ผู้จัดการรายวัน360-"เปรมชัย"แห้ว หลังขออนุญาตศาลถอดกำไล EM เหตุเบาหวานเล่นงาน แต่ถูกปฏิเสธ เพราะเป็นแผลขาซ้าย แต่ EM ติดขาขวา ด้านทนายความยันพร้อมรายงานตัวรอบที่สอง 11 ก.พ.นี้ พร้อมยื่นฎีกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (13 ม.ค.) นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ เพื่อยื่นคำร้องให้ศาลฯ พิจารณาอนุญาตให้ถอดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไล EM ออกจากข้อเท้าด้านขวา หลังจากที่ศาลฯ ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ให้จำคุกนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 จำคุก 2 ปี 17 เดือน ไม่รอลงอาญา นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 40,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 จำคุก 2 ปี 21 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้ชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาท พร้อมสวมใส่กำไล EM และให้มารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 13 ม.ค.2563
อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาในครั้งนี้ นายเปรมชัยไม่ได้มารายงานตัวตามที่ศาลนัดเอาไว้แต่อย่างใด เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา นายเปรมชัย พร้อมพวก 4 คนข้างต้น ได้เดินทางมารายงานตัวก่อนล่วงหน้าแล้ว
ทั้งนี้ นายเปรมชัยให้เหตุผลว่า กำไล EM ทำให้เกิดบาดแผลที่ข้อเท้า จึงหวั่นเกรงว่าจะมีอันตราย เนื่องจากป่วยเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิได้ใช้ดุลพินิจแล้ว เห็นว่าแผลนั้น เกิดขึ้นที่ข้อเท้าซ้าย ไม่เกี่ยวข้องกับกำไล EM ที่สวมเอาไว้ที่ข้อเท้าด้านขวา ศาลฯ จึงไม่อนุญาตให้ถอดกำไล ซึ่งการพิจารณาของศาลใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็แล้วเสร็จ
จากนั้น นายเปรมชัย ได้เดินทางกลับ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงสุขภาพของนายเปรมชัยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง โดยนายเปรมชัย ได้ตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ก็เรื่อยๆ”
นายวิทูล ยิ้มพราย ทนายความส่วนตัวของนายเปรมชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้คุณเปรมชัย พร้อมจำเลยรวม 4 คน ได้มารายงานตัวต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิแล้วตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่เดินทางมาในวันนี้ ก็เพื่อต้องการขอให้ศาลอนุญาตให้ถอดกำไล EM ออกจากข้อเท้า เนื่องจากคุณเปรมชัย ป่วยเป็นโรคเบาหวาน มีแผลอักเสบที่ข้อเท้าด้านซ้าย ซึ่งแพทย์ผู้รักษาเกรงว่าอาจจะส่งผลกระทบถึงชีวิต แต่ศาลมองว่าแผลที่เป็นนั้นอยู่ที่ข้อเท้าด้านซ้าย ไม่เกี่ยวกันกับข้อเท้าด้านขวาที่สวมใส่กำไล EM เมื่อศาลท่านไม่อนุญาตให้ถอดกำไล เราก็พร้อมที่จะยอมรับ
ส่วนการรายงานตัวต่อศาลครั้งที่ 2 คือวันที่ 11 ก.พ.2563 และในวันดังกล่าว จะยื่นฎีกาไปพร้อมๆ กัน ตามที่ศาลท่านได้อนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (13 ม.ค.) นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ เพื่อยื่นคำร้องให้ศาลฯ พิจารณาอนุญาตให้ถอดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไล EM ออกจากข้อเท้าด้านขวา หลังจากที่ศาลฯ ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ให้จำคุกนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 จำคุก 2 ปี 17 เดือน ไม่รอลงอาญา นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 40,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 จำคุก 2 ปี 21 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้ชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาท พร้อมสวมใส่กำไล EM และให้มารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 13 ม.ค.2563
อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาในครั้งนี้ นายเปรมชัยไม่ได้มารายงานตัวตามที่ศาลนัดเอาไว้แต่อย่างใด เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา นายเปรมชัย พร้อมพวก 4 คนข้างต้น ได้เดินทางมารายงานตัวก่อนล่วงหน้าแล้ว
ทั้งนี้ นายเปรมชัยให้เหตุผลว่า กำไล EM ทำให้เกิดบาดแผลที่ข้อเท้า จึงหวั่นเกรงว่าจะมีอันตราย เนื่องจากป่วยเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิได้ใช้ดุลพินิจแล้ว เห็นว่าแผลนั้น เกิดขึ้นที่ข้อเท้าซ้าย ไม่เกี่ยวข้องกับกำไล EM ที่สวมเอาไว้ที่ข้อเท้าด้านขวา ศาลฯ จึงไม่อนุญาตให้ถอดกำไล ซึ่งการพิจารณาของศาลใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็แล้วเสร็จ
จากนั้น นายเปรมชัย ได้เดินทางกลับ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงสุขภาพของนายเปรมชัยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง โดยนายเปรมชัย ได้ตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ก็เรื่อยๆ”
นายวิทูล ยิ้มพราย ทนายความส่วนตัวของนายเปรมชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้คุณเปรมชัย พร้อมจำเลยรวม 4 คน ได้มารายงานตัวต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิแล้วตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่เดินทางมาในวันนี้ ก็เพื่อต้องการขอให้ศาลอนุญาตให้ถอดกำไล EM ออกจากข้อเท้า เนื่องจากคุณเปรมชัย ป่วยเป็นโรคเบาหวาน มีแผลอักเสบที่ข้อเท้าด้านซ้าย ซึ่งแพทย์ผู้รักษาเกรงว่าอาจจะส่งผลกระทบถึงชีวิต แต่ศาลมองว่าแผลที่เป็นนั้นอยู่ที่ข้อเท้าด้านซ้าย ไม่เกี่ยวกันกับข้อเท้าด้านขวาที่สวมใส่กำไล EM เมื่อศาลท่านไม่อนุญาตให้ถอดกำไล เราก็พร้อมที่จะยอมรับ
ส่วนการรายงานตัวต่อศาลครั้งที่ 2 คือวันที่ 11 ก.พ.2563 และในวันดังกล่าว จะยื่นฎีกาไปพร้อมๆ กัน ตามที่ศาลท่านได้อนุญาต