ผู้จัดการรายวัน 360 - "ทนายอนันต์ชัย" นำ ”อาม่าฮวย” อายุ 76 ปี ไปยังศาลแพ่งพระโขนง ฟ้องธนาคารชื่อดัง พร้อมพนักงาน 4 คน หลังถูกลูกสาวแท้ๆ ลักเงินไปกว่า 250 ล้าน ขณะที่นอนป่วยนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล พร้อมเรียกเงินที่ถูกลักไปพร้อมดอกเบี้ยจำนวนกว่า 350 ล้านบาท ด้านแบงก์กสิกรไทย แจงไม่มีเจตนาทุจริต ดำเนินการตามความต้องการของลูกค้าผ่านญาติสนิท
วานนี้ (19 พ.ย.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมนางฮวย ศรีวิรัตน์ อายุ 76 ปี หรือ อาม่าฮวย เดินทางมาที่ศาลแพ่งพระโขนง เพื่อยื่นฟ้องแพ่ง ต่อ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด และ พนักงานธนาคารและลูกสาวในไส้ของอาม่าฮวย ที่ได้ร่วมกันยักยอกเงินที่ถูกขโมยไปจากธนาคารพร้อมดอกเบี้ยรวมจำนวนกว่า 350 ล้านบาท
โดยพฤติกรรมของลูกสาวอาม่า เกิดขึ้นระหว่างอาม่านอนป่วยด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ต้องเจาะคอ มือเท้าอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตนเอง ที่โรงพยาบาล และเมื่อออกจากโรงพยาบาลเดินทางกลับบ้าน ถูกปล่อยปละละเลย จนได้รับกายภาพบำบัดไม่ดี เป็นเหตุให้อาม่า เริ่มตรวจสอบหาเงินในธนาคาร ที่ฝากไว้กับธนาคารกสิกร 2 บัญชี และทรัพย์สินอื่นๆ ภายในตู้เซฟที่เก็บหอมรอมริบมากว่า 30 ปี ที่ประกอบธุรกิจเครื่องทำความเย็น ที่มีอยู่กว่า 250 ล้านบาท แต่กลับไม่มีเหลือแล้ว และเมื่อติดตามถามลูกสาว และเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกร กลับถูกเพิกเฉยไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ จึงต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมเพื่อนำเงินกลับคืน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา นายอนันต์ชัย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงพฤติกรรมของลูกสาวอาม่าฮวยว่า ได้ร่วมกับพนักงานธนาคารชื่อดัง จำนวน 4 คน เปลี่ยนเงื่อนไขการเบิกถอนเงินเดิมในบัญชีออมทรัพย์ จากลงลายมือชื่อเป็นพิมพ์ลายนิ้วมือ และปลอมหนังสือมอบอำนาจ เบิกถอนเงิน และสั่งจ่ายเช็คแทนในบัญชีกระแสรายวัน ถอนเงินออกจากบัญชี อีกทั้งลักเอาเงินออกจากกองทุนเปิดฯ ของอาม่าฮวยกว่า 250 ล้านบาท ไปจนหมดเกลี้ยง
ด้านธนาคารกสิกรไทย ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อปี 2557 พนักงานดำเนินการไปตามความประสงค์ลูกค้าผ่านทางญาติสนิท โดยไม่มีเจตนาทุจริต โดยธนาคารพร้อมให้ข้อเท็จจริงและนำเสนอพยานหลักฐานต่อศาล และยินดีปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลยุติธรรม
วานนี้ (19 พ.ย.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมนางฮวย ศรีวิรัตน์ อายุ 76 ปี หรือ อาม่าฮวย เดินทางมาที่ศาลแพ่งพระโขนง เพื่อยื่นฟ้องแพ่ง ต่อ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด และ พนักงานธนาคารและลูกสาวในไส้ของอาม่าฮวย ที่ได้ร่วมกันยักยอกเงินที่ถูกขโมยไปจากธนาคารพร้อมดอกเบี้ยรวมจำนวนกว่า 350 ล้านบาท
โดยพฤติกรรมของลูกสาวอาม่า เกิดขึ้นระหว่างอาม่านอนป่วยด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ต้องเจาะคอ มือเท้าอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตนเอง ที่โรงพยาบาล และเมื่อออกจากโรงพยาบาลเดินทางกลับบ้าน ถูกปล่อยปละละเลย จนได้รับกายภาพบำบัดไม่ดี เป็นเหตุให้อาม่า เริ่มตรวจสอบหาเงินในธนาคาร ที่ฝากไว้กับธนาคารกสิกร 2 บัญชี และทรัพย์สินอื่นๆ ภายในตู้เซฟที่เก็บหอมรอมริบมากว่า 30 ปี ที่ประกอบธุรกิจเครื่องทำความเย็น ที่มีอยู่กว่า 250 ล้านบาท แต่กลับไม่มีเหลือแล้ว และเมื่อติดตามถามลูกสาว และเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกร กลับถูกเพิกเฉยไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ จึงต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมเพื่อนำเงินกลับคืน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา นายอนันต์ชัย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงพฤติกรรมของลูกสาวอาม่าฮวยว่า ได้ร่วมกับพนักงานธนาคารชื่อดัง จำนวน 4 คน เปลี่ยนเงื่อนไขการเบิกถอนเงินเดิมในบัญชีออมทรัพย์ จากลงลายมือชื่อเป็นพิมพ์ลายนิ้วมือ และปลอมหนังสือมอบอำนาจ เบิกถอนเงิน และสั่งจ่ายเช็คแทนในบัญชีกระแสรายวัน ถอนเงินออกจากบัญชี อีกทั้งลักเอาเงินออกจากกองทุนเปิดฯ ของอาม่าฮวยกว่า 250 ล้านบาท ไปจนหมดเกลี้ยง
ด้านธนาคารกสิกรไทย ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อปี 2557 พนักงานดำเนินการไปตามความประสงค์ลูกค้าผ่านทางญาติสนิท โดยไม่มีเจตนาทุจริต โดยธนาคารพร้อมให้ข้อเท็จจริงและนำเสนอพยานหลักฐานต่อศาล และยินดีปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลยุติธรรม
