วานนี้ (26 ธ.ค.) นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาว่า ในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.62 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบเอกสารการคัดเลือกเอกชนฉบับปรับปรุง และมอบหมายให้การบินไทยในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการฯจัดส่งเอกสารการคัดเลือกเอกชนดังกล่าวให้แก่เอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุน ทั้งนี้การบินไทยได้จัดส่งเอกสารการคัดเลือกเอกชนดังกล่าวให้แก่เอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนเรียบร้อยแล้ว กรณีที่เอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนมีข้อสงสัย หรือมีคำถามเกี่ยวกับเอกสารการคัดเลือกเอกชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ภายในวันที่ 22 ม.ค.63
นายสุเมธ กล่าวต่อว่า กำหนดการยื่นข้อเสนอของเอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุน ได้กำหนดให้ยื่นภายในวันที่ 6 มี.ค.63 หลังจากมีการยื่นข้อเสนอจากเอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนแล้วจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการเจรจาต่อรองและหาข้อสรุปเพื่อนำผลการเจรจา ผลการคัดเลือกและร่างสัญญาร่วมทุนเสนอขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยการบินไทยคาดว่าการเจรจาต่อรองจะได้ข้อยุติในเดือนพ.ค.63 หลังจากนั้นการบินไทยจะต้องส่งร่างสัญญาร่วมลงทุนให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา โดยประมาณการว่าจะได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานอัยการสูงสุด ในเดือนมิ.ย.63
“จากนั้น การบินไทยจะนำเรื่องเสนอผ่านสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อขอความเห็นชอบจาก คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบจาก กพอ.ในเดือน ก.ค.63 เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรับทราบในเดือนส.ค.63 ต่อไป และคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาร่วมลงทุนระหว่างบริษัท การบินไทยฯ และเอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนภายในเดือนส.ค.63 และ จะเปิดดำเนินกิจการได้ประมาณเดือน เม.ย.66” นายสุเมธ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา ( Maintenance, Repair and Overhaul : MRO) นั้น บริษัท การบินไทย ได้ออกประกาศเชิญชวนและคัดเลือกเอกชนโดยไม่ใช้วิธีการประมูล แต่ใช้วิธีคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่ง บริษัท Airbus S.A.S (แอร์บัส) ผ่านคุณสมบัติและมีประสบการณ์เหมาะสมที่จะร่วมลงทุน โดยมีวงเงินลงทุน 4,400 ล้านบาท (บริษัท การบินไทย ถือหุ้น 50% หรือ 2,200 ล้านบาท ).
นายสุเมธ กล่าวต่อว่า กำหนดการยื่นข้อเสนอของเอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุน ได้กำหนดให้ยื่นภายในวันที่ 6 มี.ค.63 หลังจากมีการยื่นข้อเสนอจากเอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนแล้วจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการเจรจาต่อรองและหาข้อสรุปเพื่อนำผลการเจรจา ผลการคัดเลือกและร่างสัญญาร่วมทุนเสนอขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยการบินไทยคาดว่าการเจรจาต่อรองจะได้ข้อยุติในเดือนพ.ค.63 หลังจากนั้นการบินไทยจะต้องส่งร่างสัญญาร่วมลงทุนให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา โดยประมาณการว่าจะได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานอัยการสูงสุด ในเดือนมิ.ย.63
“จากนั้น การบินไทยจะนำเรื่องเสนอผ่านสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อขอความเห็นชอบจาก คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบจาก กพอ.ในเดือน ก.ค.63 เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรับทราบในเดือนส.ค.63 ต่อไป และคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาร่วมลงทุนระหว่างบริษัท การบินไทยฯ และเอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนภายในเดือนส.ค.63 และ จะเปิดดำเนินกิจการได้ประมาณเดือน เม.ย.66” นายสุเมธ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา ( Maintenance, Repair and Overhaul : MRO) นั้น บริษัท การบินไทย ได้ออกประกาศเชิญชวนและคัดเลือกเอกชนโดยไม่ใช้วิธีการประมูล แต่ใช้วิธีคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่ง บริษัท Airbus S.A.S (แอร์บัส) ผ่านคุณสมบัติและมีประสบการณ์เหมาะสมที่จะร่วมลงทุน โดยมีวงเงินลงทุน 4,400 ล้านบาท (บริษัท การบินไทย ถือหุ้น 50% หรือ 2,200 ล้านบาท ).