“พรรครัฐบาล” เลี้ยงปีใหม่ “รวมพลังสร้างชาติ” คึกคัก “ประยุทธ์-ประวิตร” ร่วมงานด้วย ไร้ “หูฉลาม” เสิร์ฟ “ปลาตัวเล็ก” แทน เสียงปรบมือต้อนรับ "ศรีนวล" ลั่น "มุกดา" รับผิดปล่อยกลุ่ม LGBT จูบกันกลางสภา ชี้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ได้ แต่ต้องให้เกียรติ-เคารพสถานที่ ด้าน"ชวน" สั่งเลขาสภาฯ ทำรายงานก่อนดำเนินการ "สรศักดิ์" รับระเบียบเดิม ไม่มีอะไรผิด เตรียมร่างระเบียบ พร้อมบทลงโทษใหม่ “สมชาย” ซัด ส.ส.อนค.ขอโทษไม่พอ ต้องลาออกรับผิดชอบ
วานนี้ (19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่สโมสรราชพฤกษ์คลับ พรรคพลังประชารัฐ ได้จัดงานสัมมนาพรรคร่วมรัฐบาล “รวมพลัง สร้างชาติ” และงานเลี้ยงเนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยมี แกนนำ และ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เดินทางเข้ามาร่วมคับคั่ง โดยเมนูอาหารในการจัดเลี้ยง ประกอบด้วย กระเพาะปลาผัดแห้ง, ขนมผักกาดผัดซอส, กุ้ง-หอยเชลล์พริกคั่ว, ไก่แช่เหล้า, ปลาเงินทอด, ซุปเสฉวนซีฟู๊ด, ปลาเก๋าแดงนึ่งเต้าโซ่, ผักบ๊อกชอยผัดกระเทียม, บะหมี่, ตุ๋นเป็ดอบใบชา และของหวานเป็นบัวลอยแปะก๊วยน้ำขิง ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าเมนูอาหารในวันนี้ไม่มีเมนูซุปหูฉลามเหมือนครั้งที่ผ่านมา ที่มีประเด็นถูกวิพากวิจารณ์ โดยนำเมนูปลาเงินทอด ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เคยระบุว่าจะทานปลาตัวเล็ก มาแทน
"บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่” พร้อมหน้า- "ศรีนวล" มาด้วย
ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางมาถึงสถานที่จัดงาน โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้เดินทางมาถึงก่อนหน้านั้นเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมี น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เขต 8 เชียงใหม่ ที่ถูกพรรคอนาคตใหม่ ขับออกจากพรรค ก็เดินทางมาร่วมงานด้วย โดย น.ส.ศรีนวล เดินตรงเข้าไปรวมกลุ่มกับ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ที่คาดว่าจะเข้าไปสังกัดในอนาคตอันใกล้ เช่นเดียวกับบรรดาพรรคเล็กได้เดินทางมาร่วมงานอย่างพร้อมเพียง เช่น พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรคประชาธรรมไทย ฯลฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกฯเดินเข้าไปร่วมงานแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ ได้นำลูกพรรคภูมิใจไทยเดินเข้าไปในงาน โดยมี น.ส.ศรีนวลเดินตามไปด้วย ซึ่งทันทีที่เดินเข้าไปมีเสียงเฮและเสียงปรบมือต้อนรับดังกระหึ่ม ขณะที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ต่างเข้ามาขอถ่ายภาพร่วมกับนายกฯ และนายกฯยังได้เดินถ่ายภาพกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกโต๊ะด้วย
นายกฯลั่นร่วม รบ.เหมือนร่วมสายเลือด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นเวทีพร้อมกล่าวกับผู้ร่วมงานว่า ขอบคุณนายกฯ คณะรัฐมนตรีและส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่มาร่วมงานในวันนี้ ตนถือว่าการพบปะในคืนวันนี้ เป็นนิมิตหมายที่ดีที่พรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติจะได้มาร่วมกันหารือถึงแนวทางการทำงานร่วมกันที่เป็นเอกภาพ มีโอกาสพูดคุยเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคต เพื่อลูกหลานของเราแม้ว่าเราจะมาจากหลากหลายพรรค
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้หลายท่านมีประชุมสภา บางทีก็ไม่ว่างใส่หัวโขนกันมาทั้งวัน แต่ที่นี่ไม่มีหัวโขน วันนี้ถือว่าเป็นวันดี ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติกับตนมาร่วมงานในวันนี้ ถือว่าเป็นวันแห่งความสุข วันแห่งความเป็นพี่เป็นน้องของพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะพรรคใดเราก็คือพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ ทั้งนี้เมื่อนายกฯ พูดถึงช่วงนี้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ในงานต่างปรบมือและตะโกนตอบว่า “ใช่” อย่างพร้อมเพรียงกัน
