ผู้จัดการรายวัน 360 - ผู้เสียหายจากแชร์แม่มณี แห่แจ้งความที่สภ.อุดรธานี ยอดเสียหายทะลุ 80 ล้านบาทแล้ว ขณะที่อีกกว่า 200 รายบุกร้องดีเอสไอ จี้ให้รับเป็นคดีพิเศษ ด้านดีเอสไอแนะให้เข้าพบพนักงานสอบสวน หากหนีจะตามล่าจนครบอายุความ ติดตามยึดทรัพย์ไม่หยุด รมว.ยุติธรรม "สมศักดิ์" ลั่นไม่อยากเห็นประเทศล้มละลายจากแชร์ลูกโซ่ เตรียมงัดมาตรการภาษี-กม.ฟอกเงิน ยึดทรัพย์ จัดการท้าวแชร์เด็ดขาด
จากกรณีที่มีผู้เสียหายเล่นแชร์เงินออมกับ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช อายุ 30 ปี หรือ "แม่มณี" หรือ "เดียร์" โดยแม่มณีหลอกให้เล่นแชร์ จูงใจด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 93% ในระยะเวลาแค่ 1เดือน จนมีผู้สนใจแห่มาเล่นแชร์กับแม่มณี เพื่อหวังผลตอบแทนในอัตราสูง จนทำให้มีผู้ได้รับความ เสียหายจำนวนมากนั้น
วานนี้ (28 ต.ค.) ที่สภ.เมืองอุดรธานี กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันจะเดินทางเข้ามาแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ขณะที่ พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้ตั้งทีมชุดพนักงานสอบสวนเพื่อรับแจ้งความในเรื่องแชร์แม่มณีไม่ต่ำกว่า 10 นาย และทาง พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี จะเดินทางมาอำนวยความสะดวกในการแจ้งความให้กับผู้เสียหายด้วยตนเอง โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่ยังเป็นนักศึกษา และทำให้ 2 วัน มียอดผู้แจ้งความร่วมกว่า 120 รายแล้วและคาดว่าจะทยอยมาเรื่อยๆ
พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งข้อมูลความเสียหาย 2 วัน รวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ซึ่งได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันให้กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับคำร้องทุกข์ของประชาชนไว้แล้ว และทางตำรวจจะดำเนินการสืบสวนติดตามคนร้ายต่อไป
จากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายได้เปิดไว้ 2 บัญชี คือ ชื่อบัญชีนายเมธี ชินภา และนางสาววันทนีย์ ทิพย์ประเวช ซึ่งทั้งสองมีความสัมพันธ์เป็นแฟนกัน ส่วนเงินในบัญชีนั้นเราจะสอบสวนต่อไป
ขณะเดียวกันที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้เสียหายอีกกว่า 200 คน ได้เดินทางมายังดีเอสไอ สวมหน้ากากและแว่นตาปิดบังใบหน้า เข้าร้องทุกข์กับ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เพื่อเอาผิดกับ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช ซึ่งนายปิยะศิริ จะได้นำเสนอให้ พ.ต .อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติการสืบสวน และลงพื้นที่สอบปากคำพยานต่อไป
"เบื้องต้นจะบันทึกปากคำผู้เสียหาย ก่อนจะเร่งรัดการสืบสวนและประสานข้อมูลกับตำรวจปอท. สำหรับกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิด ขอให้แสดงความบริสุทธิ์ใจ และเข้าพบพนักงานสอบสวน เพราะขณะนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก และกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในสภาวะยากลำบากจากการถูกหลอก"
นายปิยะศิระ กล่าว
“ถ้าท่านไม่มาพบพนักงานสอบสวน ผมจะตามล่าจนกว่าอายุความจะหมด และจะตามยึดทรัพย์ไม่หยุดถ้าหลบหนีไปต่างประเทศก็จะออก หมายจับ แต่เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย ส่วนทรัพย์สินที่ได้ไปจากการฉ้อโกงก็เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทยเช่นกัน”นายปิยะศิริ กล่าว
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึง กรณีมีผู้เสียหายจากการร่วมลงทุน "แชร์แม่มณี" มาร้องขอความเป็น ธรรมและขอความช่วยเหลือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า การดูแลผู้เสียหายก็จะเป็นไปตามหลักการของหน่วยงานที่ดำเนินการตามกฎหมายนั้นๆ แต่เนื่องจากเห็นว่าแชร์ลูกโซ่ เป็นปัญหารุนแรง มีตัวอย่างในหลายประเทศต้องล้มละลายเพราะแชร์ลูกโซ่ จึงไม่อยากให้ประเทศไทยต้องล้มเพราะเหตุแชร์ ลูกโซ่ด้วย
ที่ผ่านมาได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะใช้กฎหมายฟอกเงิน และมาตรการทางภาษีมา ดำเนินการกับท้าวแชร์ อย่างเด็ดขาด เมื่อมีการยึดทรัพย์ท้าวแชร์จะไม่มีการคืนทรัพย์ในทุกกรณี และต้องใช้มาตรการทางภาษีมาดำเนินการเพื่อให้ท้าวแชร์ ต้อง รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ต่างจากในอดีตที่หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นทรัพย์ได้มาก่อนทำแชร์ลูกโซ่ หรือไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เจ้า หน้าที่จะต้องคืนทรัพย์สินให้ท้าวแชร์ ทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง
"เมื่อตั้งใจว่าต้องดำเนินการให้เรียบร้อย โดยเป็นการแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบก็ต้องยึดทรัพย์ และใช้มาตรการทางภาษีต่างๆ มาดำเนินการให้ ท้าวแชร์ต้องแสดงความรับผิดชอบกับลูกหนี้ ถ้ายึดมาแล้วต้องคืนให้ก็เป็นการเสียเวลาเปล่า เสียเวลาราชการ เสียงบประมาณแผ่นดิน ต้องเอาให้เด็ดขาด ทำ แล้วต้องไม่เหนื่อยเปล่าและต้องเห็นผล" นายสมศักดิ์ กล่าว
จากกรณีที่มีผู้เสียหายเล่นแชร์เงินออมกับ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช อายุ 30 ปี หรือ "แม่มณี" หรือ "เดียร์" โดยแม่มณีหลอกให้เล่นแชร์ จูงใจด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 93% ในระยะเวลาแค่ 1เดือน จนมีผู้สนใจแห่มาเล่นแชร์กับแม่มณี เพื่อหวังผลตอบแทนในอัตราสูง จนทำให้มีผู้ได้รับความ เสียหายจำนวนมากนั้น
วานนี้ (28 ต.ค.) ที่สภ.เมืองอุดรธานี กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันจะเดินทางเข้ามาแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ขณะที่ พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้ตั้งทีมชุดพนักงานสอบสวนเพื่อรับแจ้งความในเรื่องแชร์แม่มณีไม่ต่ำกว่า 10 นาย และทาง พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี จะเดินทางมาอำนวยความสะดวกในการแจ้งความให้กับผู้เสียหายด้วยตนเอง โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่ยังเป็นนักศึกษา และทำให้ 2 วัน มียอดผู้แจ้งความร่วมกว่า 120 รายแล้วและคาดว่าจะทยอยมาเรื่อยๆ
พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งข้อมูลความเสียหาย 2 วัน รวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท ซึ่งได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันให้กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับคำร้องทุกข์ของประชาชนไว้แล้ว และทางตำรวจจะดำเนินการสืบสวนติดตามคนร้ายต่อไป
จากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายได้เปิดไว้ 2 บัญชี คือ ชื่อบัญชีนายเมธี ชินภา และนางสาววันทนีย์ ทิพย์ประเวช ซึ่งทั้งสองมีความสัมพันธ์เป็นแฟนกัน ส่วนเงินในบัญชีนั้นเราจะสอบสวนต่อไป
ขณะเดียวกันที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้เสียหายอีกกว่า 200 คน ได้เดินทางมายังดีเอสไอ สวมหน้ากากและแว่นตาปิดบังใบหน้า เข้าร้องทุกข์กับ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เพื่อเอาผิดกับ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช ซึ่งนายปิยะศิริ จะได้นำเสนอให้ พ.ต .อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติการสืบสวน และลงพื้นที่สอบปากคำพยานต่อไป
"เบื้องต้นจะบันทึกปากคำผู้เสียหาย ก่อนจะเร่งรัดการสืบสวนและประสานข้อมูลกับตำรวจปอท. สำหรับกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิด ขอให้แสดงความบริสุทธิ์ใจ และเข้าพบพนักงานสอบสวน เพราะขณะนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก และกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในสภาวะยากลำบากจากการถูกหลอก"
นายปิยะศิระ กล่าว
“ถ้าท่านไม่มาพบพนักงานสอบสวน ผมจะตามล่าจนกว่าอายุความจะหมด และจะตามยึดทรัพย์ไม่หยุดถ้าหลบหนีไปต่างประเทศก็จะออก หมายจับ แต่เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย ส่วนทรัพย์สินที่ได้ไปจากการฉ้อโกงก็เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทยเช่นกัน”นายปิยะศิริ กล่าว
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึง กรณีมีผู้เสียหายจากการร่วมลงทุน "แชร์แม่มณี" มาร้องขอความเป็น ธรรมและขอความช่วยเหลือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า การดูแลผู้เสียหายก็จะเป็นไปตามหลักการของหน่วยงานที่ดำเนินการตามกฎหมายนั้นๆ แต่เนื่องจากเห็นว่าแชร์ลูกโซ่ เป็นปัญหารุนแรง มีตัวอย่างในหลายประเทศต้องล้มละลายเพราะแชร์ลูกโซ่ จึงไม่อยากให้ประเทศไทยต้องล้มเพราะเหตุแชร์ ลูกโซ่ด้วย
ที่ผ่านมาได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะใช้กฎหมายฟอกเงิน และมาตรการทางภาษีมา ดำเนินการกับท้าวแชร์ อย่างเด็ดขาด เมื่อมีการยึดทรัพย์ท้าวแชร์จะไม่มีการคืนทรัพย์ในทุกกรณี และต้องใช้มาตรการทางภาษีมาดำเนินการเพื่อให้ท้าวแชร์ ต้อง รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ต่างจากในอดีตที่หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นทรัพย์ได้มาก่อนทำแชร์ลูกโซ่ หรือไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เจ้า หน้าที่จะต้องคืนทรัพย์สินให้ท้าวแชร์ ทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง
"เมื่อตั้งใจว่าต้องดำเนินการให้เรียบร้อย โดยเป็นการแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบก็ต้องยึดทรัพย์ และใช้มาตรการทางภาษีต่างๆ มาดำเนินการให้ ท้าวแชร์ต้องแสดงความรับผิดชอบกับลูกหนี้ ถ้ายึดมาแล้วต้องคืนให้ก็เป็นการเสียเวลาเปล่า เสียเวลาราชการ เสียงบประมาณแผ่นดิน ต้องเอาให้เด็ดขาด ทำ แล้วต้องไม่เหนื่อยเปล่าและต้องเห็นผล" นายสมศักดิ์ กล่าว
