วานนี้ (28ต.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาได้นัดแจ้งผลคำสั่ง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)ว่า จะมีความเห็นแย้ง ในคดีที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ , นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนสมาชิกพรรค และน.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค ที่พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาทั้งสาม ฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 จากกรณีผู้ต้องหาร่วมกันจัดรายการ คืนวันศุกร์ให้ประชาชน ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ในเพจ อนาคตใหม่ The Future We Want และ เพจ Thanathorn Juangroonjruangkit วิจารณ์กระแสข่าว กรณีพลังดูด คสช.
วันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ได้นัด นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ พร้อมสำนวนสอบสวน และความความเห็นสมควรสั่งฟ้อง มาส่งให้พนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาสั่งคดี ฐานดูหมิ่นศาล จากกรณี นายปิยบุตร เคยอ่านคำแถลงการณ์ วิจารณ์ศาลรธน. ที่มีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ
โดยนายธนาธร เดินทางมาพร้อมกับนายปิยบุตร และ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ภายหลังจากเข้าพบพนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ตร. ยังไม่ส่งความเห็น ผบ.ตร. กลับมาที่อัยการว่า จะมีความเห็นแย้ง หรือเห็นด้วย กับคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ถ้ามีความเห็นแย้ง ก็จะต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด เป็นผู้พิจารณาชี้ขาด แต่ถ้าเห็นด้วย คดีของนายธนาธร จะสิ้นสุด ที่สั่งไม่ฟ้อง โดยพนักงานอัยการได้เลื่อนนัดแจ้งคำสั่งของ ตร. อีกครั้ง ในวันที่ 2 ธ.ค.62
สำหรับกรณี นายปิยบุตร วันนี้ทาง บก.ปอท. ได้นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ฐานดูหมิ่นศาลรธน. มาส่งให้อัยการสำนักงานคดีอาญาเพียงข้อหาเดียว แต่ไม่ได้ส่งข้อหาความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งทางอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ได้นัดฟังการสั่งคดีในวันที่ 28 พ.ย.
ด้านนายปิยบุตร กล่าวว่า ประเด็นที่ตนถูกดำเนินคดี เรื่องวิจารณ์ศาลรธน. ตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 198 ซึ่งมองว่า มาตรา 198 ที่ว่าด้วยเรื่องการดูหมิ่นศาล เปิดโอกาสให้ใครก็ได้ เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่ง พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคสช. ก็ได้อาสาเป็นผู้ร้องทุกข์ในคดีนี้ ซึ่งตรงนี้แสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนของกฎหมาย เพราะต่อไปนี้ หากมีบุคคลใดวิจารณ์ศาล ก็จะสามารถถูกใครก็ไม่รู้ ที่ไม่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีได้ เรื่องคดีที่ตนและนายธนาธรโดนในวันนี้ รวมถึงอีก 26 คดี ที่พรรคอนาคตใหม่โดน ภายหลังจากการตั้งพรรคการเมืองมาได้เพียง 1 ปีเศษ ประชาชนคนทั่วไปสามารถวิเคราะห์กันได้ว่า ทำไมถึงได้โดนคดีมากมาย ทั้งที่เรายังไม่เคยได้บริหารแผ่นดิน หรือได้รับอำนาจอะไรเลย แค่เป็นส.ส. แต่คดีกลับเต็มไปหมด
ทั้งนี้ อยากถามว่า ทุกคนรู้สึกว่าพวกเราได้ทำผิดกฎหมาย และต้องถูกยุบพรรค จริงหรือไม่ หรือว่าเพราะเราไปทำให้กลุ่มบุคคลที่ครองอำนาจอยู่ในขณะนี้ ไม่สบายใจ พวกเราถึงต้องโดน ถ้าเชื่ออย่างหลังว่าเราจะต้องโดน เพราะไปขัดผู้มีอำนาจแบบนี้ จึงถือว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะถ้าไปเปิดกฎหมายอย่างละเอียด จะเห็นได้ว่าสิ่งที่แกนนำพรรคโดน หรือที่ นายธนาธรโดนคดีในวันนี้ เรื่องมันควรจบตั้งนานแล้ว จากที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่วันนี้ตำรวจ ยังไม่ให้คำตอบมาก็ต้องยื้อ ต้องเสียเวลากันต่อไป
