พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการประชุม กมธ.ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาหนังสือคำชี้แจงของพล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในสัปดาห์หน้าซึ่งอาจจะมีการเรียกให้เข้ามาชี้แจงอีกครั้ง ว่า "ก็จบไปแล้ว เราก็ชี้แจงไปหมดแล้ว จะเชิญอะไรอีก และรอบนี้เป็นรอบที่ 3 ส่วนรอบที่ 4 ยังไม่เชิญ แหม่ก็พูดไปเรื่อย"
เมื่อถามว่าจะฟ้องกลับหรือไม่ ในเรื่องการใช้อำนาจเชิญหลายครั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า“โอ๊ย เดี๋ยวให้มันจบไปก่อน”เมื่อถามต่อว่าในระยะยาวจะรับมือกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกมธ.ป.ป.ช. อย่างไรเพราะอาจจะมีเรื่องอื่นต่อไปอีก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "รับมืออะไร ไม่เห็นต้องรับมือ ไม่ต้องรับ ไปรับมืออะไร"
เมื่อถามย้ำ ว่าในทุกกรรมาธิการ ที่มีปัญหากับตัวท่าน และ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องมีการส่งคนของพรรคเข้าไป เช่นเดียวกับน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี และ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของสภาฯเราไม่เกี่ยว แล้วแต่สภาฯและส.ส.
เมื่อถามอีกว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเปลี่ยนตัว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จากการเป็นประธานกมธ.ป.ป.ช. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ แล้วแต่สภาฯ
ด้านนายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการไปชี้แจงต่อ กมธ.ป.ป.ช. แทน พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ว่าได้ตอบครบทุกประเด็น ชัดเจนแล้ว คิดว่าหลัง กมธ.ป.ป.ช.ได้พิจารณาแล้วน่าจะเป็นที่พอใจ และไม่ต้องไปชี้แจงอีก
อย่างไรก็ตาม หาก กมธ.ป.ป.ช. โดยเฉพาะพล.ต.อ.เสรีศุทธ์ ยังจะเชิญอีก ต้องพึงระมัดระวัง เพราะในมาตรา 5 พ.ร.บ.คำสั่งเรียกฯ ในส่วนของกมธ.เองนั้น มีกฎหมายเขียนบังคับไว้ว่า ถ้าปฏิบัติหน้าที่ หรือเชิญผู้ใดโดยมีเจตนาไม่สุจริต จะมีโทษทางอาญารุนแรง จำคุก 1-10 ปี ทั้งนี้ สิ่งที่ กมธ.ป.ป.ช. ดำเนินการเรื่องนี้มาทั้งหมด ถ้าว่ากันตามกฎหมาย ก็มิชอบโดยกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องของ กมธ.ในสภาฯ ทราบว่า นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ และ กมธ.ป.ป.ช. ได้นำหลายประเด็นไปดำเนินคดีทางอาญา
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ กมธ.ป.ป.ช. กล่าวว่า สัปดาห์หน้า ตนจะขอให้ลงมติ ปลดพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากตำแหน่งประธาน กมธ. โดยยืนยันว่า กมธ.ทั้ง 15 คน สามารถมีมติดำเนินการได้ เพราะตำแหน่งประธานกมธ. ไม่ใช่มรดกตกทอดส่วนตัว ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับตัวบุคคล ไม่ได้เป็นปัญหาเกี่ยวกับโควต้าฝ่ายค้าน และเชื่อว่า วิปฝ่ายค้าน จะหาตัวผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งประธานกมธ.ได้ แต่หากยังยืนยันเสนอพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เหมือนเดิม ก็จะเสนอปลดอีก
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณี นายสิระ และ น.ส.ปารีณา ในฐานะกมธ.ป.ป.ช. ระบุว่า จะประสานไปยังวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน เพื่อหารือ กรณีเปลี่ยนตัว จากประธาน กมธ.ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประสานมา แต่หากมีการประสานเข้ามา เราก็พร้อมที่จะพูดคุย
ทั้งนี้ เรื่องกมธ.เป็นเรื่องโควต้า ดังนั้นสมาชิกจะเอาความต้องการของคนสองคน มาเป็นปัญหาของสภาฯ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนยังมองไม่เห็นช่องที่จะปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้ นอกจากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล จะตกลงแลกเปลี่ยนโควตากัน ย้ายโควตานี้ให้ไปเป็นของพรรคอื่น ซึ่งเรื่องนี้ไม่น่าจะง่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(21 พ.ย.) นายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนาได้ยื่นหนังสือลาออกจาก กมธ.ป.ป.ช. โดยที่ไม่มีตัวแทนจากพรรคชาติพัฒนา ต้องการเข้ามาทำหน้าที่กมธ.แทน จึงยกโควต้าดังกล่าวให้เป็นของรัฐบาล ซึ่งคาดว่า พรรคพลังประชารัฐ จะส่งนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เข้าเป็นกมธ. แทน
ทั้งนี้ นายดล ยืนยันว่า ได้ยื่นใบลาออกจาก กมธ.ชุดนี้เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการสลับโควต้ากับ พรรคพลังประชารัฐ แต่กำลังรอดูว่าจะโยกไปอยู่กมธ.ชุดไหนแทน ส่วนจะเพราะเหตุผลใดนั้น ขอไม่พูดถึง
เมื่อถามว่าจะฟ้องกลับหรือไม่ ในเรื่องการใช้อำนาจเชิญหลายครั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า“โอ๊ย เดี๋ยวให้มันจบไปก่อน”เมื่อถามต่อว่าในระยะยาวจะรับมือกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกมธ.ป.ป.ช. อย่างไรเพราะอาจจะมีเรื่องอื่นต่อไปอีก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "รับมืออะไร ไม่เห็นต้องรับมือ ไม่ต้องรับ ไปรับมืออะไร"
เมื่อถามย้ำ ว่าในทุกกรรมาธิการ ที่มีปัญหากับตัวท่าน และ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องมีการส่งคนของพรรคเข้าไป เช่นเดียวกับน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี และ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของสภาฯเราไม่เกี่ยว แล้วแต่สภาฯและส.ส.
