xs
xsm
sm
md
lg

ช่วยชีวิตเด็กไทยที่ถูกแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกตกลงไปในหม้อแกงได้มากขึ้นด้วยแอปพลิเคชันสามมิติ

เผยแพร่:   โดย: นพ.ธนะสิทธิ์ ก้างกอน และ ผศ.ดร.ธนาสัย สุคนธ์พันธุ์


นพ.ธนะสิทธิ์ ก้างกอน
หน่วยศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้าง กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลชลบุรี
และ
ผศ.ดร.ธนาสัย สุคนธ์พันธุ์
หลักสูตร PhD. และ MSc. (Business Analytics and Data Science)
สาขา Data Visualization and Multimedia Technology (DVMT)
https://businessanalyticsnida.wordpress.com
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)


ไม่รู้ว่าคนสมัยนี้จะยังจำเหตุการณ์รถบรรทุกแก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่กันได้หรือไม่ หรือรถแก๊สลงทางด่วนมาแล้วพลิกคว่ำ แก๊สไหลออกมาแล้วระเบิด มีคนตายกันมากมาย เด็กเล็ก ๆ ตกลงไปในหม้อแกงหรือหม้อก๋วยเตี๋ยวถูกลวกทั้งตัว ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ และส่วนใหญ่ก็ตาย

สาเหตุการตายที่เราพูดกันคือทนพิษบาดแผลไม่ไหว ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่ สาเหตุหลักประการหนึ่งในการเสียชีวิตของผู้ป่วยแผลไฟไหม้ (และน้ำร้อนลวก) คือการที่ผิวหนังเสียสภาพและเมื่อเป็นแผลก็ทำให้เกิดการสูญเสียน้ำ สมัยก่อนผู้ป่วยจำนวนมากเสียมากจน shock เกิด dehydration และเสียชีวิต การมีแผลทำให้เกิดการติดเชื้อและอาจจะนำไปสู่การติดเชื้อในกระแสโลหิตจนเสียชีวิตไปด้วยเช่นกัน

คนไข้แผลไฟไหม้ต้องได้รับสารน้ำเช่นน้ำเกลือ (Normal Saline Solution) เพื่อไม่ให้เกิดการช็อคและสูญเสียชีวิตจากการขาดน้ำ ว่าง่าย ๆ ก็ต้องแทงเข็มน้ำเกลือกันนี่แหละ แผลที่ผิวหนังที่เปิดจะเสียน้ำและมีน้ำเหลืองซึมออกมามาก ขึ้นอยู่กับพื้นที่ผิวของแผลและความลึกของแผลว่ามากแค่ไหน ยิ่งแผลกว้างและลึกยิ่งเสียน้ำมากยิ่งต้องให้น้ำเกลือมาก โดยปกติแพทย์หรือพยาบาลจะประมาณและกะเอาด้วยสายตาว่าแผลลึกเท่าไหร่ และมีพื้นที่ผิวมากแค่ไหน ก่อนจะกะประมาณปริมาณน้ำเกลือที่จะให้ ถ้าให้น้ำเกลือน้อยไปคนไข้ก็จะเสียชีวิตได้ง่ายเพราะขาดน้ำ แต่ถ้าให้น้ำเกลือมากเกินไป (กะด้วยสายตาไม่แม่นพอ) คนไข้ก็อาจจะบวมน้ำ แผลรอยไหม้ที่ผิวหนังก็อาจจะแฉะน้ำเหลืองมากเกินไป แผลแฉะมากเกินไปนำไปใส่การติดเชื้อทางผิวหนังได้ง่ายซึ่งอาจจะนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้ป่วยไฟไหม้ได้เช่นกัน ดังนั้นการกะประมาณพื้นที่และความลึกของแผลจึงมีความสำคัญมากในการช่วยชีวิตผู้ป่วยในหน่วยรักษาแผลไฟไหม้วิกฤติ (Burn unit)

