ผู้จัดการรายวัน360- "สมคิด" เป็นผู้แทนรัฐบาล รับเสด็จ"สมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส" เยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกรัฐบาลระหว่าง 20-23 พ.ย.นี้ ทำเนียบฯเตรียมความพร้อม ทหาร 3 เหล่าทัพซักซ้อมพิธีการต้อนรับ ก่อนจะเสด็จเข้าเผ้าสมเด็จพระสังฆราช และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในช่วงเย็นวันนี้ (21 พ.ย.)
เมื่อเวลา 12.30 น.วานนี้ (20พ.ย.) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศประจำสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส เฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส ในโอกาสเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 20-23 พ.ย. 2562
ทั้งนี้รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฯ เสด็จเยือนทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (21 พ.ย.) โดยมีการจัดสถานที่ภายในตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี และบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยฯ เตรียมจุดบันทึกภาพสำหรับช่างภาพและสื่อมวลชน ขณะเดียวกันทหารเกียรติยศ 3 เหล่าทัพได้ซักซ้อมพิธีการต้อนรับ
สำหรับกำหนดการ วันที่ 21 พ.ย. เวลา 08.30 น. คณะทางการนครรัฐวาติกัน จะออกเดินทางจากสถานเอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกัน ประจำประเทศไทย ถึงทำเนียบรัฐบาล จากนั้นเวลา 09.00 น. สมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส เสด็จออกจากสถานเอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกันประจำประเทศไทยถึงทำเนียบรัฐบาล โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รอรับเสด็จ บริเวณประตู 2 ทำเนียบรัฐบาล
ในการรับเสด็จครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะได้สัมผัสพระหัตถ์สมเด็จพระสันตะปาปาฯ แล้วกราบทูลเชิญเสด็จตามพรมแดง ไปยังแท่นรับความเคารพ ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า มีวงดุริยางค์บรรเลงเพลงชาตินครรัฐวาติกัน และเพลงชาติไทยตามลำดับ หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี จะกราบทูลเชิญสมเด็จพระสันตะปาปาฯ เสด็จไปยังแถวผู้มีเกียรติที่มาร่วมพิธี โดยอธิบดีกรมพิธีการทูต ขอประทานพระอนุญาตเบิกผู้มีเกียรติที่มารับเสด็จ ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี รมว.การต่างประเทศ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก่อนที่หัวหน้าฝ่ายพิธีการทูตนครรัฐวาติกัน จะแนะนำคณะผู้ติดตามทางการฝ่ายวาติกันต่อนายกรัฐมนตรี
ต่อจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กราบทูลเชิญสมเด็จพระสันตะปาปาฯ เสด็จไปยังตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกราบทูลเชิญสมเด็จพระสันตะปาปาฯฉายพระรูปร่วมกัน ณ บันไดโถง ตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนกราบทูลเชิญเสด็จไปยังห้องสีงาช้าง โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฯ จะทรงลงพระนามในสมุดเยี่ยม และทอดพระเนตรของที่ระลึก ที่ทั้งสองฝ่ายมอบให้แก่กัน ณ ห้องสีงาช้างด้านนอก ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาฯ ในห้องสีงาช้างด้านใน และกราบทูลเชิญสมเด็จพระสันตะปาปาฯ ไปยังตึกสันติไมตรีหลังนอก โดยมีคณะทูตานุทูต คณะรัฐมนตรี แขกผู้มีเกียรติ และคณะสื่อมวลชน เข้าเฝ้ารับเสด็จ
ในโอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะกล่าวถวายการต้อนรับ และสมเด็จพระสันตะปาปาฯจะประทานสุนทรพจน์ ก่อนที่สมเด็จพระสันตะปาปาฯจะเสด็จออกจากทำเนียบรัฐบาล ไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในเวลา 09.50 น.