เมื่อถามอีกว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเปลี่ยนตัว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จากการเป็นประธานกมธ.ป.ป.ช. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ แล้วแต่สภาฯ
ด้านนายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการไปชี้แจงต่อ กมธ.ป.ป.ช. แทน พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ว่าได้ตอบครบทุกประเด็น ชัดเจนแล้ว คิดว่าหลัง กมธ.ป.ป.ช.ได้พิจารณาแล้วน่าจะเป็นที่พอใจ และไม่ต้องไปชี้แจงอีก
อย่างไรก็ตาม หาก กมธ.ป.ป.ช. โดยเฉพาะพล.ต.อ.เสรีศุทธ์ ยังจะเชิญอีก ต้องพึงระมัดระวัง เพราะในมาตรา 5 พ.ร.บ.คำสั่งเรียกฯ ในส่วนของกมธ.เองนั้น มีกฎหมายเขียนบังคับไว้ว่า ถ้าปฏิบัติหน้าที่ หรือเชิญผู้ใดโดยมีเจตนาไม่สุจริต จะมีโทษทางอาญารุนแรง จำคุก 1-10 ปี ทั้งนี้ สิ่งที่ กมธ.ป.ป.ช. ดำเนินการเรื่องนี้มาทั้งหมด ถ้าว่ากันตามกฎหมาย ก็มิชอบโดยกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องของ กมธ.ในสภาฯ ทราบว่า นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ และ กมธ.ป.ป.ช. ได้นำหลายประเด็นไปดำเนินคดีทางอาญา
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ กมธ.ป.ป.ช. กล่าวว่า สัปดาห์หน้า ตนจะขอให้ลงมติ ปลดพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากตำแหน่งประธาน กมธ. โดยยืนยันว่า กมธ.ทั้ง 15 คน สามารถมีมติดำเนินการได้ เพราะตำแหน่งประธานกมธ. ไม่ใช่มรดกตกทอดส่วนตัว ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับตัวบุคคล ไม่ได้เป็นปัญหาเกี่ยวกับโควต้าฝ่ายค้าน และเชื่อว่า วิปฝ่ายค้าน จะหาตัวผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งประธานกมธ.ได้ แต่หากยังยืนยันเสนอพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เหมือนเดิม ก็จะเสนอปลดอีก
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณี นายสิระ และ น.ส.ปารีณา ในฐานะกมธ.ป.ป.ช. ระบุว่า จะประสานไปยังวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน เพื่อหารือ กรณีเปลี่ยนตัว จากประธาน กมธ.ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประสานมา แต่หากมีการประสานเข้ามา เราก็พร้อมที่จะพูดคุย
ทั้งนี้ เรื่องกมธ.เป็นเรื่องโควต้า ดังนั้นสมาชิกจะเอาความต้องการของคนสองคน มาเป็นปัญหาของสภาฯ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนยังมองไม่เห็นช่องที่จะปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้ นอกจากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล จะตกลงแลกเปลี่ยนโควตากัน ย้ายโควตานี้ให้ไปเป็นของพรรคอื่น ซึ่งเรื่องนี้ไม่น่าจะง่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(21 พ.ย.) นายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนาได้ยื่นหนังสือลาออกจาก กมธ.ป.ป.ช. โดยที่ไม่มีตัวแทนจากพรรคชาติพัฒนา ต้องการเข้ามาทำหน้าที่กมธ.แทน จึงยกโควต้าดังกล่าวให้เป็นของรัฐบาล ซึ่งคาดว่า พรรคพลังประชารัฐ จะส่งนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เข้าเป็นกมธ. แทน
ทั้งนี้ นายดล ยืนยันว่า ได้ยื่นใบลาออกจาก กมธ.ชุดนี้เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการสลับโควต้ากับ พรรคพลังประชารัฐ แต่กำลังรอดูว่าจะโยกไปอยู่กมธ.ชุดไหนแทน ส่วนจะเพราะเหตุผลใดนั้น ขอไม่พูดถึง