วานนี้ (9ม.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการให้บริการประชาชน ที่คลินิกกัญชาแผนไทย อาคารพิพิธภัณฑ์การสาธารณสุขและการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า เพื่อรับฟังปัญหาจากทั้งฝ่ายบุคลการการแพทย์ และประชาชนผู้รับบริการ โดยระหว่างการตรวจเยี่ยม นายอนุทิน ได้ทักทายประชาชนที่มาใช้บริการอย่างเป็นกันเอง โดยมีประชาชนจำนวนมาก เข้ามาขอถ่ายรูป และแสดงความชื่นชมนโยบายกัญชาทางการแพทย์
นายอนุทิน กล่าวว่า มาตรวจเยี่ยมคลินิกกัญชา เพราะต้องการทราบอุปสรรคของการดำเนินงาน ทั้งจากผู้ปฏิบัติงานและประชาชน ในสถานการณ์จริง เมื่อได้รับทราบปัญหาแล้วจะเร่งหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนานโยบาย และการให้บริการประชาชนต่อไป ทั้งนี้ รู้สึกดีใจที่ประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แสดงว่านโยบายกัญชาทางการแพทย์ มาถูกทางแล้ว การเปิดคลินิกดังกล่าว ก็เพื่อให้แพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์แผนไทยได้ทำงานร่วมกัน เพื่อบูรณาการการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างรอบด้าน อันจะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยในอนาคต
สำหรับนโยบายกัญชานั้น "โย้ำชัดเจนไปแล้วว่าเป็นการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้ใครนำไปใช้เพื่อความสนุกสนาน การเปิดคลินิก ที่กระทรวงสาธารณสุข ก็เพื่อให้มั่นใจว่า กระทรวงสาธารณสุขเอาจริงเอาจังกับนโยบาย ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าการรักษามีคุณภาพ สารสกัดที่ส่งมอบไปล้วนปลอดภัย
ส่วนนโยบายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนโยบายปลูกกัญชาครัวเรือนละ 6 ต้น และการผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจ ได้พยายามใช้ทุกช่องทางเพื่อผลักดันให้เกิดความสำเร็จ แต่หลายเรื่องไม่ได้อยู่ในอำนาจของรัฐมนตรี จำเป็นต้องใช้อำนาจของสภาผู้แทนราษฎร ในการแก้กฎหมาย
ไปจนถึง ร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่ ขอย้ำว่าไม่เคยเพิกเฉย ทุกครั้งที่บุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขรักษาคนไข้ด้วยกัญชา จะมีการบันทึกข้อมูล ซึ่งที่ผ่านมา มีการรายงานผลการรักษามาตลอด ภาพรวมคือ กัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์
"เราจะนำหลักฐานดังกล่าวไปสนับสนุนให้เกิดการแก้ไขกฎ กรอบ ซึ่งปัจจุบันพรรคภูมิใจไทย มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่ในสภาฯแล้ว เพื่อนำกัญชามาใช้ประโยชน์สูงสุด รวมถึงกัญชง และกระท่อมด้วย เรื่องกัญชา เป็นเรื่องที่มีความท้าทาย แต่ประชาชนมีความหวัง ผมต้องเดินหลายขา ทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ แต่ขอยืนยันว่า ทำสุดความสามารถ" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า มาตรวจเยี่ยมคลินิกกัญชา เพราะต้องการทราบอุปสรรคของการดำเนินงาน ทั้งจากผู้ปฏิบัติงานและประชาชน ในสถานการณ์จริง เมื่อได้รับทราบปัญหาแล้วจะเร่งหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนานโยบาย และการให้บริการประชาชนต่อไป ทั้งนี้ รู้สึกดีใจที่ประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แสดงว่านโยบายกัญชาทางการแพทย์ มาถูกทางแล้ว การเปิดคลินิกดังกล่าว ก็เพื่อให้แพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์แผนไทยได้ทำงานร่วมกัน เพื่อบูรณาการการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างรอบด้าน อันจะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยในอนาคต
สำหรับนโยบายกัญชานั้น "โย้ำชัดเจนไปแล้วว่าเป็นการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้ใครนำไปใช้เพื่อความสนุกสนาน การเปิดคลินิก ที่กระทรวงสาธารณสุข ก็เพื่อให้มั่นใจว่า กระทรวงสาธารณสุขเอาจริงเอาจังกับนโยบาย ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าการรักษามีคุณภาพ สารสกัดที่ส่งมอบไปล้วนปลอดภัย
ส่วนนโยบายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนโยบายปลูกกัญชาครัวเรือนละ 6 ต้น และการผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจ ได้พยายามใช้ทุกช่องทางเพื่อผลักดันให้เกิดความสำเร็จ แต่หลายเรื่องไม่ได้อยู่ในอำนาจของรัฐมนตรี จำเป็นต้องใช้อำนาจของสภาผู้แทนราษฎร ในการแก้กฎหมาย
ไปจนถึง ร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่ ขอย้ำว่าไม่เคยเพิกเฉย ทุกครั้งที่บุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขรักษาคนไข้ด้วยกัญชา จะมีการบันทึกข้อมูล ซึ่งที่ผ่านมา มีการรายงานผลการรักษามาตลอด ภาพรวมคือ กัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์
"เราจะนำหลักฐานดังกล่าวไปสนับสนุนให้เกิดการแก้ไขกฎ กรอบ ซึ่งปัจจุบันพรรคภูมิใจไทย มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่ในสภาฯแล้ว เพื่อนำกัญชามาใช้ประโยชน์สูงสุด รวมถึงกัญชง และกระท่อมด้วย เรื่องกัญชา เป็นเรื่องที่มีความท้าทาย แต่ประชาชนมีความหวัง ผมต้องเดินหลายขา ทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ แต่ขอยืนยันว่า ทำสุดความสามารถ" นายอนุทิน กล่าว
