นับตั้งแต่วันที่ 8 เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา มีคนไข้ติดเชื้อโนเวล โคโรนาไวรัส ในเมืองอู่ฮั่นรายแรก ตามมาด้วยการระบาดในเกือบ 30 ประเทศ และผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน ใครจะคาดคิดว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อ ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง
แม้กระทั่งในภาคการศึกษา มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ และออสเตรเลียมีโอกาสสูญเสียรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ ถ้านักศึกษาจีนไม่สามารถเข้าเรียนได้ทันภาคการศึกษาในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านี้ได้ทัน เพราะมีคำสั่งการห้ามเข้าประเทศ
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ห้ามผู้ที่เดินทางจากจีนในช่วงการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสเข้าประเทศเด็ดขาด และมาตรการเดียวกันก็ถูกนำมาใช้ในออสเตรเลียด้วย
ซ้ำร้ายนักศึกษาชาวจีนที่อยู่ในอู่ฮั่น และมณฑลหูเป่ย ก็ถูกห้ามออกนอกพื้นที่ด้วยซ้ำ ดังนั้นอาจไม่มีโอกาสได้กลับเข้าสหรัฐฯ และออสเตรเลียได้ทันเวลา และไม่ยอมจะเรียนผ่านระบบทางไกลเพราะถือว่าไม่คุ้มกับเงินจ่ายเป็นค่าหน่วยกิตในราคาแพง
การศึกษาในสหรัฐฯ ค่าเรียนโดยทั่วไปประมาณปีละ 1 ล้านบาท ในออสเตรเลียอาจต่ำกว่านั้นเล็กน้อย แต่เนื่องด้วยมีนักศึกษาจากจีนเป็นจำนวนมาก การเลื่อนการลงทะเบียนเรียนในภาคการศึกษานี้จะทำให้มหาวิทยาลัยขาดรายได้จำนวนมาก
และเป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยทุกแห่งต่างต้องการรายได้หลังจากประสบปัญหาเศรษฐกิจ และจำนวนนักศึกษาที่มีแนวโน้มจะลดลง เพราะมีคนส่วนหนึ่งมองไม่เห็นความจำเป็นต้องเข้าเรียนในระบบที่เป็นอยู่ อาจเลือกศึกษาเองผ่านสื่อออนไลน์
ทุกวันนี้มีหลักสูตรสอนออนไลน์ ยิ่งผู้ที่ไม่จำเป็นต้องการปริญญา แต่ต้องการความรู้ก็เลือกที่จะเรียนเฉพาะวิชาที่น่าสนใจ และไม่ต้องการวุฒิบัตรเพื่อสมัครงาน นักธุรกิจมหาเศรษฐียุคนี้ต่างไม่จบมหาวิทยาลัย และมองว่าเป็นการเสียโอกาสสร้างตัว
กรณีที่เกิดขึ้นสำหรับนักศึกษาจีน มีรายหนึ่ง ซู่ หมิงจื้อ ควรจะได้ไปนั่งเรียนในมหาวิทยาลัยนิวยอร์กในสัปดาห์นี้แล้ว แต่ว่าต้องอยู่ในบ้าน ออกไปไหนลำบากเพราะอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ในเมืองอู่ฮั่น ต้นแหล่งของการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส
รัฐบาลจีนสั่งปิดอู่ฮั่นและอีกหลายเมืองในมณฑลหูเป่ยเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อ ซึ่ง ณ เวลาเกือบ 5 ทุ่ม วันที่ 16 ที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยมีเกือบ 7 หมื่นราย มีผู้เสียชีวิต 1,667 ราย ส่วนใหญ่ยังอยู่ในจีน มีการระบาดใน 29 ประเทศ
ถ้าออกจากอู่ฮั่นไปได้ ก็จะเข้าไปในสหรัฐฯ ไม่ได้ เพราะคำสั่งห้ามเข้า
อีกรายหนึ่งเป็นนักศึกษาหญิงที่กำลังศึกษาในออสเตรเลียและเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านช่วงตรุษจีน ก็อาจไม่มีโอกาสได้ทันเรียนในภาคการศึกษาใหม่ในเมืองซิดนีย์ในอีกเดือนกว่าจากนี้ไป จำเป็นต้องเลื่อนการจบวิชากฎหมายไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน
มีอย่างน้อย 60 ประเทศที่ออกคำสั่งห้ามคนจีนเข้าประเทศเพราะการระบาดของเชื้อไวรัสตัวนี้ และนักศึกษาทั้ง 2 คนไม่ใช่เผชิญปัญหานี้ตามลำพัง เพราะตัวเลขระบุว่าในปี 2017 มีนักศึกษาชาวจีนประมาณ 9 แสนคนศึกษาอยู่ในต่างประเทศ
ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าวเป็นนักศึกษาจีนที่กำลังเรียนในสหรัฐฯ และออสเตรเลีย ใช้จ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์เข้าระบบเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ และกำลังจะขาดตอนถ้านักศึกษาหลายแสนคนไม่สามารถกลับไปลงทะเบียนเรียนได้ทัน
นับว่าเป็นรายได้มหาศาล แต่ไม่มีตัวเลขระบุชัดว่าประมาณ 3.8 แสนคนของนักศึกษาชาวจีนในสหรัฐฯ อยู่ในช่วงที่เดินทางออกนอกประเทศขณะนี้มากน้อยเท่าไหร่ เพราะรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งห้ามนักศึกษาชาวจีนเข้าประเทศตั้งแต่ 31 มกราคม
ต่างกับออสเตรเลียซึ่งคำสั่งห้ามอยู่ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทางการออสเตรเลียประเมินว่า 56 เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษาจีนหรือ 106,680 คน ยังอยู่นอกประเทศ และภาคการศึกษาใหม่จะเริ่มในปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนมีนาคม ถือว่าเป็นช่วงไม่เหมาะมากๆ
ทั้งนี้เพราะว่าช่วงนี้มีคนจีนเดินทางไปเยือนออสเตรเลียมากเป็นพิเศษ เมื่อการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้นักศึกษาเดินทางกลับบ้านไปฉลองเทศกาลเช่นกัน และส่วนใหญ่ก็ตายใจ นึกว่าการระบาดจะอยู่ในพื้นที่จำกัด
ในกรณีของซู่หนุ่มอู่ฮั่น ยังไม่รู้ว่าจะได้กลับไปเรียนสหรัฐฯ เมื่อไหร่ แม้มีข้อเสนอให้เรียนในระบบระยะไกล ก็ไม่ยอมเพราะถือว่าได้จ่ายเงินค่าเรียนมากถึง 62,000 ดอลลาร์ต่อปี ดังนั้นจึงตัดสินใจพักการเรียน เลื่อนการเรียนจบและรับปริญญาไป 6 เดือน
ค่าเรียนในออสเตรเลียสำหรับนักศึกษาหญิงรายดังกล่าวนั้นเป็นเพียง 30,280 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งมากกว่าจำนวนเงินที่นักศึกษาชาวออสเตรเลียต้องจ่าย ช่วงการประกาศห้ามเข้าประเทศวันที่ 1 กุมภาพันธ์ มีชาวจีนอยู่ในช่วงยังอยู่ในเครื่องบิน
ทั้งหมดมีคนจีน 80 ราย และในนั้น 47 คนเป็นนักศึกษา ทำให้นักศึกษา 18 รายเลือกที่จะเดินทางกลับประเทศ ที่เหลือที่ต้องการเข้าออสเตรเลียก็ถูกให้เข้าอยู่ในพื้นที่กักตัวเพื่อดูอาการนาน 14 วันซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ลำบากมากสำหรับนักศึกษา
มหาวิทยาลัยต่างๆ จำเป็นต้องเร่งหาทางออกสำหรับนักศึกษาต่างชาติและจีน
ถ้านักศึกษาจีนหลายพันคนต้องเลื่อนการลงทะเบียนเรียนในภาคนี้ มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ และออสเตรเลียต้องสูญเสียรายได้ไปหลายพันล้านดอลลาร์ ในออสเตรเลีย จำนวน 23.3 เปอร์เซ็นต์ของรายได้มหาวิทยาลัย มาจากนักศึกษาต่างชาติในปี 2017
นักศึกษาจีนมีเป็นจำนวน 38 เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษานานาชาติในออสเตรเลียในปี 2018 ซึ่งยอดรายได้จากนักศึกษาต่างชาติสูงมากถึง 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นเงินไม่น้อยสำหรับเศรษฐกิจของออสเตรเลียในช่วงปีงบประมาณ 2018-19
ในสหรัฐฯ นักศึกษาจีนใช้จ่าย 14.9 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ในปี 2018