พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดการดำเนินงานตามโครงการ "ราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" ณ ทันฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถนนงามวงศ์วาน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
เมื่อเวลา 15.52 น. (28ธ.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการดำเนินงานตามโครงการ ราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ การนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา องค์ประธานกรรมการโครงการฯ คณะกรรมการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และคณะบุคคลที่เกี่ยวข้อง เฝ้าฯรับเสด็จ ณ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถนนงามวงศ์วาน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา กราบบังคมทูลรายงานการเปิดโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ความว่า
"ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าในนามคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุข มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้ากระหม่อมหาที่สุดมิได้ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ในวันนี้ โครงการราชทัณฑ์ปันสุข เป็นโครงการที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมีพระบรมราชโองการจัดตั้งขึ้น ด้วยทรงพระราชดำริว่า ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ประสบปัญหาด้านสุขภาพ เนื่องจากขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ และขาดบุคลากรทางการแพทย์ที่จะดูแลรักษา จึงได้พระราชทานแนวทางการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
ทำให้เกิดการบูรณาการทางการแพทย์ ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานทางการแพทย์ของทหาร ตำรวจ โรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัยโรงพยาบาลเอกชน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กับกรมราชทัณฑ์ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จิตอาสาพระราชทาน "เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือด้านการแพทย์ การพยาบาล และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้ต้องขังได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมตามหลักมนุษยธรรมนับเป็นการสืบสาน รักษาและต่อยอด แนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ที่เกี่ยวกับการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขัง เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพหลังจากพ้นโทษ ทั้งยังสอดคล้องกับข้อกฏหมายข้อกำหนดแมนเดลล่าและข้อกำหนดกรุงเทพด้วย พระมหากรุณาธิคุณ
ทั้งนี้ จะนำไปสู่ความก้าวหน้าของงานราชทัณฑ์ไทยและเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ประเทศต่างๆทั่วโลก ในการดูแลผู้ต้องขังในด้านการเพทย์ต่อไป ข้าพระพุทธเจ้าและคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุข มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มีพระมหากรุณาทรงรับเป็นประธานที่ปรึกษาโครงการ และเสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานเครื่องมือแพทย์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ซึ่งจัดซื้อด้วยทุนพระราชทานส่วนพระองค์ ให้แก่ทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในวันนี้ ถือเป็นการเปิดโครงการอย่างเป็นทางการ และเป็นก้าวแรกของการดำเนินงานตามโครงการ ยังมีเรือนจำและทัณฑสถานเป้าหมายอีก 2 แห่ง ที่จะได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณเช่นนี้เป็นลำดับถัดไป ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอรับพระบรมราโชบายใส่เกล้าใส่กระหม่อม เพื่อนำไปดำเนินการให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม มีความสำเร็จและความก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป.."
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเครื่องมือแพทย์พระราชทานสัญลักษณ์การ Kick start พระราชทานวีดิทัศน์แก่ผู้แทนอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย "ห้องสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข" อันเป็นพื้นที่ให้ผู้ต้องขังได้เข้ามาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจด้วยตนเอง อันจะทำให้ผู้ต้องขังได้มีความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของตนเองและเมื่อพ้นโทษไปแล้ว จะได้มีสุขภาพที่ดีเป็นกำลังของประเทศชาติต่อไป
ต่อมาทอดพระเนตรนิทรรศการระบบของสาธารณสุขที่สนับสนุนการเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขของผู้ต้องขังและการดำเนินการของเรือนจำทอดพระเนตรนิทรรศการ พระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์ทอดพระเนตรนิทรรศการจิตอาสา เราทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทอดพระเนตรการแสดงผลงานเพื่อพัฒนาจิตใจของผู้ต้องขัง : งานวาดกับงานปั้น
ต่อมาเสด็จฯ ยังชั้น 6 ห้องไตเทียม ทรงพระดำเนินเยี่ยม และพระราชทาน ถุงพระราชทานแก่ผู้ต้องขังป่วยที่เตียง จำนวน 11 คน สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินเยี่ยม และพระราชทานถุงพระราชทานแก่ผู้ต้องขังป่วยที่เตียง จำนวน 10 คน เสร็จแล้วเสด็จฯ ยังบริเวณจุดจอดรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ทอดพระเนตรรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ตามพระราชอัธยาศัย และทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธย ในสมุดเยี่ยม ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.62 เนื่องจากทรงมีพระราชดำริว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ต้องให้บริการแก่ผู้ต้องขังในกรณีเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นจำนวนมาก ยังขาดแคลนบุคลากร เครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์ การดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง ถือเป็นหน้าที่สำคัญของกรมราชทัณฑ์ ในการที่จะให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม ตามหลักมนุษยธรรม เมื่อพ้นโทษจะได้มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ ออกมาสู่สังคมภายนอก