ข่าวปนคน คนปนข่าว
**แชตไลน์หลุด ปารีณาVsธรรมนัส ..."สาวเอ๋" ยิ่งพูด ยิ่งเคลื่อนไหว ยิ่งส่ออาการ !! ส่วนรมช.เกษตรฯ สวนเบาๆ กฎหมายต้องใช้มาตรฐานเดียวกัน
หลังแชตไลน์ "เอ๋" ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พิมพ์ต่อว่า "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ แพร่ออกมา ก็ตกเป็นกระแสวิจารณ์กันต่างๆนานาสนั่นลั่นทุ่งโซเชียลฯ
แน่นอนว่า เจตนาของคนปล่อยย่อมต้องการ ดิสเครดิตใครสักคนในสองคนนี้ ทั้งๆ ที่เป็นคนพลังประชารัฐด้วยกัน แต่ช่วยอะไรกันไม่ได้ แถมยัง "กระทืบ" กันอีกตามคำที่ "เอ๋" ใช้ต่อว่า"ธรรมนัส"ในไลน์
โดยข้อความเต็มๆ ส่วนนี้มีว่า "ถ้ารองเลขาฯพูดว่า ถ้าเอ๋ฟ้องก็ไม่ชนะ และจะโดนอาญา เอ๋ ก็ขอฟ้องแล้วกัน แต่ถ้าเอ๋ชนะ พี่ช่วยลาออกจากรัฐมนตรีได้ไหมคะ เพราะพี่ไม่ได้ช่วยอะไรเอ๋เลย มีแต่กระทืบ เอ๋"
ว่าไปแล้ว กรณีแบบนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ว่ากันเฉพาะ "เอ๋ และ ร.อ.ธรรมนัส" หาก เอ๋ ไม่เล่นใหญ่ แคปหน้าจอแชตไลน์ไปลงในไลน์กลุ่ม ส.ส.พลังประชารัฐ ก่อนจะเป็นแชตหลุดออกสื่อ
ไม่รู้ว่า"ปารีณา" คิดอะไร เมื่อเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง "ทะเลาะกันแค่ในพรรคนะคะ" อย่างที่ เอ๋ แชตออกตัวแต่ข้อความที่ "ปารีณา"พิมพ์ต่อจากไลน์ที่แคปส่งไปว่า ... “#ธรรมนัสvsปารีณา ที่ผ่านมาไว้ใจ และปฏิบัติตาม แต่ชีวิตแม่งชิบหายแล้วใครรับผิดชอบชีวิตปารีณา ใครช่วย ว่ากันตามกฎหมายไหม ไม่ใช่กฎกู ว่ากันที่ศาลดีกว่า ถ้าจะทำอย่างงี้ แล้วยังจะมาขู่กูอีกไอ้บ้า"
ปมนี้ไม่ใช่จู่ๆ จะผุดขึ้นมา ใครๆ ก็รู้ว่า "เอ๋" ปารีณาไม่พอใจต่อ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ ต่อกรณีที่ตัวเองและบิดา คือ "ทวี ไกรคุปต์" นั้นถูกโจมตี และกำลังส่อว่าจะถูกดำเนินคดี กรณีบุกรุกและครอบครองที่ดินของรัฐ ในจ.ราชบุรี
ว่ากันว่า เรตติ้งแชตไลน์หลุดนี้ พุ่งปรี๊ดในโลกโซเชียลฯ เป็นข่าวพาดหัวในหน้า นสพ. ลึกๆ "เอ๋" คงหวังเปิดวอร์ เพื่อประจาน ร.อ.ธรรมนัส แต่พอคนเขาเรียกสติกันได้ ก็พากันตั้งคำถาม.. ก็แล้ว "เอ๋" จะให้ "ธรรมนัส" ช่วยยังไงล่ะ ?
ของแบบนี้ชั่วดีอยู่ที่ตัวคน จะผิดจะถูก ก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย เรื่องของกฎหมายจะต่อรองกันได้หรือ ?