“คำว่าร่วมรัฐบาล มันเหมือนกับร่วมสายเลือด ซึ่งคำว่าร่วมสายเลือดมันลึกซึ้ง กินความมากกว่าทุกอย่าง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ชักชวนแกนนำพรรคร่วม อาทิ เทวัญ ลิปตภัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกฯ และหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นร้องเพลง"ด้วยรักและผูกพัน" และ"จับมือไว้" ของธงไชย แมคอินไตย โดยมีส.ส.จากทั้งพรรคเล็กและพรรคใหญ่ร่วมร้องเพลงนี้ อาทิ น.ส.ศรีนวล, น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นต้น
“มุกดา” ประธาน กมธ.น้อมรับผิด
จากกรณีที่มีกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) ที่นำมาโดย นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กลุ่ม LGBT ของพรรคอนาคตใหม่ ได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการจูบกันกลางสภาฯ หลังการแถลงข่าวของ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา
นางมุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.กิจการเด็กฯ ได้ออกมาขอโทษพร้อมกล่าวยอมรับผิดที่ไม่รอบคอบปล่อยให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยระบุว่า ส่วนตัวไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนได้นำเรียนประธานสภาฯแล้ว และน้อมรับทุกเรื่องในฐานะที่เป็นประธานกมธ. และในฐานะที่เป็น ส.ส.มาหลายสมัย ภาพที่เกิดขึ้นยิ่งสะท้อนความรู้สึก
“การจะแสดงความเชิงสัญญาลักษณ์ตรงไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่สถานที่แห่งนี้ ขอให้เคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราด้วย ซึ่งดิฉันมองว่าไม่ถูกต้อง ขอยอมรับผิดที่ไม่รอบคอบ ไม่ตรวจสอบ เพราะไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในสภาฯ ดังนั้นดิฉันขอโทษประชาชนด้วย จากนี้ก็จะมีการระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก" นางมุกดา กล่าวพร้อมยกมือไหว้ขอโทษ
“ชวน”รอเลขาฯสภาฯรายงานก่อน
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าได้รับทราบแล้ว และขอไปพิจารณาก่อน ทั้งนี้ได้สั่งให้เลขาสภาฯ รายงานเรื่องดังกล่าวขึ้นมาแล้ว ก่อนจะดำเนินการต่อไป
ด้าน นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม รับไม่ได้ แต่เบื้องต้น ตามระเบียบไม่มีการกำหนดบทลงโทษไว้ชัดเจนในกรณีนี้ แต่มอบหมายให้สำนักประชาสัมพันธ์ ทำรายงานส่งต่อประธานสภาฯทันทีในวันนั้น โดยประธานสภาฯ สั่งการให้ กมธ.ทำรายงานชี้แจงข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
“สภาฯมีระเบียบเกี่ยวกับการแถลงข่าวตั้งแต่สมัย นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯ โดยมีหลักการให้สมาชิก และอดีตสมาชิกใช้พื้นที่แถลงข่าวได้ ขณะนี้ทางสำนักเลขาธิการสภาฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายตั้งทีมเพื่อปรับปรุงแก้ไขระเบียบต่างๆ 18 ฉบับ ซึ่งเรื่องการแถลงข่าว ก็เป็นหนึ่งในระเบียบที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมฉบับปัจจุบัน โดยจะพิจารณาว่า นอกจากจะให้สิทธิ์แก่สมาชิกหรืออดีตสมาชิก หรือไม่แล้วนั้น ก็จะมีการพิจารณาว่าควรมีการกำหนดบทลงโทษด้วยหรือไม่ หากมีการแถลงข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง หรือไม่เหมาะสม” นายสรศักดิ์ ระบุ
“ส.ว.สมชาย” ตะเพิดต้องลาออก
นายสมชาย แสวงการ ส.ว. โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "#เรื่องจูบปากอัปยศในสัปปายะสภาสถาน ยังจบไม่ได้ครับ ท่านประธานสภาฯ น่าจะต้องสั่งการให้มีการดำเนินการต่อ ในการสอบจริยธรรมส.ส.และกรรมาธิการ ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพ ต้องดำเนินคดีข้อหาอนาจาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 และอาจมีความผิดอีกตามพ.ร.บ.การกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
