การที่อดีต ส. ส. อนาคตใหม่ "กวินนาถ ตาคีย์" ส.ส.ชลบุรี วิ่งรถเลยป้ายพรรคพลังประชารัฐ มาเข้าสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไท ของ ชัชวาลย์ คงอุดม หรือ "ชัช เตาปูน" ทำให้เพิ่มปริมาณส.ส.ในหน้าตัก จาก 3 ที่นั่ง มาเป็น 4 ที่นั่ง
ซึ่งยังไม่นับรวมพวก ส.ส.พรรคเล็กที่ระยะหลังๆ ไปไหนมาไหนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยศรีวิไลย์ ของ “พี่เต้ พระรามเจ็ด” มงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ และพรรคประชาธรรมไทยของ “พิเชษฐ สถิรชวาล”และอีกสองคนจากพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยของ"ดำรง พิเดช" รวมแล้วตอนนี้มี 8 เสียงแล้ว
การเสริมทัพเพิ่ม ด้วยการดึง “กวินนาถ”มาร่วม วิเคราะห์กันว่าคิวนี้ ยี่ห้อ“ชัช เตาปูน”ไม่ได้หวังแค่จะสร้าง“กลุ่มกิจสังคมใหม่” แค่เท่ๆ แต่เชื่อว่ามีแผนที่ลึกไปกว่านั้น
โดยเฉพาะโควตารัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้พรรคท้องถิ่นไท ซึ่งมีส.ส. 3 ที่นั่ง ต้องพลาดท่าไป ในขณะที่พรรคขนาดเท่ากัน คือพรรคชาติพัฒนา ที่มี “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ”เป็นซีอีโอ ได้เก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปให้น้องชาย“เทวัญ ลิปตพัลลภ”
การที่พรรคพลังท้องถิ่นไท มีส.ส.เพิ่มเป็น 4 ที่นั่ง จึงเป็นการเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว เพราะตามสูตรคณิตศาสตร์การเมืองของการจัดสรรโควตา ว่ากันด้วยตัวเลขส.ส.ของแต่ละพรรคแต่ละกลุ่มมาเป็นความสำคัญอันดับแรก
พรรคชาติพัฒนา เป็นพรรคที่มีส.ส. 3 ที่นั่ง ซึ่งน้อยที่สุดในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล ได้เก้าอี้รัฐมนตรีไปครอง ย่อมต้องรู้สึกเสียวสันหลังกับการที่เพื่อนบ้านมีส.ส.ในสภาฯเพิ่มขึ้น
ซึ่งหากมีการปรับคณะรัฐมนตรีในภายภาคหน้า เก้าอี้ของ“เทวัญ”ดูเปราะบางที่สุด หากจะมีการรื้อโควตากันใหม่ เพราะว่าวันนี้ยังมีพรรคร่วมรัฐบาล ที่มี ส.ส.มากกว่า “ขาลอย”อยู่อย่างพรรคพลังท้องถิ่นไท
มันตอบคำถามพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ว่า เหตุใดพรรคชาติพัฒนา ที่มี ส.ส. 3 ที่นั่ง จึงได้นั่งเป็นรัฐมนตรีอยู่ ในขณะที่พรรคพลังท้องถิ่นไท มี 4 ที่นั่ง แต่กลับไม่ได้อะไรเลย นอกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ของ“ชื่นชอบ คงอุดม”หรือ เอ็ม เตาถ่าน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ“ชัช เตาปูน"
คงเป็นไฟต์บังคับให้แกนนำรัฐบาลต้องจัดสมดุลใหม่ เพื่อบาลานซ์อารมณ์พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีอยู่ 2 ทางเลือก คือปรับโควตารัฐมนตรีของพรรคชาติพัฒนาออก แล้วเปลี่ยนเป็นพรรคพลังท้องถิ่นไท
กับอีกทาง ปรับพรรคชาติพัฒนาออก เพื่อถ่วงดุลอารมณ์พรรคพลังท้องถิ่นไท หากไม่ได้เก้าอี้ ก็ต้องไม่ได้ด้วยกัน เพื่อความเสมอภาค แต่หากยึดสูตรเดิม จะตอบคำถามพรรคพลังท้องถิ่นไทไม่ได้ว่า เหตุใดมีถึง 4 เก้าอี้ แต่กลับไม่ได้โควตารัฐมนตรี