เมื่อปรากฏว่า "ปารีณา" ถูกกล่าวหารุกที่ป่า ยกเว้น "ทวี ไกรคุปต์" ผู้พ่อก็พยายามออกมาปกป้องสุดลิ่มทิ่มประตู ร.อ.ธรรมนัส แค่ออกมาพูดตามหลักการ ก็โดนเละ หาว่าเข้าข้างกัน
"ปารีณา" ไม่น่าจะลืมว่า แม้"ธรรมนัส" เป็นคนของพลังประชารัฐ เหมือนปารีณา แต่สถานะหนึ่งของธรรมนัส เป็น รมช.เกษตรฯ มีหน้าที่ดูแลเรื่องนี้ ผิดหรือถูกยังต้องว่ากัน แต่รมช.ธรรมนัส ย่อมไม่ได้มีหน้าที่ต้องทำขาวให้เป็นดำ หรือ ดำให้เป็นขาว ช่วยคนของพรรคโดยไม่ลืมหูลืมตาดูข้อเท็จจริง ดูกฎหมาย
"ปารีณา" ออกมายอมรับว่า แชตไลน์ที่หลุดเป็นไลน์ของตนเองจริงๆ บอกว่า เป็นคนตรงและแรง แต่ออกมาจากใจ และเป็นการพูดคุยกันในไลน์กลุ่มส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งความจริงพูดคุยปัญหากันหลายเรื่อง และไม่เข้าใจว่า คนที่นำข้อมูลไปเผยแพร่ มีวัตถุประสงค์อะไร ดังนั้นคนที่เอาไปส่งให้สื่อต้องเป็น ส.ส.อยู่แล้ว แต่คงจะไม่เอาเรื่องใคร ... ขอปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปดีกว่า
ส่วนข้อความในแชต ที่ดูว่าแรง ด่ากัน แสดงให้เห็นความขัดแย้งระหว่างเธอ กับร.อ.ธรรมนัส นั้น ปารีณา ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีรอยร้าวอะไร "เราเป็นผู้น้อย จะกล้าไปมีปัญหากับผู้ใหญ่ได้อย่างไร" และเรื่องนี้เป็นแค่ปัญหาภายใน
"ปารีณา" ยังบอกว่า ตัวเองและ ร.อ.ธรรมนัส ยังไม่ได้พูดคุยหรือเคลียร์ปัญหาตามที่ปรากฏข้อความในไลน์ เพราะต่างคนต่างก็มีภารกิจลงพื้นที่พบประชาชน และส่วนใหญ่จะได้เจอกับ ร.อ.ธรรมนัส ในวันพุธ และพฤหัสบดี ที่มีการประชุมสภาฯ เท่านั้น
ส่วน"ร.อ.ธรรมนัส" ล่าสุดไปลงพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเปิดงาน ตลาดเกษตรอินทรีย์ GPS ตลาดใต้ไผ่
ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า ไม่ต้องชี้แจงอะไร ไม่ได้คุยกับ ปารีณา ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากว่าฝ่ายกฎหมายของ สปก. ได้หาแนวทางการแก้ปัญหา ในเรื่องที่ดินของปารีณา โดยได้ให้นโยบายไปแล้ว ให้ใช้กฎหมายในมาตรฐานเดียวกันหมดซึ่ง "บางทีมันอาจจะไม่ถูกใจสำหรับนักการเมืองบางคน"
"ปารีณา" ช่วงนี้ขยันเป็นข่าว ความวัวไม่ทันหาย กลัวงานเข้าไม่พอ ก็ต่อด้วยเรื่องควาย...มาแชตหลุดนี้
งานนี้คนที่เสียคือ"เอ๋" ปารีณา เข้าทำนอง ยิ่งพูด ยิ่งเคลื่อนไหว ยิ่งส่ออาการ.
** ดรามา "4ส.ส.งูเห่า" อนาคตใหม่ ยังไม่จบ เมื่อนายทะเบียนพรรคเพิ่งแจ้งกกต. 4 ส.ส.ยังเป็นสมาชิกพรรค "กวินนาถ"โพสต์คลิปแฉมติขับพ้นพรรคชัดเจน แต่"ปิยบุตร"ยังอ้างตรวจสอบไม่เสร็จ
คงพอจำกันได้ว่า"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" เรียกชุมนุม "แฟลชม็อบ" ที่สกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.62 คล้อยหลังจากที่กกต.มีมติส่งเรื่องเงินกู้ให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในวันนั้นมีผู้มาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก
"ธนาธร" คงถือคติตีเหล็กกำลังร้อน จึงเรียกประชุมวิสามัญพรรค เพื่อพิจารณา ขับ 4 ส.ส. ที่โหวตสวนมติพรรคในวันที่ 16 ธ.ค. หวังเรียกกระแสนิยม ว่าพรรคเอาจริงกับผู้ที่ฝืนมติ และที่ประชุมก็มีมติขับ 4 ส.ส.พ้นพรรคไปตามคาด ... แต่ตามรัฐธรรมนูญ ระบุว่า การขับสมาชิกพรรค ต้องใช้มติของที่ประชุมใหญ่ที่ประกอบด้วยส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ดังนั้นพรรคจึงต้องเรียกประชุมอีกครั้ง ในวันที่ 17 ธ.ค.62 และครั้งนี้ ที่ประชุมใหญ่ มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ขับ4ส.ส. มีการแถลงข่าวเป็นที่รับรู้กันทั่ว
4 ส.ส.ถูกขับพ้นพรรค ต้องหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 30 วัน เพื่อรักษาสถานภาพการเป็นส.ส. ซึ่งเดดไลน์ ก็คือ วันที่ 16 ม.ค.63 ซึ่งระหว่างนี้ "กวินนาถ ตาคีย์" ส.ส.ชลบุรี และ "จารึก ศรีอ่อน" ส.ส.จันทบุรี ได้เข้าสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไท ของ "ชัช เตาปูน" และได้แจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองไปเรียบร้อย...
ส่วน"ศรีนวล บุญลือ" ส.ส.เชียงใหม่ ที่จะเข้าพรรคภูมิใจไทย และ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี ก็เตรียมจะเข้าพรรคพลังประชารัฐ แต่ทางพรรคต้นสังกัดใหม่ ยังไม่ได้ทำเรื่องเข้าพรรคให้ เพราะไม่มีหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าพ้นสมาชิกภาพจากพรรคอนาคตใหม่แล้ว
เพราะในระหว่าง 30 วันนี้ นอกจากพรรคอนาคตใหม่ จะไม่ทำหนังสือแจ้งแก่ผู้ที่ถูกขับออกจากพรรค แล้วยังไม่ได้แจ้งต่อ กกต. ถึงมติพรรค ที่ขับ 4 ส.ส.ออกจากพรรค และไม่แจ้งจำนวนสมาชิกพรรคที่เปลี่ยนแปลงไปในรอบปี ที่กำหนดต้องแจ้งภาย ในวันที่ 15 ม.ค.63 ...
กระทั่งกระทั่งวันที่ 17ม.ค.63 กกต. เพิ่งได้รับหนังสือแจ้งจากพรรคอนาคตใหม่ โดยส่งทางไปรษณีย์ ลงวันที่ 15 ม.ค. ปรากฏว่า ทั้ง 4 คน ยังมีชื่อเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ และยังไม่ได้แจ้งมติการขับ 4 ส.ส. ออกจากพรรค
ปัญหาจึงเกิดขึ้นกับทั้ง 4 คน โดย 2 คน แรกเจอปัญหาการเป็นสมาชิก 2 พรรคการเมืองในเวลาเดียวกัน อาจถูกนายทะเบียน ลบชื่อออกจากทั้งสองพรรค ก็จะทำให้ "กวินนาถ-จารึก" สิ้นสภาพ ส.ส.ได้ ... ส่วน "ศรีนวล-พ.ต.ท.ฐนภัทร" ก็ยังไปเข้าสังกัดพรรคใหม่ตามที่ต้องการไม่ได้
"ปิยบุตร แสงกนกกุล" เลขาธิการพรรค อ้างว่า ไม่มั่นใจในมติพรรคที่ขับ 4 ส.ส. ในวันที่ 17 ธ.ค.62 นั้น องค์ประชุมถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ จึงต้องใช้เวลาตรวจสอบ เพราะองค์ประชุม นอกจากส.ส.-กรรมการบริหารพรรคแล้วยังต้องมีตัวแทนภาคด้วย...จึงขอไปตรวจสอบก่อน แต่เนื่องจากพรรคมีคดี ที่ถูกฟ้องร้องมากมาย จึงไม่มีเวลามาดูเรื่องนี้
เมื่อออกมาในรูปนี้ อย่าว่าแต่ 4 ส.ส.เลย ...แม้แต่คนทั่วไปยังมองว่า นี่เป็นการกลั่นแกล้งเอาคืน โดยใช้เงื่อนไขกฎหมายมาสร้างความลำบาก ยุ่งยากให้กับ 4 ส.ส. เพราะการส่งยอดรายชื่อสมาชิกไปให้ กกต. ยังส่งในวันสุดท้าย และส่งทางไปรษณีย์ จนไปถึงกกต.ในวันที่เลยเดดไลน์ไปแล้ว ... ขณะที่การตรวจสอบองค์ประชุมของพรรคในวันที่ลงมติ 17 ธ.ค.62 ก็แค่ไปตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม ก็รู้แล้วว่าองค์ประชุมถูกต้องหรือไม่ ให้เจ้าหน้าที่ธุรการตรวจสอบก็ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ระดับผู้บริหารพรรคไปตรวจสอบเอง
กระทั่ง "กวินนาถ" ต้องนำคลิปการประชุมในวันนั้น มาเผยแพร่ ซึ่งก็ปรากฏว่า "ปิยบุตร" ในฐานะเลขาฯพรรค เป็นผู้ดำเนินการประชุมเอง ...ในคลิป "ปิยบุตร" ระบุว่า ตามรธน. มาตรา 101(9) กำหนดไว้ว่า ส.ส.จะพ้นจากสมาชิกพรรคได้ ต้องใช้ที่ประชุมร่วมกันของกรรมการบริหารพรรค และส.ส. โดยต้องมีมติ 3 ใน 4 ปัจจุบัน เรามี ส.ส. 80 ท่าน และมีกรรมการบริหารพรรค15 ท่าน โดยคู่กรณี คือ ทั้ง 4 ท่านส.ส. ถูกเสนอให้ขับออกจากพรรค ก็จะไม่ได้เข้าร่วมประชุม เพราะถือว่ามีส่วนได้ ส่วนเสีย...จากนั้น"ปิยบุตร" ทำการเช็กองค์ประชุม ปรากฏว่ามีส.ส.เขต 21 คน กรรมการบริหารพรรค 12คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 45 คน
"องค์ประชุมในวันนี้ทั้งสิ้น 78 ท่านครับ...องค์ประชุมเราครบถ้วนนะครับ" ปิยบุตร ระบุก่อนขอ มติ และที่ประชุมก็มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ขับ 4ส.ส. ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค...จากนั้นก็ปิดประชุม และไปแถลงข่าว
จึงต้องรอดูว่าในสัปดาห์นี้ หากพรรคอนาคตใหม่ แจ้งกกต.ว่า องค์ประชุม และมติขับ 4 ส.ส.ถูกต้อง ก็ต้องมีการพิจารณาว่า จะต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่าการที่ "ศรีนวล-พ.ต.ท.ฐนภัทร" ยังไม่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ภายในวันที่ 16 ม.ค. 63 เนื่องจากยังไม่ได้รับหลักฐานการถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ จะถือว่าทั้ง 2 คนสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.แล้วหรือไม่
หรือหากรายงานไปว่า องค์ประชุมไม่ครบถ้วน ทำให้มติขับ 4 ส.ส.ไม่ถูกต้อง จะทำให้ น.ส.กวินนาถ และ นายจารึก ที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไท แล้ว กลายเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซ้ำซ้อน 2 พรรคการเมือง นายทะเบียนพรรคการเมือง ต้องลบชื่อออกจากทั้ง 2 พรรค และมีผลทำให้ต้องสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.หรือไม่
