ผู้จัดการรายวัน 360 - “สารัชถ์” ซีอีโอบมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ คว้าแชมป์เศรษฐกิจหุ้น มูลค่ารวมกว่า 1.21 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 109.84% เบียด "หมอเสริฐ" แชมป์ 6 สมัยร่วงมาอยู่อันดับ 2 มูลค่า 6.61 หมื่นล้านบาท "นิติ" ทายาทโอสถสภา รั้งอันดับ 3 ด้วยมูลค่า 4.86 หมื่นล้านบาท ด้าน “เจ้าสัวเจริญ-คุณหญิงวรรณา” ติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นหน้าใหม่
วารสารการเงินธนาคารร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย โดยวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2562 ปรากฏว่า นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF คว้าแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยคนใหม่ โดยถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดรวม 120,960 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63,315 ล้านบาท หรือ 109.84% ซึ่งหุ้นที่ถือครองมีเพียง 1 บริษัท คือ GULF โดยถือหุ้นสูงเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 35.44%
อันดับ 2 นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพและสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 66,110.64 ล้านบาท รวยลดลง 11,018.68 ล้านบาท หรือ 14.29% โดยนพ.ปราเสริฐ เคยครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 6 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2556- 2561 อันดับ 3 นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ทายาทอาณาจักรโอสถสภา ก้าวจากอันดับ 7 เมื่อปีที่แล้ว ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 48,613.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,648.61 ล้านบาท หรือ 52.08% อันดับ 4 นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ขยับจากอันดับ 9 มูลค่าหุ้นรวม 43,080.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,708.42 ล้านบาท หรือ 51.84% อันดับ 5 นายสมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) หล่นจากอันดับ 3 มูลค่าหุ้นรวม 42,084.25 ล้านบาท ลดลง 125.16 ล้านบาท หรือ 0.30%
เศรษฐีหุ้นอันดับ 6 นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กรรมการกลุ่มบริษัท ทีโอเอ มูลค่าหุ้นรวม 41,055.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,162.15 ล้านบาท หรือ 495.60% จากการเข้าลงทุนเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยอ้อม (Backdoor Listing) ใน บมจ.สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย (SMM) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK)
อันดับ 7 และ 8 ได้แก่ 2 เจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) นางดาวนภา เพ็ชรอำไพ ร่วงจากอันดับ 5 มูลค่าหุ้นรวม 41,040 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,300 ล้านบาท หรือ 18.13% ส่วนนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ร่วงจากอันดับ 4 มูลค่าหุ้นรวม 40,841.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,448.98 ล้านบาท หรือ 15.40% อันดับ 9 นายพิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ถูกเบียดจากอันดับ 8 มูลค่าหุ้น 32,596.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,677.46 ล้านบาท หรือ 12.72% และอันดับ 10 นายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ร่วงจากอันดับ 6 มูลค่ารวม 27,469.19 ล้านบาท ลดลง 5,431.16 ล้านบาท หรือ 16.51%
ด้านเจ้าสัวเจริญและคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยปีนี้เป็นครั้งแรก โดยอยู่ในอันดับ 23 มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองคนละ 10,330.57 ล้านบาท จากการนำ บมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์ (SEG) ที่ลงทุนในธุรกิจประกันอาคเนย์เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 โดยเจ้าสัวเจริญและคุณหญิงวรรณาถือหุ้น SEG สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วนเท่ากันที่ 37.38% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ปรากฏชื่ออย่างเป็นทางการในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
สำหรับทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยในปี 2563 น่าจะได้เห็นความมั่งคั่งของเจ้าสัวเจริญและคุณหญิงวรรณา เพิ่มขึ้นอีกมหาศาล จากการนำ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) Holding Company ที่ถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ “ทีซีซี กรุ๊ป” เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 ด้วยมูลค่า IPO รวม 185,742 ล้านบาท สูงสุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย ซึ่งเจ้าสัวเจริญถือหุ้นเป็นอันดับ 2 ในสัดส่วน 25.12% และคุณหญิงวรรณาถือหุ้นอันดับ 3 ในสัดส่วน
วารสารการเงินธนาคารร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย โดยวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2562 ปรากฏว่า นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF คว้าแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยคนใหม่ โดยถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดรวม 120,960 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63,315 ล้านบาท หรือ 109.84% ซึ่งหุ้นที่ถือครองมีเพียง 1 บริษัท คือ GULF โดยถือหุ้นสูงเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 35.44%
อันดับ 2 นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพและสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 66,110.64 ล้านบาท รวยลดลง 11,018.68 ล้านบาท หรือ 14.29% โดยนพ.ปราเสริฐ เคยครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 6 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2556- 2561 อันดับ 3 นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ทายาทอาณาจักรโอสถสภา ก้าวจากอันดับ 7 เมื่อปีที่แล้ว ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 48,613.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,648.61 ล้านบาท หรือ 52.08% อันดับ 4 นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ขยับจากอันดับ 9 มูลค่าหุ้นรวม 43,080.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,708.42 ล้านบาท หรือ 51.84% อันดับ 5 นายสมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) หล่นจากอันดับ 3 มูลค่าหุ้นรวม 42,084.25 ล้านบาท ลดลง 125.16 ล้านบาท หรือ 0.30%
เศรษฐีหุ้นอันดับ 6 นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กรรมการกลุ่มบริษัท ทีโอเอ มูลค่าหุ้นรวม 41,055.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,162.15 ล้านบาท หรือ 495.60% จากการเข้าลงทุนเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยอ้อม (Backdoor Listing) ใน บมจ.สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย (SMM) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK)
อันดับ 7 และ 8 ได้แก่ 2 เจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) นางดาวนภา เพ็ชรอำไพ ร่วงจากอันดับ 5 มูลค่าหุ้นรวม 41,040 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,300 ล้านบาท หรือ 18.13% ส่วนนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ร่วงจากอันดับ 4 มูลค่าหุ้นรวม 40,841.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,448.98 ล้านบาท หรือ 15.40% อันดับ 9 นายพิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ถูกเบียดจากอันดับ 8 มูลค่าหุ้น 32,596.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,677.46 ล้านบาท หรือ 12.72% และอันดับ 10 นายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ร่วงจากอันดับ 6 มูลค่ารวม 27,469.19 ล้านบาท ลดลง 5,431.16 ล้านบาท หรือ 16.51%
ด้านเจ้าสัวเจริญและคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยปีนี้เป็นครั้งแรก โดยอยู่ในอันดับ 23 มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองคนละ 10,330.57 ล้านบาท จากการนำ บมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์ (SEG) ที่ลงทุนในธุรกิจประกันอาคเนย์เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 โดยเจ้าสัวเจริญและคุณหญิงวรรณาถือหุ้น SEG สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วนเท่ากันที่ 37.38% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ปรากฏชื่ออย่างเป็นทางการในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
สำหรับทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยในปี 2563 น่าจะได้เห็นความมั่งคั่งของเจ้าสัวเจริญและคุณหญิงวรรณา เพิ่มขึ้นอีกมหาศาล จากการนำ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) Holding Company ที่ถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ “ทีซีซี กรุ๊ป” เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 ด้วยมูลค่า IPO รวม 185,742 ล้านบาท สูงสุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย ซึ่งเจ้าสัวเจริญถือหุ้นเป็นอันดับ 2 ในสัดส่วน 25.12% และคุณหญิงวรรณาถือหุ้นอันดับ 3 ในสัดส่วน