ย้อนกลับไปสมัยจัดตั้งรัฐบาล แรกเริ่มเดิมที เก้าอี้ตัวนี้ของ“เทวัญ”เป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ แต่เพราะในช่วงแรก“อุตตม สาวนายน”หัวหน้าพรรค ไปตกปากรับคำบิ๊กบอสของพรรคชาติพัฒนาว่า จะดูแลให้ พูดไปแล้วก็ถือเป็นสัญญา จึงทำให้ต้องรักษาคำพูดด้วยการเกลี่ยเก้าอี้รัฐมนตรีให้
ตอนนั้นบรรดาแกนนำในพรรคพลังประชารัฐหลายคนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เพราะจำนวน 3 ส.ส. ไม่ถึงเกณฑ์จะได้รัฐมนตรี ควรนำมาจัดสรรให้คนที่พรรค ซึ่งมีหลายก๊กหลายกลุ่ม แต่ “สัญญาลูกผู้ชาย”ทำให้กล้ำกลืนยกเก้าอี้ให้พรรคสุวัจน์ ไป
เวลานั้น ยังต้องส่งคนไปเคลียร์ใจพรรคพลังท้องถิ่นไท ถึงเรื่องดังกล่าวในฐานะที่มีจำนวน ส.ส.เท่ากัน แต่กลับไม่ได้จัดสรรที่นั่งในรัฐบาล
ขณะเดียวกัน ช่วงนั้นมีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะใช้วิธีสลับกันระหว่างพรรคชาติพัฒนา กับพรรคพลังท้องถิ่นไท ในการเข้าไปนั่งในคณะรัฐมนตรี โดยคิวแรกจะให้พรรคชาติพัฒนาก่อน แต่ไม่มีใครยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ที่ผ่านมาทางด้าน "ชัช เตาปูน" พยายามแสดงตัวว่า ไม่ได้หวังลาภ ยศ สรรเสริญ ใดๆ จนได้รับคำชม แต่ใครจะรับประกันว่า ภายในพรรคพลังท้องถิ่นไท จะไม่มีคนรู้สึกกับการถูกปาดหน้าบ้าง ?
ลำพังเก้าอี้ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้มาเป็นการปลอบใจเป็นเก้าอี้ธรรมดาที่เทียบไม่ได้กับเป็นรัฐมนตรีตัวจริง
จะเห็นว่า ภายหลังจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น พรรคพลังท้องถิ่นไท มักกุ๊กกิ๊กกับพรรคเล็ก ไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยศรีวิไลย์ และพรรคประชาธรรมไทย อยู่หลายครั้งหลายหน บางครั้งยังแสดงท่าทีออกมาว่าพร้อมสนับสนุนรัฐบาลแค่บางเรื่อง เหมือนเป็นการกระตุกแกนนำรัฐบาลให้คิด
ดังนั้นการไปคว้า“กวินนาถ”มาเข้าสังกัดอีกคน ยิ่งทำให้ภาพของการสถาปนากลุ่มใหม่ในนาม“กลุ่มกิจสังคมใหม่”ดูมีวัตถุประสงค์มากกว่าการจับกลุ่มกันธรรมดาชัดขึ้น
สำหรับ“ชื่นชอบ คงอุดม”ไม่ใช่นักการเมืองหน้าใหม่ แต่ผ่านการเป็นส.ส.บางซื่อ พรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว วันนี้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่จุดหมายปลายทางย่อมอยู่ที่ตำแหน่งรัฐมนตรี และถึงวันเป็นได้แล้ว
สูตรการเมืองจึงต้องปรับใหม่ และการปรับครม.อาจจะมีขึ้นภายหลังรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น
แต่เกมนี้ อย่าคิดว่าจะกิน"ชาติพัฒนา" ของ “สุวัจน์”ได้ง่ายๆ คงจะได้เห็นการเกทับกลับไปของ สุวัจน์ ดึงส.ส.เข้ามาเพิ่ม เพื่อรักษาความปลอดภัยที่จะยึดเก้ารัฐมนตรีไว้กับพรรคชาติพัฒนา
การที่ “ชัช เตาปูน”ได้ ส.ส.เพิ่มเข้ามา ทำให้สุวัจน์นิ่งเฉยไม่ได้ ก็ต้องรีบชอปปิ้ง ส.ส. มาเข้าพรรค
เมื่อทั้งสองพรรคทุ่มสรรพกำลังสู้กัน รัฐบาลก็ได้เสียงเพิ่ม รับอานิสงส์ไปเต็มๆ งานนี้ ทำให้"ลุงตู่" อยู่ต่อ.