จึงน่าจับตามองว่า รายงานของพรรคอนาคตใหม่ จะออกมาอย่างไร จะมีการเล่นแร่แปรธาตุอะไรอีกหรือไม่ เพื่อที่จะล้างแค้น " 4 ส.ส.งูเห่า"... แต่ต้องไม่ลืมว่า ยิ่งเล่นก็อาจเข้าตัวเอง เพราะเวลานี้มีคลิปที่เผยแพร่ไปทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ว่ามีกลเกมโกหกพกลม เอาไว้อย่างไร ใครเขาก็รู้ทันทั้งนั้น
แถมอาจถูกข้อหาแจ้งความเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ อย่างที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายว่าไว้ แล้วจะมาโวยวายว่า ถูกเผด็จการกลั่นแกล้ง มันก็น่าเกลียด และดูถูกสติปัญญาคนไทยเกินไป หรือไม่จริง
--------------------------
รูป - ปารีณา ไกรคุปต์ - ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
-- ปิยบุตร แสงกนกกุล – การประชุมพรรค ในวันที่ 17 ธ.ค.62
**แชตไลน์หลุด ปารีณาVsธรรมนัส ..."สาวเอ๋" ยิ่งพูด ยิ่งเคลื่อนไหว ยิ่งส่ออาการ !! ส่วนรมช.เกษตรฯ สวนเบาๆ กฎหมายต้องใช้มาตรฐานเดียวกัน
หลังแชตไลน์ "เอ๋" ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พิมพ์ต่อว่า "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ แพร่ออกมา ก็ตกเป็นกระแสวิจารณ์กันต่างๆนานาสนั่นลั่นทุ่งโซเชียลฯ
แน่นอนว่า เจตนาของคนปล่อยย่อมต้องการ ดิสเครดิตใครสักคนในสองคนนี้ ทั้งๆ ที่เป็นคนพลังประชารัฐด้วยกัน แต่ช่วยอะไรกันไม่ได้ แถมยัง "กระทืบ" กันอีกตามคำที่ "เอ๋" ใช้ต่อว่า"ธรรมนัส"ในไลน์
โดยข้อความเต็มๆ ส่วนนี้มีว่า "ถ้ารองเลขาฯพูดว่า ถ้าเอ๋ฟ้องก็ไม่ชนะ และจะโดนอาญา เอ๋ ก็ขอฟ้องแล้วกัน แต่ถ้าเอ๋ชนะ พี่ช่วยลาออกจากรัฐมนตรีได้ไหมคะ เพราะพี่ไม่ได้ช่วยอะไรเอ๋เลย มีแต่กระทืบ เอ๋"
ว่าไปแล้ว กรณีแบบนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ว่ากันเฉพาะ "เอ๋ และ ร.อ.ธรรมนัส" หาก เอ๋ ไม่เล่นใหญ่ แคปหน้าจอแชตไลน์ไปลงในไลน์กลุ่ม ส.ส.พลังประชารัฐ ก่อนจะเป็นแชตหลุดออกสื่อ
ไม่รู้ว่า"ปารีณา" คิดอะไร เมื่อเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง "ทะเลาะกันแค่ในพรรคนะคะ" อย่างที่ เอ๋ แชตออกตัวแต่ข้อความที่ "ปารีณา"พิมพ์ต่อจากไลน์ที่แคปส่งไปว่า ... “#ธรรมนัสvsปารีณา ที่ผ่านมาไว้ใจ และปฏิบัติตาม แต่ชีวิตแม่งชิบหายแล้วใครรับผิดชอบชีวิตปารีณา ใครช่วย ว่ากันตามกฎหมายไหม ไม่ใช่กฎกู ว่ากันที่ศาลดีกว่า ถ้าจะทำอย่างงี้ แล้วยังจะมาขู่กูอีกไอ้บ้า"
ปมนี้ไม่ใช่จู่ๆ จะผุดขึ้นมา ใครๆ ก็รู้ว่า "เอ๋" ปารีณาไม่พอใจต่อ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ ต่อกรณีที่ตัวเองและบิดา คือ "ทวี ไกรคุปต์" นั้นถูกโจมตี และกำลังส่อว่าจะถูกดำเนินคดี กรณีบุกรุกและครอบครองที่ดินของรัฐ ในจ.ราชบุรี
ว่ากันว่า เรตติ้งแชตไลน์หลุดนี้ พุ่งปรี๊ดในโลกโซเชียลฯ เป็นข่าวพาดหัวในหน้า นสพ. ลึกๆ "เอ๋" คงหวังเปิดวอร์ เพื่อประจาน ร.อ.ธรรมนัส แต่พอคนเขาเรียกสติกันได้ ก็พากันตั้งคำถาม.. ก็แล้ว "เอ๋" จะให้ "ธรรมนัส" ช่วยยังไงล่ะ ?
ของแบบนี้ชั่วดีอยู่ที่ตัวคน จะผิดจะถูก ก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย เรื่องของกฎหมายจะต่อรองกันได้หรือ ?
