นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวอวยพรปีใหม่ว่า ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2563 เป็นช่วงระยะเวลาที่ต้องบอกว่า เป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของทุกคน โดยอะไรที่อยากลืม หรือปรับเปลี่ยน ก็ถือเวลาปรับเปลี่ยนได้ ส่วนอะไรที่ดีอยู่แล้ว ขอให้ปฏิบัติในสิ่งที่ดี ต่อไป ขอให้ประชาชน ข้าราชการทุกคน โชคดี มีความสุข สมหวังในสิ่งที่สมปรารถนาทุกประการ และเป็นที่พึ่งที่หวังด้วยกัน
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการทำงานในปี 2562 ที่ผ่านมาว่า ตนอยู่ในตำแหน่งมาประมาณ 5 เดือน แม้ว่าจะมีผลงานและนโยบายออกมาหลายเรื่อง เพราะตนว่างเว้นจากการเมืองไปประมาณ 10 ปี ในระหว่างนั้นตนมีความคิดมากมาย ดังนั้น เมื่อกลับเข้ามา จึงอยากเร่งทำงานให้พี่น้องประชาชน แต่ก็ยังไม่ค่อยพอใจการทำงานเท่าไรนัก เพราะว่ายังไม่มีรูปธรรมต่างๆ? ให้ประชาชนได้เห็น ขณะนี้ยังเป็นเพียงนามธรรมเท่านั้น
ดังนั้น ในปี 2563 จึงอยากทำนโยบายต่างๆ?ให้สัมฤทธิ์ผล ไม่ว่าจะเป็นการปลดล็อกใบกระท่อม ซึ่งล่าสุดกระทรวงยุติธรรมได้ลงนาม? MOU ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการศึกษาข้อมูลและแนวทางการใช้ประโยชน์ รวมถึงการผลักดันการตั้งกรรมาธิการศึกษาในสภาฯด้วย โดยเป้าหมายคือ อยากปลดล็อกให้ประชาชนสามารถปลูกเพื่อทำเป็นอาชีพได้ รวมถึงการใช้ในทางการแพทย์ เพราะกระท่อมมีฤทธิ์ทางยาที่เป็นประโยชน์มาก
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึง การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขังในเรือนจำ ว่า อยากสร้างอาชีพให้พวกเขา เมื่อพ้นโทษออกมาจะได้มีอาชีพ ไม่กลับไปก่ออาชญากรรมอีก ส่วนเรื่องปัญหาความแออัดในคุก จะให้นักโทษสร้างเตียงนอนอีกชั้นหนึ่ง? เพื่อลดความแออัดในเรือนจำ ซึ่งไม่ต้องก่อสร้างเรือนจำเพิ่ม วันนี้เรามีเรือนจำทั่วประเทศ 134 แห่ง ถือว่ามากพอแล้ว หากเราสร้างเตียงนอน 2 ชั้นได้ จะเพิ่มที่นอนได้อีกเกือบ 1 แสนคน โดยใช้เงินเพียง 200 ล้านบาทเ ท่านั้น
ส่วนผู้เสพยาเสพติด ไม่ควรที่จะติดคุกแต่ควรนำไปบำบัด เพราะเขาคือผู้ป่วย แตกต่างจากผู้ค้าและผู้ผลิต ที่เราต้องจับติดคุกและควรมีบทลงโทษที่หนัก นอกจากนี้ เรื่องอาหารในเรือนจำ ต้องมีคุณภาพ เพราะเมื่อเราเสียเงินจากรัฐแล้ว ต้องอย่าให้เขาเสียสิทธิ ซึ่งตนจะให้ทางมหาวิทยาลัยต่างๆ? ที่เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยตรวจสอบ
"กระทรวงยุติธรรมถูกถามเข้ามามากในเรื่องของฆาตกรโรคจิต หรือ Sex offender (ผู้กระทำผิดทางเพศ)? โดยทางกระทรวงมีมาตรการเร่งด่วนในการดำเนินการควบคุมติดตาม ซึ่งจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ประกอบด้วย กรมคุมประพฤติ กรมราชทัณฑ์ ดีเอสไอ และจะขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะแจ้งเบาะแสของคนที่มีปัญหา เพื่อให้ประชาชนทราบผ่านทางสถานีตำรวจต่างๆ โดยคนที่ยังถูกหมายจับ หรือ ถูกตามตัวอยู่ รวมถึงคนที่กำลังจะถูกปล่อยตัว จะรวบรวมรายชื่อทั้งหมดส่งให้สถานีตำรวจ ขณะที่กรมคุมประพฤติ กรมราชทัณฑ์ ดีเอสไอ จะร่วมเป็นคณะทำงาน เพื่อติดตามรายละเอียดต่างๆ?