"คนที่ต้องรับผิดชอบคือ ส.ส.และกรรมาธิการ ที่ขาดความรับผิดชอบต่อภาพที่ถ่ายทอดสดไปยังเด็กเยาวชนสตรีทั่วประเทศ ครับ พิจารณาตัวเองเถอะครับ"นายสมชาย ระบุ
วานนี้ (19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่สโมสรราชพฤกษ์คลับ พรรคพลังประชารัฐ ได้จัดงานสัมมนาพรรคร่วมรัฐบาล “รวมพลัง สร้างชาติ” และงานเลี้ยงเนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยมี แกนนำ และ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เดินทางเข้ามาร่วมคับคั่ง โดยเมนูอาหารในการจัดเลี้ยง ประกอบด้วย กระเพาะปลาผัดแห้ง, ขนมผักกาดผัดซอส, กุ้ง-หอยเชลล์พริกคั่ว, ไก่แช่เหล้า, ปลาเงินทอด, ซุปเสฉวนซีฟู๊ด, ปลาเก๋าแดงนึ่งเต้าโซ่, ผักบ๊อกชอยผัดกระเทียม, บะหมี่, ตุ๋นเป็ดอบใบชา และของหวานเป็นบัวลอยแปะก๊วยน้ำขิง ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าเมนูอาหารในวันนี้ไม่มีเมนูซุปหูฉลามเหมือนครั้งที่ผ่านมา ที่มีประเด็นถูกวิพากวิจารณ์ โดยนำเมนูปลาเงินทอด ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เคยระบุว่าจะทานปลาตัวเล็ก มาแทน
"บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่” พร้อมหน้า- "ศรีนวล" มาด้วย
ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางมาถึงสถานที่จัดงาน โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้เดินทางมาถึงก่อนหน้านั้นเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมี น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เขต 8 เชียงใหม่ ที่ถูกพรรคอนาคตใหม่ ขับออกจากพรรค ก็เดินทางมาร่วมงานด้วย โดย น.ส.ศรีนวล เดินตรงเข้าไปรวมกลุ่มกับ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ที่คาดว่าจะเข้าไปสังกัดในอนาคตอันใกล้ เช่นเดียวกับบรรดาพรรคเล็กได้เดินทางมาร่วมงานอย่างพร้อมเพียง เช่น พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรคประชาธรรมไทย ฯลฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกฯเดินเข้าไปร่วมงานแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ ได้นำลูกพรรคภูมิใจไทยเดินเข้าไปในงาน โดยมี น.ส.ศรีนวลเดินตามไปด้วย ซึ่งทันทีที่เดินเข้าไปมีเสียงเฮและเสียงปรบมือต้อนรับดังกระหึ่ม ขณะที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ต่างเข้ามาขอถ่ายภาพร่วมกับนายกฯ และนายกฯยังได้เดินถ่ายภาพกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกโต๊ะด้วย
นายกฯลั่นร่วม รบ.เหมือนร่วมสายเลือด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นเวทีพร้อมกล่าวกับผู้ร่วมงานว่า ขอบคุณนายกฯ คณะรัฐมนตรีและส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่มาร่วมงานในวันนี้ ตนถือว่าการพบปะในคืนวันนี้ เป็นนิมิตหมายที่ดีที่พรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติจะได้มาร่วมกันหารือถึงแนวทางการทำงานร่วมกันที่เป็นเอกภาพ มีโอกาสพูดคุยเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคต เพื่อลูกหลานของเราแม้ว่าเราจะมาจากหลากหลายพรรค
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้หลายท่านมีประชุมสภา บางทีก็ไม่ว่างใส่หัวโขนกันมาทั้งวัน แต่ที่นี่ไม่มีหัวโขน วันนี้ถือว่าเป็นวันดี ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติกับตนมาร่วมงานในวันนี้ ถือว่าเป็นวันแห่งความสุข วันแห่งความเป็นพี่เป็นน้องของพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะพรรคใดเราก็คือพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ ทั้งนี้เมื่อนายกฯ พูดถึงช่วงนี้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ในงานต่างปรบมือและตะโกนตอบว่า “ใช่” อย่างพร้อมเพรียงกัน