เมื่อปรากฏว่า "ปารีณา" ถูกกล่าวหารุกที่ป่า ยกเว้น "ทวี ไกรคุปต์" ผู้พ่อก็พยายามออกมาปกป้องสุดลิ่มทิ่มประตู ร.อ.ธรรมนัส แค่ออกมาพูดตามหลักการ ก็โดนเละ หาว่าเข้าข้างกัน
"ปารีณา" ไม่น่าจะลืมว่า แม้"ธรรมนัส" เป็นคนของพลังประชารัฐ เหมือนปารีณา แต่สถานะหนึ่งของธรรมนัส เป็น รมช.เกษตรฯ มีหน้าที่ดูแลเรื่องนี้ ผิดหรือถูกยังต้องว่ากัน แต่รมช.ธรรมนัส ย่อมไม่ได้มีหน้าที่ต้องทำขาวให้เป็นดำ หรือ ดำให้เป็นขาว ช่วยคนของพรรคโดยไม่ลืมหูลืมตาดูข้อเท็จจริง ดูกฎหมาย
"ปารีณา" ออกมายอมรับว่า แชตไลน์ที่หลุดเป็นไลน์ของตนเองจริงๆ บอกว่า เป็นคนตรงและแรง แต่ออกมาจากใจ และเป็นการพูดคุยกันในไลน์กลุ่มส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งความจริงพูดคุยปัญหากันหลายเรื่อง และไม่เข้าใจว่า คนที่นำข้อมูลไปเผยแพร่ มีวัตถุประสงค์อะไร ดังนั้นคนที่เอาไปส่งให้สื่อต้องเป็น ส.ส.อยู่แล้ว แต่คงจะไม่เอาเรื่องใคร ... ขอปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปดีกว่า
ส่วนข้อความในแชต ที่ดูว่าแรง ด่ากัน แสดงให้เห็นความขัดแย้งระหว่างเธอ กับร.อ.ธรรมนัส นั้น ปารีณา ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีรอยร้าวอะไร "เราเป็นผู้น้อย จะกล้าไปมีปัญหากับผู้ใหญ่ได้อย่างไร" และเรื่องนี้เป็นแค่ปัญหาภายใน
"ปารีณา" ยังบอกว่า ตัวเองและ ร.อ.ธรรมนัส ยังไม่ได้พูดคุยหรือเคลียร์ปัญหาตามที่ปรากฏข้อความในไลน์ เพราะต่างคนต่างก็มีภารกิจลงพื้นที่พบประชาชน และส่วนใหญ่จะได้เจอกับ ร.อ.ธรรมนัส ในวันพุธ และพฤหัสบดี ที่มีการประชุมสภาฯ เท่านั้น
ส่วน"ร.อ.ธรรมนัส" ล่าสุดไปลงพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเปิดงาน ตลาดเกษตรอินทรีย์ GPS ตลาดใต้ไผ่
ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า ไม่ต้องชี้แจงอะไร ไม่ได้คุยกับ ปารีณา ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากว่าฝ่ายกฎหมายของ สปก. ได้หาแนวทางการแก้ปัญหา ในเรื่องที่ดินของปารีณา โดยได้ให้นโยบายไปแล้ว ให้ใช้กฎหมายในมาตรฐานเดียวกันหมดซึ่ง "บางทีมันอาจจะไม่ถูกใจสำหรับนักการเมืองบางคน"
"ปารีณา" ช่วงนี้ขยันเป็นข่าว ความวัวไม่ทันหาย กลัวงานเข้าไม่พอ ก็ต่อด้วยเรื่องควาย...มาแชตหลุดนี้
งานนี้คนที่เสียคือ"เอ๋" ปารีณา เข้าทำนอง ยิ่งพูด ยิ่งเคลื่อนไหว ยิ่งส่ออาการ.