ซึ่งยังไม่นับรวมพวก ส.ส.พรรคเล็กที่ระยะหลังๆ ไปไหนมาไหนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยศรีวิไลย์ ของ “พี่เต้ พระรามเจ็ด” มงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ และพรรคประชาธรรมไทยของ “พิเชษฐ สถิรชวาล”และอีกสองคนจากพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยของ"ดำรง พิเดช" รวมแล้วตอนนี้มี 8 เสียงแล้ว
การเสริมทัพเพิ่ม ด้วยการดึง “กวินนาถ”มาร่วม วิเคราะห์กันว่าคิวนี้ ยี่ห้อ“ชัช เตาปูน”ไม่ได้หวังแค่จะสร้าง“กลุ่มกิจสังคมใหม่” แค่เท่ๆ แต่เชื่อว่ามีแผนที่ลึกไปกว่านั้น
โดยเฉพาะโควตารัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้พรรคท้องถิ่นไท ซึ่งมีส.ส. 3 ที่นั่ง ต้องพลาดท่าไป ในขณะที่พรรคขนาดเท่ากัน คือพรรคชาติพัฒนา ที่มี “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ”เป็นซีอีโอ ได้เก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปให้น้องชาย“เทวัญ ลิปตพัลลภ”
การที่พรรคพลังท้องถิ่นไท มีส.ส.เพิ่มเป็น 4 ที่นั่ง จึงเป็นการเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว เพราะตามสูตรคณิตศาสตร์การเมืองของการจัดสรรโควตา ว่ากันด้วยตัวเลขส.ส.ของแต่ละพรรคแต่ละกลุ่มมาเป็นความสำคัญอันดับแรก
พรรคชาติพัฒนา เป็นพรรคที่มีส.ส. 3 ที่นั่ง ซึ่งน้อยที่สุดในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล ได้เก้าอี้รัฐมนตรีไปครอง ย่อมต้องรู้สึกเสียวสันหลังกับการที่เพื่อนบ้านมีส.ส.ในสภาฯเพิ่มขึ้น
ซึ่งหากมีการปรับคณะรัฐมนตรีในภายภาคหน้า เก้าอี้ของ“เทวัญ”ดูเปราะบางที่สุด หากจะมีการรื้อโควตากันใหม่ เพราะว่าวันนี้ยังมีพรรคร่วมรัฐบาล ที่มี ส.ส.มากกว่า “ขาลอย”อยู่อย่างพรรคพลังท้องถิ่นไท
มันตอบคำถามพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ว่า เหตุใดพรรคชาติพัฒนา ที่มี ส.ส. 3 ที่นั่ง จึงได้นั่งเป็นรัฐมนตรีอยู่ ในขณะที่พรรคพลังท้องถิ่นไท มี 4 ที่นั่ง แต่กลับไม่ได้อะไรเลย นอกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ของ“ชื่นชอบ คงอุดม”หรือ เอ็ม เตาถ่าน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ“ชัช เตาปูน"
คงเป็นไฟต์บังคับให้แกนนำรัฐบาลต้องจัดสมดุลใหม่ เพื่อบาลานซ์อารมณ์พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีอยู่ 2 ทางเลือก คือปรับโควตารัฐมนตรีของพรรคชาติพัฒนาออก แล้วเปลี่ยนเป็นพรรคพลังท้องถิ่นไท
กับอีกทาง ปรับพรรคชาติพัฒนาออก เพื่อถ่วงดุลอารมณ์พรรคพลังท้องถิ่นไท หากไม่ได้เก้าอี้ ก็ต้องไม่ได้ด้วยกัน เพื่อความเสมอภาค แต่หากยึดสูตรเดิม จะตอบคำถามพรรคพลังท้องถิ่นไทไม่ได้ว่า เหตุใดมีถึง 4 เก้าอี้ แต่กลับไม่ได้โควตารัฐมนตรี