และประกอบอาชีพสุจริตได้อย่างมีคุณภาพ โดยจะพระราชทานความช่วยเหลือในเรื่องการจัดหาอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ ตลอดจนการให้จิตอาสาพระราชทาน "เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" ได้เข้าไปมีบทบาท ในการช่วยเหลือทั้งทางด้านการแพทย์ การพยาบาล การอบรมให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ เพื่อให้การขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการประสบผลสำเร็จตามพระบรมราโชบาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขจำนวน 39 คน โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงเป็นองค์ประธานที่ปรึกษา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ โดยโครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพผู้ต้องขังให้ได้รับการรักษาพยาบาลเท่าเทียมกับบุคคลภายนอกให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนอันเป็นการจัดระบบการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ต้องขังให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตลอดจนปรับปรุงอนามัยสิ่งแวดล้อมการป้องกันโรคและการส่งเสริมสุขภาพ อีกทั้งยังจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์
สำหรับสถานพยาบาลในเรือนจำ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลแม่ข่าย และพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ของกรมราชทัณฑ์ให้มีความเหมาะสมและมีความก้าวหน้าในสายงาน รวมทั้งสร้างขวัญและกำลังใจ ตลอดจนพัฒนาอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ (อสรจ.) ให้ได้มาตรฐานและสามารถตอบสนอง การดูแลสุขภาพผู้ต้องขังในเรือนจำ
การดำเนินงานโครงการในระยะแรก ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 217 ล้านบาท ในการจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์อันเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ ที่สำคัญต่อการวินิจฉัยและรักษาโรคที่เป็นปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่ของผู้ต้องขัง จำนวน 756 รายการ เช่น เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องไตเทียม ยูนิตทัตกรรม และรถ X-RAY โมบาย พระราชทาน ให้เรือนจำทัณฑสถานเป้าหมาย 25 แห่ง ประกอบด้วย เรือนจำความมั่นคงสูงสุด 5 แห่ง เรือนจำกำหนดโทษสูง 12 แห่ง ทัณฑสถานหญิง 7 แห่ง และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 1 แห่ง โดยเฉพาะรถ X-RAY โมบาย นอกจากจะให้บริการผู้ต้องขังแล้วยังสามารถให้บริการประชาชนทั่วไปในพื้นที่ทั่วประเทศได้ด้วย
เมื่อเวลา 15.52 น. (28ธ.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการดำเนินงานตามโครงการ ราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ การนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา องค์ประธานกรรมการโครงการฯ คณะกรรมการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และคณะบุคคลที่เกี่ยวข้อง เฝ้าฯรับเสด็จ ณ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถนนงามวงศ์วาน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา กราบบังคมทูลรายงานการเปิดโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ความว่า
"ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าในนามคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุข มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้ากระหม่อมหาที่สุดมิได้ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ในวันนี้ โครงการราชทัณฑ์ปันสุข เป็นโครงการที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมีพระบรมราชโองการจัดตั้งขึ้น ด้วยทรงพระราชดำริว่า ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ประสบปัญหาด้านสุขภาพ เนื่องจากขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ และขาดบุคลากรทางการแพทย์ที่จะดูแลรักษา จึงได้พระราชทานแนวทางการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
ทำให้เกิดการบูรณาการทางการแพทย์ ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานทางการแพทย์ของทหาร ตำรวจ โรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัยโรงพยาบาลเอกชน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กับกรมราชทัณฑ์ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จิตอาสาพระราชทาน "เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือด้านการแพทย์ การพยาบาล และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้ต้องขังได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมตามหลักมนุษยธรรมนับเป็นการสืบสาน รักษาและต่อยอด แนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ที่เกี่ยวกับการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขัง เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพหลังจากพ้นโทษ ทั้งยังสอดคล้องกับข้อกฏหมายข้อกำหนดแมนเดลล่าและข้อกำหนดกรุงเทพด้วย พระมหากรุณาธิคุณ
ทั้งนี้ จะนำไปสู่ความก้าวหน้าของงานราชทัณฑ์ไทยและเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ประเทศต่างๆทั่วโลก ในการดูแลผู้ต้องขังในด้านการเพทย์ต่อไป ข้าพระพุทธเจ้าและคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุข มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มีพระมหากรุณาทรงรับเป็นประธานที่ปรึกษาโครงการ และเสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานเครื่องมือแพทย์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ซึ่งจัดซื้อด้วยทุนพระราชทานส่วนพระองค์ ให้แก่ทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในวันนี้ ถือเป็นการเปิดโครงการอย่างเป็นทางการ และเป็นก้าวแรกของการดำเนินงานตามโครงการ ยังมีเรือนจำและทัณฑสถานเป้าหมายอีก 2 แห่ง ที่จะได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณเช่นนี้เป็นลำดับถัดไป ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอรับพระบรมราโชบายใส่เกล้าใส่กระหม่อม เพื่อนำไปดำเนินการให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม มีความสำเร็จและความก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป.."