ในระยะเร่งด่วน ก่อนที่จะมีกฎหมายสมบูรณ์แบบมาบังคับใช้ และจะเห็นเป็นรูปธรรมในช่วงปีใหม่ 2563 ทันที โดยต้องทำเลยในส่วนนี้ แต่ยอมรับว่ายังใช้กฎหมายที่สมบูรณ์แบบไม่ได้" นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการทำงานในปี 2562 ที่ผ่านมาว่า ตนอยู่ในตำแหน่งมาประมาณ 5 เดือน แม้ว่าจะมีผลงานและนโยบายออกมาหลายเรื่อง เพราะตนว่างเว้นจากการเมืองไปประมาณ 10 ปี ในระหว่างนั้นตนมีความคิดมากมาย ดังนั้น เมื่อกลับเข้ามา จึงอยากเร่งทำงานให้พี่น้องประชาชน แต่ก็ยังไม่ค่อยพอใจการทำงานเท่าไรนัก เพราะว่ายังไม่มีรูปธรรมต่างๆ? ให้ประชาชนได้เห็น ขณะนี้ยังเป็นเพียงนามธรรมเท่านั้น
ดังนั้น ในปี 2563 จึงอยากทำนโยบายต่างๆ?ให้สัมฤทธิ์ผล ไม่ว่าจะเป็นการปลดล็อกใบกระท่อม ซึ่งล่าสุดกระทรวงยุติธรรมได้ลงนาม? MOU ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการศึกษาข้อมูลและแนวทางการใช้ประโยชน์ รวมถึงการผลักดันการตั้งกรรมาธิการศึกษาในสภาฯด้วย โดยเป้าหมายคือ อยากปลดล็อกให้ประชาชนสามารถปลูกเพื่อทำเป็นอาชีพได้ รวมถึงการใช้ในทางการแพทย์ เพราะกระท่อมมีฤทธิ์ทางยาที่เป็นประโยชน์มาก
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึง การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขังในเรือนจำ ว่า อยากสร้างอาชีพให้พวกเขา เมื่อพ้นโทษออกมาจะได้มีอาชีพ ไม่กลับไปก่ออาชญากรรมอีก ส่วนเรื่องปัญหาความแออัดในคุก จะให้นักโทษสร้างเตียงนอนอีกชั้นหนึ่ง? เพื่อลดความแออัดในเรือนจำ ซึ่งไม่ต้องก่อสร้างเรือนจำเพิ่ม วันนี้เรามีเรือนจำทั่วประเทศ 134 แห่ง ถือว่ามากพอแล้ว หากเราสร้างเตียงนอน 2 ชั้นได้ จะเพิ่มที่นอนได้อีกเกือบ 1 แสนคน โดยใช้เงินเพียง 200 ล้านบาทเ ท่านั้น
ส่วนผู้เสพยาเสพติด ไม่ควรที่จะติดคุกแต่ควรนำไปบำบัด เพราะเขาคือผู้ป่วย แตกต่างจากผู้ค้าและผู้ผลิต ที่เราต้องจับติดคุกและควรมีบทลงโทษที่หนัก นอกจากนี้ เรื่องอาหารในเรือนจำ ต้องมีคุณภาพ เพราะเมื่อเราเสียเงินจากรัฐแล้ว ต้องอย่าให้เขาเสียสิทธิ ซึ่งตนจะให้ทางมหาวิทยาลัยต่างๆ? ที่เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยตรวจสอบ
"กระทรวงยุติธรรมถูกถามเข้ามามากในเรื่องของฆาตกรโรคจิต หรือ Sex offender (ผู้กระทำผิดทางเพศ)? โดยทางกระทรวงมีมาตรการเร่งด่วนในการดำเนินการควบคุมติดตาม ซึ่งจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ประกอบด้วย กรมคุมประพฤติ กรมราชทัณฑ์ ดีเอสไอ และจะขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะแจ้งเบาะแสของคนที่มีปัญหา เพื่อให้ประชาชนทราบผ่านทางสถานีตำรวจต่างๆ โดยคนที่ยังถูกหมายจับ หรือ ถูกตามตัวอยู่ รวมถึงคนที่กำลังจะถูกปล่อยตัว จะรวบรวมรายชื่อทั้งหมดส่งให้สถานีตำรวจ ขณะที่กรมคุมประพฤติ กรมราชทัณฑ์ ดีเอสไอ จะร่วมเป็นคณะทำงาน เพื่อติดตามรายละเอียดต่างๆ?ในระยะเร่งด่วน ก่อนที่จะมีกฎหมายสมบูรณ์แบบมาบังคับใช้ และจะเห็นเป็นรูปธรรมในช่วงปีใหม่ 2563 ทันที โดยต้องทำเลยในส่วนนี้ แต่ยอมรับว่ายังใช้กฎหมายที่สมบูรณ์แบบไม่ได้" นายสมศักดิ์ กล่าว