"นิด้าโพล" เผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง "ถึงเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแล้วหรือยัง" สำรวจระหว่างวันที่ 6-7 พ.ย.62 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวม1,271 คน เกี่ยวกับฝ่ายค้านที่วางแผนจะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และผลลัพธ์หากมีการอภิปรายฯ
ทั้งนี้ ความคิดเห็นต่อกรณีฝ่ายค้านจะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งคณะ ในเดือนธ.ค.นี้ พบว่า ร้อยละ 51.61 ระบุว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะการบริหารที่ผ่านมายังไม่ดีขึ้น ควรจะได้รับการตรวจสอบ การทำงาน จะได้รับรู้ถึงปัญหาต่างๆ ที่รัฐบาลได้ทำ , ร้อยละ 20.22 ระบุ ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของรัฐบาล ยังไม่สามารถทำได้ดี จึงควรมีการตรวจสอบ ขณะที่บางส่วนระบุว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะทำการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอยู่แล้ว ร้อยละ 9.44 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะ รัฐบาลเพิ่งเริ่มทำงาน ควรเปิดโอกาสให้ทำงานสร้างผลงานก่อน อย่างน้อยควรจะให้เวลาสัก 2 ปี , ร้อยละ 18.02 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะการทำงานของรัฐบาลภาพรวมยังดีอยู่ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลยังน้อยอยู่ เร็วเกินไปที่ฝ่ายค้านจะทำการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีที่ฝ่ายค้านจะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นรายบุคคล พบว่า ร้อยละ 49.41 ระบุว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะรัฐมนตรีบางท่านเข้ามาทำงานไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ไม่โปร่งใส สมควรที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่บางส่วนระบุว่า อยากให้ปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีชุดใหม่ , ร้อยละ 25.26 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะรัฐมนตรีบางท่าน ยังไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง การบริหารงานยังไม่มีผลงาน สมควรที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร้อยละ 8.81 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะรัฐมนตรีแต่ละท่าน เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งควรเปิดโอกาสให้ทำงานสร้างผลงานก่อน ขณะที่บางส่วนระบุว่า ฝ่ายค้านคอยจะโจมตีคณะรัฐมนตรีอยู่แล้ว , ร้อยละ 14.32 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะระยะเวลาการทำงานยังน้อยไป อยากให้ทำงานเต็มที่ไปก่อน
ส่วนผลลัพธ์ของกรณีหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะ ในเดือนธ.ค.นี้ พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 36.59 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถอยู่บริหารประเทศต่อไปได้ รองลงมา ร้อยละ 23.45 ระบุว่า ฝ่ายรัฐบาลจะชนะโหวต ร้อยละ 20.69 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออก หรือยุบสภา เลือกตั้งใหม่ , ร้อยละ 10.07 ระบุว่า หลังการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จำเป็นต้องปรับครม. , ร้อยละ 8.10 ระบุว่า ฝ่ายค้านจะชนะโหวต , ร้อยละ 1.97 ระบุว่า ส.ส. ฝ่ายค้านบางส่วน จะกลายเป็นงูเห่า ด้วยการออกเสียงไว้วางใจรัฐบาล หรืองดออกเสียง , ร้อยละ 1.02 ระบุว่า หลังการอภิปราย ฝ่ายค้านจะถูกมองว่าไม่มีความสามารถในการตรวจสอบรัฐบาล และร้อยละ 12.98 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงผลลัพธ์ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรายบุคคล พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 24.31 ระบุว่า รัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายอยู่ในตำแหน่งต่อไป รองลงมา ร้อยละ 20.46 ระบุว่า ฝ่ายรัฐบาลจะชนะโหวต ร้อยละ 17.78 ระบุว่า หลังการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จำเป็นต้องปรับครม. , ร้อยละ 15.03 ระบุว่า รัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายลาออก , ร้อยละ 13.45 ระบุว่า ฝ่ายค้านจะชนะโหวต , ร้อยละ 1.73 ระบุว่า ส.ส. ฝ่ายค้านบางส่วนจะกลายเป็นงูเห่า ด้วยการออกเสียงไว้วางใจรัฐมนตรี หรืองดออกเสียง และร้อยละ 16.05 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ทั้งนี้ ความคิดเห็นต่อกรณีฝ่ายค้านจะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งคณะ ในเดือนธ.ค.นี้ พบว่า ร้อยละ 51.61 ระบุว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะการบริหารที่ผ่านมายังไม่ดีขึ้น ควรจะได้รับการตรวจสอบ การทำงาน จะได้รับรู้ถึงปัญหาต่างๆ ที่รัฐบาลได้ทำ , ร้อยละ 20.22 ระบุ ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของรัฐบาล ยังไม่สามารถทำได้ดี จึงควรมีการตรวจสอบ ขณะที่บางส่วนระบุว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะทำการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอยู่แล้ว ร้อยละ 9.44 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะ รัฐบาลเพิ่งเริ่มทำงาน ควรเปิดโอกาสให้ทำงานสร้างผลงานก่อน อย่างน้อยควรจะให้เวลาสัก 2 ปี , ร้อยละ 18.02 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะการทำงานของรัฐบาลภาพรวมยังดีอยู่ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลยังน้อยอยู่ เร็วเกินไปที่ฝ่ายค้านจะทำการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีที่ฝ่ายค้านจะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นรายบุคคล พบว่า ร้อยละ 49.41 ระบุว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะรัฐมนตรีบางท่านเข้ามาทำงานไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ไม่โปร่งใส สมควรที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่บางส่วนระบุว่า อยากให้ปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีชุดใหม่ , ร้อยละ 25.26 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะรัฐมนตรีบางท่าน ยังไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง การบริหารงานยังไม่มีผลงาน สมควรที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร้อยละ 8.81 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะรัฐมนตรีแต่ละท่าน เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งควรเปิดโอกาสให้ทำงานสร้างผลงานก่อน ขณะที่บางส่วนระบุว่า ฝ่ายค้านคอยจะโจมตีคณะรัฐมนตรีอยู่แล้ว , ร้อยละ 14.32 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะระยะเวลาการทำงานยังน้อยไป อยากให้ทำงานเต็มที่ไปก่อน
ส่วนผลลัพธ์ของกรณีหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะ ในเดือนธ.ค.นี้ พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 36.59 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถอยู่บริหารประเทศต่อไปได้ รองลงมา ร้อยละ 23.45 ระบุว่า ฝ่ายรัฐบาลจะชนะโหวต ร้อยละ 20.69 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออก หรือยุบสภา เลือกตั้งใหม่ , ร้อยละ 10.07 ระบุว่า หลังการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จำเป็นต้องปรับครม. , ร้อยละ 8.10 ระบุว่า ฝ่ายค้านจะชนะโหวต , ร้อยละ 1.97 ระบุว่า ส.ส. ฝ่ายค้านบางส่วน จะกลายเป็นงูเห่า ด้วยการออกเสียงไว้วางใจรัฐบาล หรืองดออกเสียง , ร้อยละ 1.02 ระบุว่า หลังการอภิปราย ฝ่ายค้านจะถูกมองว่าไม่มีความสามารถในการตรวจสอบรัฐบาล และร้อยละ 12.98 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงผลลัพธ์ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรายบุคคล พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 24.31 ระบุว่า รัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายอยู่ในตำแหน่งต่อไป รองลงมา ร้อยละ 20.46 ระบุว่า ฝ่ายรัฐบาลจะชนะโหวต ร้อยละ 17.78 ระบุว่า หลังการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จำเป็นต้องปรับครม. , ร้อยละ 15.03 ระบุว่า รัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายลาออก , ร้อยละ 13.45 ระบุว่า ฝ่ายค้านจะชนะโหวต , ร้อยละ 1.73 ระบุว่า ส.ส. ฝ่ายค้านบางส่วนจะกลายเป็นงูเห่า ด้วยการออกเสียงไว้วางใจรัฐมนตรี หรืองดออกเสียง และร้อยละ 16.05 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