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเครื่องมือแพทย์พระราชทานสัญลักษณ์การ Kick start พระราชทานวีดิทัศน์แก่ผู้แทนอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย "ห้องสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข" อันเป็นพื้นที่ให้ผู้ต้องขังได้เข้ามาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจด้วยตนเอง อันจะทำให้ผู้ต้องขังได้มีความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของตนเองและเมื่อพ้นโทษไปแล้ว จะได้มีสุขภาพที่ดีเป็นกำลังของประเทศชาติต่อไป
ต่อมาทอดพระเนตรนิทรรศการระบบของสาธารณสุขที่สนับสนุนการเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขของผู้ต้องขังและการดำเนินการของเรือนจำทอดพระเนตรนิทรรศการ พระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์ทอดพระเนตรนิทรรศการจิตอาสา เราทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทอดพระเนตรการแสดงผลงานเพื่อพัฒนาจิตใจของผู้ต้องขัง : งานวาดกับงานปั้น
ต่อมาเสด็จฯ ยังชั้น 6 ห้องไตเทียม ทรงพระดำเนินเยี่ยม และพระราชทาน ถุงพระราชทานแก่ผู้ต้องขังป่วยที่เตียง จำนวน 11 คน สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินเยี่ยม และพระราชทานถุงพระราชทานแก่ผู้ต้องขังป่วยที่เตียง จำนวน 10 คน เสร็จแล้วเสด็จฯ ยังบริเวณจุดจอดรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ทอดพระเนตรรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ตามพระราชอัธยาศัย และทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธย ในสมุดเยี่ยม ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.62 เนื่องจากทรงมีพระราชดำริว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ต้องให้บริการแก่ผู้ต้องขังในกรณีเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นจำนวนมาก ยังขาดแคลนบุคลากร เครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์ การดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง ถือเป็นหน้าที่สำคัญของกรมราชทัณฑ์ ในการที่จะให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม ตามหลักมนุษยธรรม เมื่อพ้นโทษจะได้มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ ออกมาสู่สังคมภายนอก และประกอบอาชีพสุจริตได้อย่างมีคุณภาพ โดยจะพระราชทานความช่วยเหลือในเรื่องการจัดหาอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ ตลอดจนการให้จิตอาสาพระราชทาน "เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" ได้เข้าไปมีบทบาท ในการช่วยเหลือทั้งทางด้านการแพทย์ การพยาบาล การอบรมให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ เพื่อให้การขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการประสบผลสำเร็จตามพระบรมราโชบาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขจำนวน 39 คน โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงเป็นองค์ประธานที่ปรึกษา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ โดยโครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพผู้ต้องขังให้ได้รับการรักษาพยาบาลเท่าเทียมกับบุคคลภายนอกให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนอันเป็นการจัดระบบการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ต้องขังให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตลอดจนปรับปรุงอนามัยสิ่งแวดล้อมการป้องกันโรคและการส่งเสริมสุขภาพ อีกทั้งยังจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์
สำหรับสถานพยาบาลในเรือนจำ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลแม่ข่าย และพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ของกรมราชทัณฑ์ให้มีความเหมาะสมและมีความก้าวหน้าในสายงาน รวมทั้งสร้างขวัญและกำลังใจ ตลอดจนพัฒนาอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ (อสรจ.) ให้ได้มาตรฐานและสามารถตอบสนอง การดูแลสุขภาพผู้ต้องขังในเรือนจำ
การดำเนินงานโครงการในระยะแรก ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 217 ล้านบาท ในการจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์อันเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ ที่สำคัญต่อการวินิจฉัยและรักษาโรคที่เป็นปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่ของผู้ต้องขัง จำนวน 756 รายการ เช่น เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องไตเทียม ยูนิตทัตกรรม และรถ X-RAY โมบาย พระราชทาน ให้เรือนจำทัณฑสถานเป้าหมาย 25 แห่ง ประกอบด้วย เรือนจำความมั่นคงสูงสุด 5 แห่ง เรือนจำกำหนดโทษสูง 12 แห่ง ทัณฑสถานหญิง 7 แห่ง และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 1 แห่ง โดยเฉพาะรถ X-RAY โมบาย นอกจากจะให้บริการผู้ต้องขังแล้วยังสามารถให้บริการประชาชนทั่วไปในพื้นที่ทั่วประเทศได้ด้วย