** ดรามา "4ส.ส.งูเห่า" อนาคตใหม่ ยังไม่จบ เมื่อนายทะเบียนพรรคเพิ่งแจ้งกกต. 4 ส.ส.ยังเป็นสมาชิกพรรค "กวินนาถ"โพสต์คลิปแฉมติขับพ้นพรรคชัดเจน แต่"ปิยบุตร"ยังอ้างตรวจสอบไม่เสร็จ
คงพอจำกันได้ว่า"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" เรียกชุมนุม "แฟลชม็อบ" ที่สกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.62 คล้อยหลังจากที่กกต.มีมติส่งเรื่องเงินกู้ให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในวันนั้นมีผู้มาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก
"ธนาธร" คงถือคติตีเหล็กกำลังร้อน จึงเรียกประชุมวิสามัญพรรค เพื่อพิจารณา ขับ 4 ส.ส. ที่โหวตสวนมติพรรคในวันที่ 16 ธ.ค. หวังเรียกกระแสนิยม ว่าพรรคเอาจริงกับผู้ที่ฝืนมติ และที่ประชุมก็มีมติขับ 4 ส.ส.พ้นพรรคไปตามคาด ... แต่ตามรัฐธรรมนูญ ระบุว่า การขับสมาชิกพรรค ต้องใช้มติของที่ประชุมใหญ่ที่ประกอบด้วยส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ดังนั้นพรรคจึงต้องเรียกประชุมอีกครั้ง ในวันที่ 17 ธ.ค.62 และครั้งนี้ ที่ประชุมใหญ่ มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ขับ4ส.ส. มีการแถลงข่าวเป็นที่รับรู้กันทั่ว
4 ส.ส.ถูกขับพ้นพรรค ต้องหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 30 วัน เพื่อรักษาสถานภาพการเป็นส.ส. ซึ่งเดดไลน์ ก็คือ วันที่ 16 ม.ค.63 ซึ่งระหว่างนี้ "กวินนาถ ตาคีย์" ส.ส.ชลบุรี และ "จารึก ศรีอ่อน" ส.ส.จันทบุรี ได้เข้าสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไท ของ "ชัช เตาปูน" และได้แจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองไปเรียบร้อย...
ส่วน"ศรีนวล บุญลือ" ส.ส.เชียงใหม่ ที่จะเข้าพรรคภูมิใจไทย และ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี ก็เตรียมจะเข้าพรรคพลังประชารัฐ แต่ทางพรรคต้นสังกัดใหม่ ยังไม่ได้ทำเรื่องเข้าพรรคให้ เพราะไม่มีหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าพ้นสมาชิกภาพจากพรรคอนาคตใหม่แล้ว
เพราะในระหว่าง 30 วันนี้ นอกจากพรรคอนาคตใหม่ จะไม่ทำหนังสือแจ้งแก่ผู้ที่ถูกขับออกจากพรรค แล้วยังไม่ได้แจ้งต่อ กกต. ถึงมติพรรค ที่ขับ 4 ส.ส.ออกจากพรรค และไม่แจ้งจำนวนสมาชิกพรรคที่เปลี่ยนแปลงไปในรอบปี ที่กำหนดต้องแจ้งภาย ในวันที่ 15 ม.ค.63 ...
กระทั่งกระทั่งวันที่ 17ม.ค.63 กกต. เพิ่งได้รับหนังสือแจ้งจากพรรคอนาคตใหม่ โดยส่งทางไปรษณีย์ ลงวันที่ 15 ม.ค. ปรากฏว่า ทั้ง 4 คน ยังมีชื่อเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ และยังไม่ได้แจ้งมติการขับ 4 ส.ส. ออกจากพรรค
ปัญหาจึงเกิดขึ้นกับทั้ง 4 คน โดย 2 คน แรกเจอปัญหาการเป็นสมาชิก 2 พรรคการเมืองในเวลาเดียวกัน อาจถูกนายทะเบียน ลบชื่อออกจากทั้งสองพรรค ก็จะทำให้ "กวินนาถ-จารึก" สิ้นสภาพ ส.ส.ได้ ... ส่วน "ศรีนวล-พ.ต.ท.ฐนภัทร" ก็ยังไปเข้าสังกัดพรรคใหม่ตามที่ต้องการไม่ได้
"ปิยบุตร แสงกนกกุล" เลขาธิการพรรค อ้างว่า ไม่มั่นใจในมติพรรคที่ขับ 4 ส.ส. ในวันที่ 17 ธ.ค.62 นั้น องค์ประชุมถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ จึงต้องใช้เวลาตรวจสอบ เพราะองค์ประชุม นอกจากส.ส.-กรรมการบริหารพรรคแล้วยังต้องมีตัวแทนภาคด้วย...จึงขอไปตรวจสอบก่อน แต่เนื่องจากพรรคมีคดี ที่ถูกฟ้องร้องมากมาย จึงไม่มีเวลามาดูเรื่องนี้