ย้อนกลับไปสมัยจัดตั้งรัฐบาล แรกเริ่มเดิมที เก้าอี้ตัวนี้ของ“เทวัญ”เป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ แต่เพราะในช่วงแรก“อุตตม สาวนายน”หัวหน้าพรรค ไปตกปากรับคำบิ๊กบอสของพรรคชาติพัฒนาว่า จะดูแลให้ พูดไปแล้วก็ถือเป็นสัญญา จึงทำให้ต้องรักษาคำพูดด้วยการเกลี่ยเก้าอี้รัฐมนตรีให้
ตอนนั้นบรรดาแกนนำในพรรคพลังประชารัฐหลายคนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เพราะจำนวน 3 ส.ส. ไม่ถึงเกณฑ์จะได้รัฐมนตรี ควรนำมาจัดสรรให้คนที่พรรค ซึ่งมีหลายก๊กหลายกลุ่ม แต่ “สัญญาลูกผู้ชาย”ทำให้กล้ำกลืนยกเก้าอี้ให้พรรคสุวัจน์ ไป
เวลานั้น ยังต้องส่งคนไปเคลียร์ใจพรรคพลังท้องถิ่นไท ถึงเรื่องดังกล่าวในฐานะที่มีจำนวน ส.ส.เท่ากัน แต่กลับไม่ได้จัดสรรที่นั่งในรัฐบาล
ขณะเดียวกัน ช่วงนั้นมีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะใช้วิธีสลับกันระหว่างพรรคชาติพัฒนา กับพรรคพลังท้องถิ่นไท ในการเข้าไปนั่งในคณะรัฐมนตรี โดยคิวแรกจะให้พรรคชาติพัฒนาก่อน แต่ไม่มีใครยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ที่ผ่านมาทางด้าน "ชัช เตาปูน" พยายามแสดงตัวว่า ไม่ได้หวังลาภ ยศ สรรเสริญ ใดๆ จนได้รับคำชม แต่ใครจะรับประกันว่า ภายในพรรคพลังท้องถิ่นไท จะไม่มีคนรู้สึกกับการถูกปาดหน้าบ้าง ?
ลำพังเก้าอี้ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้มาเป็นการปลอบใจเป็นเก้าอี้ธรรมดาที่เทียบไม่ได้กับเป็นรัฐมนตรีตัวจริง
จะเห็นว่า ภายหลังจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น พรรคพลังท้องถิ่นไท มักกุ๊กกิ๊กกับพรรคเล็ก ไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยศรีวิไลย์ และพรรคประชาธรรมไทย อยู่หลายครั้งหลายหน บางครั้งยังแสดงท่าทีออกมาว่าพร้อมสนับสนุนรัฐบาลแค่บางเรื่อง เหมือนเป็นการกระตุกแกนนำรัฐบาลให้คิด
ดังนั้นการไปคว้า“กวินนาถ”มาเข้าสังกัดอีกคน ยิ่งทำให้ภาพของการสถาปนากลุ่มใหม่ในนาม“กลุ่มกิจสังคมใหม่”ดูมีวัตถุประสงค์มากกว่าการจับกลุ่มกันธรรมดาชัดขึ้น
สำหรับ“ชื่นชอบ คงอุดม”ไม่ใช่นักการเมืองหน้าใหม่ แต่ผ่านการเป็นส.ส.บางซื่อ พรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว วันนี้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่จุดหมายปลายทางย่อมอยู่ที่ตำแหน่งรัฐมนตรี และถึงวันเป็นได้แล้ว
สูตรการเมืองจึงต้องปรับใหม่ และการปรับครม.อาจจะมีขึ้นภายหลังรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น
แต่เกมนี้ อย่าคิดว่าจะกิน"ชาติพัฒนา" ของ “สุวัจน์”ได้ง่ายๆ คงจะได้เห็นการเกทับกลับไปของ สุวัจน์ ดึงส.ส.เข้ามาเพิ่ม เพื่อรักษาความปลอดภัยที่จะยึดเก้ารัฐมนตรีไว้กับพรรคชาติพัฒนา
การที่ “ชัช เตาปูน”ได้ ส.ส.เพิ่มเข้ามา ทำให้สุวัจน์นิ่งเฉยไม่ได้ ก็ต้องรีบชอปปิ้ง ส.ส. มาเข้าพรรค
เมื่อทั้งสองพรรคทุ่มสรรพกำลังสู้กัน รัฐบาลก็ได้เสียงเพิ่ม รับอานิสงส์ไปเต็มๆ งานนี้ ทำให้"ลุงตู่" อยู่ต่อ.