ภาพรวมทั้งหมดเราเรียกกันว่า การดำเนินคดีเพื่อกลั่นแกล้ง หรือปิดปาก อย่างเรื่องการแจ้งข้อหาของ บก.ปอท. ที่ตนได้อ่านสำนวนก็พบว่าเป็นเพียงข้อกล่าวหาที่เบาหวิว สิ่งที่ พล.ต.บุรินทร์ เอามาแจ้งความตนก็เป็นการถอดเทปแบบผิดๆ ถูกๆ ไม่ตรงกับที่ตนได้พูด สามารถไปเปิดคลิปดูได้ ตนเองเป็นอาจารย์สอนกฎหมาย เคยวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญมาตลอด ไม่เคยโดนคดีสักครั้งเดียว แต่พอเป็นนักการเมืองกลับโดนคดี
วันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ได้นัด นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ พร้อมสำนวนสอบสวน และความความเห็นสมควรสั่งฟ้อง มาส่งให้พนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาสั่งคดี ฐานดูหมิ่นศาล จากกรณี นายปิยบุตร เคยอ่านคำแถลงการณ์ วิจารณ์ศาลรธน. ที่มีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ
โดยนายธนาธร เดินทางมาพร้อมกับนายปิยบุตร และ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ภายหลังจากเข้าพบพนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ตร. ยังไม่ส่งความเห็น ผบ.ตร. กลับมาที่อัยการว่า จะมีความเห็นแย้ง หรือเห็นด้วย กับคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ถ้ามีความเห็นแย้ง ก็จะต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด เป็นผู้พิจารณาชี้ขาด แต่ถ้าเห็นด้วย คดีของนายธนาธร จะสิ้นสุด ที่สั่งไม่ฟ้อง โดยพนักงานอัยการได้เลื่อนนัดแจ้งคำสั่งของ ตร. อีกครั้ง ในวันที่ 2 ธ.ค.62
สำหรับกรณี นายปิยบุตร วันนี้ทาง บก.ปอท. ได้นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ฐานดูหมิ่นศาลรธน. มาส่งให้อัยการสำนักงานคดีอาญาเพียงข้อหาเดียว แต่ไม่ได้ส่งข้อหาความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งทางอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ได้นัดฟังการสั่งคดีในวันที่ 28 พ.ย.
ด้านนายปิยบุตร กล่าวว่า ประเด็นที่ตนถูกดำเนินคดี เรื่องวิจารณ์ศาลรธน. ตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 198 ซึ่งมองว่า มาตรา 198 ที่ว่าด้วยเรื่องการดูหมิ่นศาล เปิดโอกาสให้ใครก็ได้ เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่ง พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคสช. ก็ได้อาสาเป็นผู้ร้องทุกข์ในคดีนี้ ซึ่งตรงนี้แสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนของกฎหมาย เพราะต่อไปนี้ หากมีบุคคลใดวิจารณ์ศาล ก็จะสามารถถูกใครก็ไม่รู้ ที่ไม่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีได้ เรื่องคดีที่ตนและนายธนาธรโดนในวันนี้ รวมถึงอีก 26 คดี ที่พรรคอนาคตใหม่โดน ภายหลังจากการตั้งพรรคการเมืองมาได้เพียง 1 ปีเศษ ประชาชนคนทั่วไปสามารถวิเคราะห์กันได้ว่า ทำไมถึงได้โดนคดีมากมาย ทั้งที่เรายังไม่เคยได้บริหารแผ่นดิน หรือได้รับอำนาจอะไรเลย แค่เป็นส.ส. แต่คดีกลับเต็มไปหมด
ทั้งนี้ อยากถามว่า ทุกคนรู้สึกว่าพวกเราได้ทำผิดกฎหมาย และต้องถูกยุบพรรค จริงหรือไม่ หรือว่าเพราะเราไปทำให้กลุ่มบุคคลที่ครองอำนาจอยู่ในขณะนี้ ไม่สบายใจ พวกเราถึงต้องโดน ถ้าเชื่ออย่างหลังว่าเราจะต้องโดน เพราะไปขัดผู้มีอำนาจแบบนี้ จึงถือว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะถ้าไปเปิดกฎหมายอย่างละเอียด จะเห็นได้ว่าสิ่งที่แกนนำพรรคโดน หรือที่ นายธนาธรโดนคดีในวันนี้ เรื่องมันควรจบตั้งนานแล้ว จากที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่วันนี้ตำรวจ ยังไม่ให้คำตอบมาก็ต้องยื้อ ต้องเสียเวลากันต่อไป
ภาพรวมทั้งหมดเราเรียกกันว่า การดำเนินคดีเพื่อกลั่นแกล้ง หรือปิดปาก อย่างเรื่องการแจ้งข้อหาของ บก.ปอท. ที่ตนได้อ่านสำนวนก็พบว่าเป็นเพียงข้อกล่าวหาที่เบาหวิว สิ่งที่ พล.ต.บุรินทร์ เอามาแจ้งความตนก็เป็นการถอดเทปแบบผิดๆ ถูกๆ ไม่ตรงกับที่ตนได้พูด สามารถไปเปิดคลิปดูได้ ตนเองเป็นอาจารย์สอนกฎหมาย เคยวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญมาตลอด ไม่เคยโดนคดีสักครั้งเดียว แต่พอเป็นนักการเมืองกลับโดนคดี