เมื่อออกมาในรูปนี้ อย่าว่าแต่ 4 ส.ส.เลย ...แม้แต่คนทั่วไปยังมองว่า นี่เป็นการกลั่นแกล้งเอาคืน โดยใช้เงื่อนไขกฎหมายมาสร้างความลำบาก ยุ่งยากให้กับ 4 ส.ส. เพราะการส่งยอดรายชื่อสมาชิกไปให้ กกต. ยังส่งในวันสุดท้าย และส่งทางไปรษณีย์ จนไปถึงกกต.ในวันที่เลยเดดไลน์ไปแล้ว ... ขณะที่การตรวจสอบองค์ประชุมของพรรคในวันที่ลงมติ 17 ธ.ค.62 ก็แค่ไปตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม ก็รู้แล้วว่าองค์ประชุมถูกต้องหรือไม่ ให้เจ้าหน้าที่ธุรการตรวจสอบก็ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ระดับผู้บริหารพรรคไปตรวจสอบเอง
กระทั่ง "กวินนาถ" ต้องนำคลิปการประชุมในวันนั้น มาเผยแพร่ ซึ่งก็ปรากฏว่า "ปิยบุตร" ในฐานะเลขาฯพรรค เป็นผู้ดำเนินการประชุมเอง ...ในคลิป "ปิยบุตร" ระบุว่า ตามรธน. มาตรา 101(9) กำหนดไว้ว่า ส.ส.จะพ้นจากสมาชิกพรรคได้ ต้องใช้ที่ประชุมร่วมกันของกรรมการบริหารพรรค และส.ส. โดยต้องมีมติ 3 ใน 4 ปัจจุบัน เรามี ส.ส. 80 ท่าน และมีกรรมการบริหารพรรค15 ท่าน โดยคู่กรณี คือ ทั้ง 4 ท่านส.ส. ถูกเสนอให้ขับออกจากพรรค ก็จะไม่ได้เข้าร่วมประชุม เพราะถือว่ามีส่วนได้ ส่วนเสีย...จากนั้น"ปิยบุตร" ทำการเช็กองค์ประชุม ปรากฏว่ามีส.ส.เขต 21 คน กรรมการบริหารพรรค 12คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 45 คน
"องค์ประชุมในวันนี้ทั้งสิ้น 78 ท่านครับ...องค์ประชุมเราครบถ้วนนะครับ" ปิยบุตร ระบุก่อนขอ มติ และที่ประชุมก็มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ขับ 4ส.ส. ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค...จากนั้นก็ปิดประชุม และไปแถลงข่าว
จึงต้องรอดูว่าในสัปดาห์นี้ หากพรรคอนาคตใหม่ แจ้งกกต.ว่า องค์ประชุม และมติขับ 4 ส.ส.ถูกต้อง ก็ต้องมีการพิจารณาว่า จะต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่าการที่ "ศรีนวล-พ.ต.ท.ฐนภัทร" ยังไม่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ภายในวันที่ 16 ม.ค. 63 เนื่องจากยังไม่ได้รับหลักฐานการถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ จะถือว่าทั้ง 2 คนสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.แล้วหรือไม่
หรือหากรายงานไปว่า องค์ประชุมไม่ครบถ้วน ทำให้มติขับ 4 ส.ส.ไม่ถูกต้อง จะทำให้ น.ส.กวินนาถ และ นายจารึก ที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไท แล้ว กลายเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซ้ำซ้อน 2 พรรคการเมือง นายทะเบียนพรรคการเมือง ต้องลบชื่อออกจากทั้ง 2 พรรค และมีผลทำให้ต้องสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.หรือไม่
จึงน่าจับตามองว่า รายงานของพรรคอนาคตใหม่ จะออกมาอย่างไร จะมีการเล่นแร่แปรธาตุอะไรอีกหรือไม่ เพื่อที่จะล้างแค้น " 4 ส.ส.งูเห่า"... แต่ต้องไม่ลืมว่า ยิ่งเล่นก็อาจเข้าตัวเอง เพราะเวลานี้มีคลิปที่เผยแพร่ไปทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ว่ามีกลเกมโกหกพกลม เอาไว้อย่างไร ใครเขาก็รู้ทันทั้งนั้น
แถมอาจถูกข้อหาแจ้งความเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ อย่างที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายว่าไว้ แล้วจะมาโวยวายว่า ถูกเผด็จการกลั่นแกล้ง มันก็น่าเกลียด และดูถูกสติปัญญาคนไทยเกินไป หรือไม่จริง
--------------------------
รูป - ปารีณา ไกรคุปต์ - ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
-- ปิยบุตร แสงกนกกุล – การประชุมพรรค ในวันที่ 17 ธ.ค.62