xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กตู่"ดึงคลัง-ธปท.ตั้งทีมงานแก้ค่าบาทแข็ง-"5บิ๊กเนม"คุมรัฐวิสาหกิจ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360 - "บิ๊กตู่" เผยคลัง-ธปท. จับมือตั้งทีมงานดูแลเสถียรภาพการเงินเพื่อติดตามเงินบาทใกล้ชิด พร้อมแนะผู้รู้เสนอแนวทางแก้เศรษฐกิจดีกว่าวิจารณ์อย่างเดียว “สนธิรัตน์” ยอมรับบาทแข็งกระทบเศรษฐกิจประเทศ ยันทุกฝ่ายไม่ได้นิ่งนอนใจ คลังสรุปโครงสร้างบอร์ดเสถียรภาพการเงิน ดึงขุนคลัง-ผู้ว่าฯ ธปท. นั่งประธานร่วม ด้าน ส.อ.ท.หวั่นฉุดส่งออกปี 63 อีกระลอก หลังสิ้นปีส่งสัญญาณหลุด 30 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ตลาดหุ้นร้อนแรงประเดิมปีหนู บวกเกือบ 16 จุด ส่วนครม.แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชนนั่งบอร์ด คนร. ช่วยขับเคลื่อนรัฐวิสาหกิจไทย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึง ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าหลุด 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ว่า ได้มีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันทั้งจากกระทรวงการคลัง ธปท. และหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ เพื่อติดตามสถานการณ์เงินบาทอย่างใกล้ชิดและหามาตรการเสริมมาช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

ส่วนกรณีที่นักวิชาการหลายสำนักประเมินว่าปีนี้สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยจะหนักมากกว่าปีที่ผ่านมานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือแย่ลงดูได้จากปัจจัยภายในและภายนอก แต่สิ่งสำคัญคือ ทุกคนจะร่วมมือกันแก้ปัญหาได้อย่างไร ซึ่งตนเองอยากรับฟังแนวคิดในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมากกว่าการวิพากษ์วิจารณ์เพียงอย่างเดียว ซึ่งหากเป็นแนวคิดที่ดีรัฐบาลก็พร้อมรับไปดำเนินการต่อ ซึ่งการทำหน้าที่ในขณะนี้ทราบดีว่าปัญหาหลายอย่างก็สามารถแก้ได้แต่บางปัญหาก็ติดขัดเรื่องข้อกฏหมาย

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวยอมรับว่า เงินบาทที่แข็งค่าส่งผลกระทบต่อประเทศ แต่ทุกฝ่ายพยายามในการบริหารจัดการ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องกลไกหลายอย่างและรัฐบาลได้ตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง และทุกฝ่ายไม่ได้นิ่งนอนใจ จะดูแลอย่างเต็มที่

ส่วนเรื่องปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาปากท้องนั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลทุ่มเทในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชน ถือเป็นภารกิจหลักอยู่แล้ว และรัฐบาลพยายามเร่งรัดให้นโยบายของกระทรวงต่างๆ ขับเคลื่อนไปได้ ซึ่งผลกระทบจากเศรษฐกิจมี 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยภายนอกจากเศรษฐกิจโลก และปัจจัยภายใน มีประกอบกันหลายด้าน อีกทั้งทราบว่าตอนนี้ทุกกระทรวงพยายามอยู่ โดยในส่วนกระทรวงพลังงานก็เร่งรัดในการนำพืชเกษตรมาช่วยผลิตน้ำมัน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดพลังงานชุมชน ให้ชุมชนมีการจับจ่ายใช้สอย

ดึงรมว.คลัง-ผู้ว่่าฯธปท. นั่งปธ.ดูแลค่าเงิน

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สศค.จัดทำโครงสร้างด้านการเงิน 2 คณะเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย คณะกรรมการที่ปรึกษานโยบายเสถียรภาพการเงิน และคณะกรรมการการเงินเพื่อการพัฒนา โดยอยู่ระหว่างหารือกับนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อนำเสนอต่อครม. โดยคณะกรรมการที่ปรึกษาเสถียรภาพทางการเงินจะมี รมว.คลัง และผู้ว่าฯ ธปท. เป็นประธานร่วม เพื่อทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาเรื่องเสถียรภาพการเงิน และมีกรรมการจาก ตลาดการเงิน ตลาดประกันภัย สหกรณ์ ตลาดหุ้น ซึ่งคณะกรรมการหารือและกำหนดแนวทางไม่ให้ภาคเงินสร้างปัญหาหาต่อเศรษฐกิจของประเทศ

