางราชการรวมถึงของผู้ประกอบการได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
นายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวว่า ได้คุมไฟไว้ได้หมดแล้ว และได้ใช้รถแท็กเตอร์ทำแนวกั้นไฟ เพื่อไม่ให้ลุกลามมาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ถือว่าไฟไหม้ครั้งนี้ เป็นการสูญเสียพื้นที่ป่าสน ซึ่งเป็นเสน่ห์ของภูกระดึงไป ถือเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 8 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พื้นที่ที่เสียหาย ส่วนใหญ่เป็นป่าต้นสนสองใบและสนสามใบ โดยเป็นความเสียหายมากในรอบ 20 ปี ของการเกิดไฟไหม้ป่าบนภูกระดึง