นายวิษณุ ธัญญอนันต์ รองเลขาธิการสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงเย็นของวันนี้ (21 พ.ย.) สมเด็จพระสันตปาปา จะเสด็จเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน และเสด็จประกอบพิธีมิสซาร่วมกับคริสตชนคาทอลิก ที่สนามศุภชลาศัย ซึ่งคาดมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 70,000 คน
เมื่อเวลา 12.30 น.วานนี้ (20พ.ย.) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศประจำสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส เฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส ในโอกาสเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 20-23 พ.ย. 2562
ทั้งนี้รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฯ เสด็จเยือนทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (21 พ.ย.) โดยมีการจัดสถานที่ภายในตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี และบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยฯ เตรียมจุดบันทึกภาพสำหรับช่างภาพและสื่อมวลชน ขณะเดียวกันทหารเกียรติยศ 3 เหล่าทัพได้ซักซ้อมพิธีการต้อนรับ
สำหรับกำหนดการ วันที่ 21 พ.ย. เวลา 08.30 น. คณะทางการนครรัฐวาติกัน จะออกเดินทางจากสถานเอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกัน ประจำประเทศไทย ถึงทำเนียบรัฐบาล จากนั้นเวลา 09.00 น. สมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส เสด็จออกจากสถานเอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกันประจำประเทศไทยถึงทำเนียบรัฐบาล โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รอรับเสด็จ บริเวณประตู 2 ทำเนียบรัฐบาล
ในการรับเสด็จครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะได้สัมผัสพระหัตถ์สมเด็จพระสันตะปาปาฯ แล้วกราบทูลเชิญเสด็จตามพรมแดง ไปยังแท่นรับความเคารพ ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า มีวงดุริยางค์บรรเลงเพลงชาตินครรัฐวาติกัน และเพลงชาติไทยตามลำดับ หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี จะกราบทูลเชิญสมเด็จพระสันตะปาปาฯ เสด็จไปยังแถวผู้มีเกียรติที่มาร่วมพิธี โดยอธิบดีกรมพิธีการทูต ขอประทานพระอนุญาตเบิกผู้มีเกียรติที่มารับเสด็จ ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี รมว.การต่างประเทศ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก่อนที่หัวหน้าฝ่ายพิธีการทูตนครรัฐวาติกัน จะแนะนำคณะผู้ติดตามทางการฝ่ายวาติกันต่อนายกรัฐมนตรี
ต่อจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กราบทูลเชิญสมเด็จพระสันตะปาปาฯ เสด็จไปยังตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกราบทูลเชิญสมเด็จพระสันตะปาปาฯฉายพระรูปร่วมกัน ณ บันไดโถง ตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนกราบทูลเชิญเสด็จไปยังห้องสีงาช้าง โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฯ จะทรงลงพระนามในสมุดเยี่ยม และทอดพระเนตรของที่ระลึก ที่ทั้งสองฝ่ายมอบให้แก่กัน ณ ห้องสีงาช้างด้านนอก ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาฯ ในห้องสีงาช้างด้านใน และกราบทูลเชิญสมเด็จพระสันตะปาปาฯ ไปยังตึกสันติไมตรีหลังนอก โดยมีคณะทูตานุทูต คณะรัฐมนตรี แขกผู้มีเกียรติ และคณะสื่อมวลชน เข้าเฝ้ารับเสด็จ
ในโอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะกล่าวถวายการต้อนรับ และสมเด็จพระสันตะปาปาฯจะประทานสุนทรพจน์ ก่อนที่สมเด็จพระสันตะปาปาฯจะเสด็จออกจากทำเนียบรัฐบาล ไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในเวลา 09.50 น.
นายวิษณุ ธัญญอนันต์ รองเลขาธิการสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงเย็นของวันนี้ (21 พ.ย.) สมเด็จพระสันตปาปา จะเสด็จเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน และเสด็จประกอบพิธีมิสซาร่วมกับคริสตชนคาทอลิก ที่สนามศุภชลาศัย ซึ่งคาดมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 70,000 คน