ส่วนคณะกรรมการการเงินเพื่อการพัฒนามี รมว. คลัง คลังเป็นประธาน โดยจะดึงภาคเอกชน เช่น สมาคมธนาคารไทย ผู้บริหารแบงก์รัฐ เข้ามาร่วมเป็นกรรมการ เพื่อหารือถึงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากว่าควรจะเดินหน้าอย่างไร โดยจะให้แบงก์รัฐ และแบงก์เอกชนเข้ามาร่วมออกแนวคิดการพัฒนาด้วย

ส.อ.ท.ผวาบาทหลุด30ฉุดส่งออก

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เอกชนกำลังติดตามภาวะค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดหลังจากช่วงส่งท้ายปีได้หลุด 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เนื่องจากภาวะค่าเงินบาทที่แข็งค่ายังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกของไทยปี 63 ที่เอกชนยังคงกังวลมากสุด ดังนั้นจึงต้องการให้หน่วยงานภาครัฐและธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ค่าเงินบาทไม่แข็งค่าไปกว่าประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่งทางการค้าที่จะบั่นทอนขีดความสามารถทางการแข่งขันการส่งออกของไทย

" ปี 2562 นั้นเงินบาทไทยเฉลี่ยแข็งค่าราว 7% และแข็งค่าสุดในภูมิภาคในภาพรวม จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญต่อการส่งออกของไทยให้ลดลงนอกเหนือจากปัญหาสงครามการค้า(เทรดวอร์) ซึ่งคาดว่าส่งออกไทยปี 2562 คงติดลบไม่น้อยไปกว่า 2.5-3% และเมื่อดูรายละเอียดจะเห็นว่าไทยมีการนำเข้าสินค้าทุนต่ำมากไทยจึงเกินดุลการค้ากว่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐจึงทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าค่าเงินบาทปี 2563 ยังมีทิศทางที่จะแข็งค่าต่อซึ่งหลายสำนักด้านเศรษฐกิจมองว่าอาจเห็นที่ 29-30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ "นายเกรียงไกรกล่าว

ประเดิมปีหนูตลาดหุ้นคึกคักบวก 16 จุด

ด้านความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวันแรกของปี 2563 (2 ม.ค.) นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนอย่างคึกคัก ดัชนีตลาดหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยแตะระดับสูงสุดที่ 1,597.92 จุด ต่ำสุด 1,583.18 จุด ก่อนจะปิดที่ 1,595.82 จุด เพิ่มขึ้น 15.98 จุด หรือคิดเป็น 1.01% มูลค่าการซื้อขายกว่า 54,494.00 ล้านบาท

เงินบาทปิดตลาดที่ 30.12 ต่อดอลลาร์

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)กล่าวว่า เงินบาทวานนี้(2ม.ค.)เปิดตลาดที่ระดับ 30.16 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และปิดตลาดที่ระดับ 30.12 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในระหว่างวันแข็งค่าสุดที่ระดับ 30.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 30.16 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจัยหลักๆมาจากแรงซื้อดอลลาร์ฯคืนภายหลังจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นเหนือระดับ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่สภาวะตลาดโดยรวมยังค่อนข้างเบาบางเนื่องจากเป็นวันเปิดทำการวันแรก และยังคงไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามา คงต้องรอตัวเลขเศรษฐกิจใหม่สหรัฐฯที่จะออกในวันศุกร์นี้ คาดการณ์วันนี้เงินบาทแกว่งอยู่ที่ระดับ 30.10-30.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

"ช่วงนี้ตลาดยังคงเบาบาง จากช่วงวันหยุดปีใหม่ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามา เวลาที่มีอะไรเคลื่อนไหวเข้ามาก็ทำให้แกว่งได้ง่าย ตลาดช่วงนี้จึงยังมีความผันผวนอยู่ระดับหนึ่ง"

ครม.แต่งตั้งเอกชนนั่งบอร์ด คนร.

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (2 ม.ค.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้แต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ตามพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2562 โดยได้แต่งตั้ง รมว.คมนาคม และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นกรรมการโดยตำแหน่งในคนร.ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน คนร. อีก 5 ราย ได้แก่ นายกานต์ ตระกูลฮุน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ นายปรีดี ดาวฉาย นายประสันห์ เชื้อพานิช และนายเทวินทร์ วงศ์วานิช รวมกรรมการ คนร.ทั้งสิ้น 14 ราย เพื่อเข้ามาช่วยวางแผน ช่วยจัดทำแผนนโยบายรัฐวิสาหกิจและเสนอแนะแนวทางการบริหารรัฐวิสาหกิจต่างๆ ซึ่งถือว่าจะเป็นแรงสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น