“คำว่าร่วมรัฐบาล มันเหมือนกับร่วมสายเลือด ซึ่งคำว่าร่วมสายเลือดมันลึกซึ้ง กินความมากกว่าทุกอย่าง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ชักชวนแกนนำพรรคร่วม อาทิ เทวัญ ลิปตภัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกฯ และหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นร้องเพลง"ด้วยรักและผูกพัน" และ"จับมือไว้" ของธงไชย แมคอินไตย โดยมีส.ส.จากทั้งพรรคเล็กและพรรคใหญ่ร่วมร้องเพลงนี้ อาทิ น.ส.ศรีนวล, น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นต้น
“มุกดา” ประธาน กมธ.น้อมรับผิด
จากกรณีที่มีกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) ที่นำมาโดย นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กลุ่ม LGBT ของพรรคอนาคตใหม่ ได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการจูบกันกลางสภาฯ หลังการแถลงข่าวของ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา
นางมุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.กิจการเด็กฯ ได้ออกมาขอโทษพร้อมกล่าวยอมรับผิดที่ไม่รอบคอบปล่อยให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยระบุว่า ส่วนตัวไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนได้นำเรียนประธานสภาฯแล้ว และน้อมรับทุกเรื่องในฐานะที่เป็นประธานกมธ. และในฐานะที่เป็น ส.ส.มาหลายสมัย ภาพที่เกิดขึ้นยิ่งสะท้อนความรู้สึก
“การจะแสดงความเชิงสัญญาลักษณ์ตรงไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่สถานที่แห่งนี้ ขอให้เคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราด้วย ซึ่งดิฉันมองว่าไม่ถูกต้อง ขอยอมรับผิดที่ไม่รอบคอบ ไม่ตรวจสอบ เพราะไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในสภาฯ ดังนั้นดิฉันขอโทษประชาชนด้วย จากนี้ก็จะมีการระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก" นางมุกดา กล่าวพร้อมยกมือไหว้ขอโทษ
“ชวน”รอเลขาฯสภาฯรายงานก่อน
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าได้รับทราบแล้ว และขอไปพิจารณาก่อน ทั้งนี้ได้สั่งให้เลขาสภาฯ รายงานเรื่องดังกล่าวขึ้นมาแล้ว ก่อนจะดำเนินการต่อไป
ด้าน นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม รับไม่ได้ แต่เบื้องต้น ตามระเบียบไม่มีการกำหนดบทลงโทษไว้ชัดเจนในกรณีนี้ แต่มอบหมายให้สำนักประชาสัมพันธ์ ทำรายงานส่งต่อประธานสภาฯทันทีในวันนั้น โดยประธานสภาฯ สั่งการให้ กมธ.ทำรายงานชี้แจงข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
“สภาฯมีระเบียบเกี่ยวกับการแถลงข่าวตั้งแต่สมัย นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯ โดยมีหลักการให้สมาชิก และอดีตสมาชิกใช้พื้นที่แถลงข่าวได้ ขณะนี้ทางสำนักเลขาธิการสภาฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายตั้งทีมเพื่อปรับปรุงแก้ไขระเบียบต่างๆ 18 ฉบับ ซึ่งเรื่องการแถลงข่าว ก็เป็นหนึ่งในระเบียบที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมฉบับปัจจุบัน โดยจะพิจารณาว่า นอกจากจะให้สิทธิ์แก่สมาชิกหรืออดีตสมาชิก หรือไม่แล้วนั้น ก็จะมีการพิจารณาว่าควรมีการกำหนดบทลงโทษด้วยหรือไม่ หากมีการแถลงข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง หรือไม่เหมาะสม” นายสรศักดิ์ ระบุ
“ส.ว.สมชาย” ตะเพิดต้องลาออก
นายสมชาย แสวงการ ส.ว. โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "#เรื่องจูบปากอัปยศในสัปปายะสภาสถาน ยังจบไม่ได้ครับ ท่านประธานสภาฯ น่าจะต้องสั่งการให้มีการดำเนินการต่อ ในการสอบจริยธรรมส.ส.และกรรมาธิการ ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพ ต้องดำเนินคดีข้อหาอนาจาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 และอาจมีความผิดอีกตามพ.ร.บ.การกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
"คนที่ต้องรับผิดชอบคือ ส.ส.และกรรมาธิการ ที่ขาดความรับผิดชอบต่อภาพที่ถ่ายทอดสดไปยังเด็กเยาวชนสตรีทั่วประเทศ ครับ พิจารณาตัวเองเถอะครับ"นายสมชาย ระบุ