นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง การประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ที่จะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (13 ก.พ.) เป็นต้นไปว่า เรื่ององค์ประชุมสภาฯ เป็นหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาลเสียงข้างมาก และส.ส.ทุกคน แต่รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบมากกว่าอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายงบประมาณฯ เป็นเรื่องที่ค้างการพิจารณามาพอสมควรแล้ว จึงต้องหาทางช่วยกันเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
ทั้งนี้ เมื่อมีการเริ่มต้นในวาระที่ 2 ใหม่ ส.ส.ย่อมมีสิทธิ์อภิปรายได้เต็มที่ แต่เนื่องจากเคยอภิปรายกันเต็มที่มาแล้ว ดังนั้นกระบวนการจากนี้น่าจะประหยัดเวลาลงไปได้ ประกอบกับส.ส. ย่อมทราบดีว่าเป็นเรื่องที่พิจารณากันมาแล้ว คงจะไม่มีการลงรายละเอียดกันมากนัก ทั้งนี้ ยังไม่ได้กำหนดกรอบการพิจารณา แต่คิดว่าการพิจารณาไม่น่าจะช้า
"อยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน อย่างน้อยกฎหมายนี้เป็นกฎหมายสำคัญที่ต้องมีเงินไปใช้จ่ายสำหรับทุกองค์กร" นายชวน กล่าว
ด้านคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ร่วมแถลงถึงมติของวิปฝ่ายค้าน โดยนายสุทิน กล่าวว่า มติ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 ครั้งที่ 2 ในวันนี้(13 ก.พ.) ได้กำหนดให้ ส.ส.ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน มาลงชื่อเป็นองค์ประชุมตามปกติ แต่จะไม่อยู่ร่วมประชุมด้วย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ในการดำเนินการ เพราะสาเหตุเกิดจากฝ่ายรัฐบาลเสียบบัตรแทนกัน นอกจากนี้ การที่ไม่ขอร่วมลงมติด้วย เพราะกังวลว่า อาจจะขัด มาตรา 143 เรื่องกรอบเวลา 105 วัน ซึ่งอาจสุ่ม เสียงต่อการกระทำที่ขัดกฎหมาย
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ส.ส.ที่เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง หากยังเพิกเฉย ฝ่ายค้านก็จะพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนอื่นๆ ต่อไป พร้อมเชื่อมั่นว่ากรณีการเสียบบัตรเเทนกัน จะมีเฉพาะในส่วนของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น ไม่มีฝ่ายค้านแน่
"ความรับผิดชอบทางการเมือง เป็นสิ่งที่นักการเมืองทุกคนต้องมี ซึ่งการรับผิดชอบสูงสุดคือ การลาออก ฝ่ายค้านจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่เสียบบัตรแทนกัน รับผิดชอบด้วยการลาออก เพราะทำให้สภาฯเสียหาย หากไม่แสดงความรับผิดชอบ จะยื่นฟ้องอาญาต่อไปหรือไม่ คงต้องให้โอกาสและเวลากับฝ่ายรัฐบาลก่อน" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรธน. มีผลผูกพันกับทุกองค์กร จึงต้องจำกัดอำนาจไว้เท่าที่รธน. กำหนดไว้เท่านั้น กรณีนี้หากศาลฯ เห็นว่ากระบวนการตรากฎหมายเป็นไปโดยไม่ชอบ ก็ต้องให้ร่างกฎหมายตกไปทั้งฉบับ และการที่ระบุให้สภาฯ พิจารณาลงมติในวาระ 2 และ 3 ใหม่นั้น ถือว่าเป็นการวินิจฉัยเกินกว่าที่รธน. กำหนดเอาไว้ ดังนั้นหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ในอนาคตจะเกิดปัญหาว่า ศาลรธน. จะกลายเป็น ซูเปอร์รธน. และอยู่เหนือรธน.ทั้งหมด ซึ่งจะกระทบต่อการถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายต่างๆ ทั้งตุลาการ นิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ตามระบอบประชาธิปไตย
ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรอง ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึง กรณีฝ่ายค้านอาจจะงดการเข้าร่วมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. งบฯ 63 วาระ 2 และ 3 ว่า หากฝ่ายค้านยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วม ฝ่ายรัฐบาลก็มีหน้าที่สำคัญ คือ การรักษาองค์ประชุม และการลงมติให้ครบถ้วน
ทั้งนี้ เมื่อมีการเริ่มต้นในวาระที่ 2 ใหม่ ส.ส.ย่อมมีสิทธิ์อภิปรายได้เต็มที่ แต่เนื่องจากเคยอภิปรายกันเต็มที่มาแล้ว ดังนั้นกระบวนการจากนี้น่าจะประหยัดเวลาลงไปได้ ประกอบกับส.ส. ย่อมทราบดีว่าเป็นเรื่องที่พิจารณากันมาแล้ว คงจะไม่มีการลงรายละเอียดกันมากนัก ทั้งนี้ ยังไม่ได้กำหนดกรอบการพิจารณา แต่คิดว่าการพิจารณาไม่น่าจะช้า
"อยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน อย่างน้อยกฎหมายนี้เป็นกฎหมายสำคัญที่ต้องมีเงินไปใช้จ่ายสำหรับทุกองค์กร" นายชวน กล่าว
ด้านคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ร่วมแถลงถึงมติของวิปฝ่ายค้าน โดยนายสุทิน กล่าวว่า มติ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 ครั้งที่ 2 ในวันนี้(13 ก.พ.) ได้กำหนดให้ ส.ส.ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน มาลงชื่อเป็นองค์ประชุมตามปกติ แต่จะไม่อยู่ร่วมประชุมด้วย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ในการดำเนินการ เพราะสาเหตุเกิดจากฝ่ายรัฐบาลเสียบบัตรแทนกัน นอกจากนี้ การที่ไม่ขอร่วมลงมติด้วย เพราะกังวลว่า อาจจะขัด มาตรา 143 เรื่องกรอบเวลา 105 วัน ซึ่งอาจสุ่ม เสียงต่อการกระทำที่ขัดกฎหมาย
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ส.ส.ที่เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง หากยังเพิกเฉย ฝ่ายค้านก็จะพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนอื่นๆ ต่อไป พร้อมเชื่อมั่นว่ากรณีการเสียบบัตรเเทนกัน จะมีเฉพาะในส่วนของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น ไม่มีฝ่ายค้านแน่
"ความรับผิดชอบทางการเมือง เป็นสิ่งที่นักการเมืองทุกคนต้องมี ซึ่งการรับผิดชอบสูงสุดคือ การลาออก ฝ่ายค้านจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่เสียบบัตรแทนกัน รับผิดชอบด้วยการลาออก เพราะทำให้สภาฯเสียหาย หากไม่แสดงความรับผิดชอบ จะยื่นฟ้องอาญาต่อไปหรือไม่ คงต้องให้โอกาสและเวลากับฝ่ายรัฐบาลก่อน" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรธน. มีผลผูกพันกับทุกองค์กร จึงต้องจำกัดอำนาจไว้เท่าที่รธน. กำหนดไว้เท่านั้น กรณีนี้หากศาลฯ เห็นว่ากระบวนการตรากฎหมายเป็นไปโดยไม่ชอบ ก็ต้องให้ร่างกฎหมายตกไปทั้งฉบับ และการที่ระบุให้สภาฯ พิจารณาลงมติในวาระ 2 และ 3 ใหม่นั้น ถือว่าเป็นการวินิจฉัยเกินกว่าที่รธน. กำหนดเอาไว้ ดังนั้นหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ในอนาคตจะเกิดปัญหาว่า ศาลรธน. จะกลายเป็น ซูเปอร์รธน. และอยู่เหนือรธน.ทั้งหมด ซึ่งจะกระทบต่อการถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายต่างๆ ทั้งตุลาการ นิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ตามระบอบประชาธิปไตย
ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรอง ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึง กรณีฝ่ายค้านอาจจะงดการเข้าร่วมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. งบฯ 63 วาระ 2 และ 3 ว่า หากฝ่ายค้านยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วม ฝ่ายรัฐบาลก็มีหน้าที่สำคัญ คือ การรักษาองค์ประชุม และการลงมติให้ครบถ้วน
