วานนี้( 29 ธ.ค.) พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกระแสวิจารณ์เกี่ยวกับการทำงานขององค์กรอิสระว่าสองมาตรฐาน ไม่เป็นธรรมว่า ทางผู้ตรวจการแผ่นดินทำงานตามอำนาจและหน้าที่ ที่กฎหมายกำหนดไว้ เข้าใจว่าเสียงวิจารณ์ส่วนใหญ่น่าจะเป็นคำร้องที่ผู้ตรวจฯ ยื่นส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ซึ่งปี 2562 ที่ผ่านมา มีคำร้องที่ทางผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ส่งศาลรธร. ทั้งหมด 161 เรื่อง เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย หรือมีบทบัญญัติของกฎหมายไปขัดกับรธน.
ส่วนที่ผู้ตรวจฯพิจารณาและยื่นคำร้องต่อศาลรธน. ประกอบด้วย กรณีสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ มีปัญหาความชอบด้วยรธน. หรือไม่ กรณีนายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนตามรธน.มาตรา 161 เข้าข่ายขัดรธน. และละเมิดสิทธิเสรีภาพหรือไม่ กรณีการตั้งคณะกรรมการสรรหาส.ว. ขัดรธน.หรือไม่ ส่วนอีก 2 คำร้อง ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรธน.คือ มีผู้ร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากถูกอัยการสั่งฟ้องข้อหากบฏ กรณีไปร่วมชุมนุมเวทีกปปส. ทั้งที่ศาลรธน. เคยวินิจฉัยแล้วว่า การชุมนุมครั้งนั้นเป็นการชุมนุมที่สงบ และกรณีมีผู้ร้องเรียนว่า พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา 2554 มาตรา 5,8, และมาตรา 13 มีปัญหาความชอบเกี่ยวกับรธน.
พล.อ.วิทวัส ยืนยันว่า ทุกเรื่องร้องเรียน เราพิจารณาตามข้อกฎหมาย กว่าที่เราจะพิจารณาเสร็จหรือได้ข้อยุติ ว่าจะส่งศาลรธน. พิจารณาหรือไม่นั้น เราพิจารณากันด้วยความรอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องที่มีความคาบเกี่ยวการเมือง เรามีการอภิปรายข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย บางเรื่องพิจารณากัน 2-3 รอบ หากยังไม่ชัดเจน ก็ทำประเด็นส่งให้เจ้าหน้าที่ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำมาประกอบการพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ทุกคำร้องเรียนที่ส่งศาลรธน. หรือแม้แต่ตีตกในชั้นการพิจารณาของผู้ตรวจฯ ขอย้ำว่า มติเป็นเอกฉันท์ ถ้าหากมีเรื่องหนึ่งเรื่องใดไม่ชัดเจน ก็จะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมและอภิปรายอย่างครบถ้วน คำนึงถึงผลดีผลเสีย
"ยืนยันว่าผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาปัญหาเหล่านี้ด้วยความระมัดระวัง ยึดหลักความเป็นกลาง เราเชื่อว่าองค์กรอิสระในระบอบประชาธิปไตย จะยืนอยู่ได้และได้รับความเชื่อถือ ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ ปราศจากอคติ มีความอิสระ เป็นกลางและเป็นธรรม สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้ตรวจฯเราให้ความสำคัญ" พล.อ.วิทวัส กล่าว
ส่วนที่ผู้ตรวจฯพิจารณาและยื่นคำร้องต่อศาลรธน. ประกอบด้วย กรณีสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ มีปัญหาความชอบด้วยรธน. หรือไม่ กรณีนายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนตามรธน.มาตรา 161 เข้าข่ายขัดรธน. และละเมิดสิทธิเสรีภาพหรือไม่ กรณีการตั้งคณะกรรมการสรรหาส.ว. ขัดรธน.หรือไม่ ส่วนอีก 2 คำร้อง ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรธน.คือ มีผู้ร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากถูกอัยการสั่งฟ้องข้อหากบฏ กรณีไปร่วมชุมนุมเวทีกปปส. ทั้งที่ศาลรธน. เคยวินิจฉัยแล้วว่า การชุมนุมครั้งนั้นเป็นการชุมนุมที่สงบ และกรณีมีผู้ร้องเรียนว่า พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา 2554 มาตรา 5,8, และมาตรา 13 มีปัญหาความชอบเกี่ยวกับรธน.
พล.อ.วิทวัส ยืนยันว่า ทุกเรื่องร้องเรียน เราพิจารณาตามข้อกฎหมาย กว่าที่เราจะพิจารณาเสร็จหรือได้ข้อยุติ ว่าจะส่งศาลรธน. พิจารณาหรือไม่นั้น เราพิจารณากันด้วยความรอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องที่มีความคาบเกี่ยวการเมือง เรามีการอภิปรายข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย บางเรื่องพิจารณากัน 2-3 รอบ หากยังไม่ชัดเจน ก็ทำประเด็นส่งให้เจ้าหน้าที่ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำมาประกอบการพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ทุกคำร้องเรียนที่ส่งศาลรธน. หรือแม้แต่ตีตกในชั้นการพิจารณาของผู้ตรวจฯ ขอย้ำว่า มติเป็นเอกฉันท์ ถ้าหากมีเรื่องหนึ่งเรื่องใดไม่ชัดเจน ก็จะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมและอภิปรายอย่างครบถ้วน คำนึงถึงผลดีผลเสีย
"ยืนยันว่าผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาปัญหาเหล่านี้ด้วยความระมัดระวัง ยึดหลักความเป็นกลาง เราเชื่อว่าองค์กรอิสระในระบอบประชาธิปไตย จะยืนอยู่ได้และได้รับความเชื่อถือ ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ ปราศจากอคติ มีความอิสระ เป็นกลางและเป็นธรรม สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้ตรวจฯเราให้ความสำคัญ" พล.อ.วิทวัส กล่าว