ด้วยเทคโนโลยีการแสกนรูปสามมิติและตัวแบบสามมิติ ทำให้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขได้ง่ายขึ้นมาก เราได้พัฒนา application software สำหรับคำนวณพื้นที่ผิวและความลึกของแผลไฟไหม้และคำนวณปริมาณน้ำเกลือที่ควรให้ผู้ป่วยแผลไฟไหม้ ทำให้ช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ดีมากขึ้น น่าจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากแผลไฟไหม้ลงไปได้มาก เกิดจากการทำงานร่วมกันของหน่วยศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้าง กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลชลบุรี หลักสูตร PhD. และ MSc. (Business Analytics and Data Science) และ สาขา Data Visualization and Multimedia Technology (DVMT) และ หน่วยศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้าง ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช่ครับเรากำลังให้หมอมาทำงานกับ Data scientist และ Data Visualizer ครับ หลายคนอาจจะไม่รู้จัก Data Visualizer ลองอ่านบทความนี้ครับ นักวาดภาพนิทัศน์จากข้อมูล (Data Visualizer) : เมื่อวิทยาศาสตร์สมาสกับศิลปะเป็นงานอันรื่นรมย์และสร้างปัญญา และ Data Scientist ลองอ่านบทความนี้ครับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นนักวิทยาการข้อมูล (Data Scientist) หรือไม่?

แอปพลิเคชันสามมิติสำหรับคำนวนน้ำเกลือเพื่อผู้ป่วยแผลไฟไหม้ 3D PED Burn Resuscitation Application ที่พัฒนา โดย ทีมแพทย์และนักวิจัยไทย ได้รับการนำเสนอในงานประชุมวิชาการระดับโลกด้านแผลไฟไหม้ที่ชื่อว่า Asia Pacific Burn Congress ครั้งที่ 12 ณ Academia ประเทศ Singapore

แอปพลิเคชันนี้ เป็นการคำนวณน้ำเกลือสำหรับผู้ป่วยเด็ก โดยประเมินพื้นที่ผิวไฟไหม้ด้วยการระบายบน หุ่นจำลองสามมิติ ที่มีสัดส่วนรูปร่างตรงตาม อายุ น้ำหนัก ส่วนสูงของผู้ป่วย ทดแทนการวาดรูปบนแผ่นกระดาษ (Lund Browder Chart) แบบดั้งเดิมที่ใช้กันอยู่ และรายงานผลเป็นเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่แผลไฟไหม้

แอปพลิเคชันประเมินพื้นที่ผิวไฟไหม้ในเด็ก ด้วยหุ่นจำลองสามมิตินี้เป็นเพียง software application เดียวในโลกที่สามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้ฟรีทั่วโลกด้วยความหวังที่จะช่วยชีวิตผู้ป่วยเด็กแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้มากขึ้นไม่เฉพาะคนไทยแต่รวมถึงเด็กทั่วโลกที่จะเติบโตไปเป็นอนาคตของประเทศและของโลกของเราเช่นกัน

เชื่อหรือไม่ว่าในแต่ละปี ประเทศไทยมีผู้ป่วยที่มีแผลไฟไหม้รุนแรงจนต้องเข้ารักษาใน Burn Unit ปีละ 70-100 ราย โดยเฉลี่ย พบมากในภาคตะวันออกซึ่งมีโรงงานอุตสาหกรรมเยอะ ปัญหาที่พบโดยทั่วไปก็คือการประเมินพื้นที่ผิวที่ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้มีความผิดพลาดค่อนข้างมาก เช่น แผลไฟไหม้ประมาณ 40% แต่ผลการประเมินกลับมากถึง 60% เนื่องจากเครื่องมือที่ใช้ประเมินเป็นวิธีที่ใช้มาตั้งแต่ 70 ปีที่แล้ว

โดยแนวโน้มของความผิดพลาดเช่นนี้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแน่นอนว่าการประเมินผิดพลาดเช่นนี้ย่อมมีผลต่อการรักษาโดยตรง เนื่องจากแพทย์ต้องเอาปริมาณ พื้นที่ผิวที่ถูกแผลไฟไหม้ไปคำนวณการให้น้ำเกลือ การให้อาหาร และแนวทางการรักษา

หากประเมินผิดตั้งแต่ต้น การรักษาก็จะมีปัญหา ไม่ได้ผลและมีการเสียชีวิตสูง โดยเฉพาะในผู้ป่วยเด็กที่การประเมินพื้นที่ผิวแผลไฟไหม้จะทำได้ยากกว่ามาก เพราะเด็กในแต่ละช่วงอายุ จะมี สัดส่วนขนาดของร่างกายที่แตกต่างกันมาก แตกต่างจากผู้ใหญ่ที่สัดส่วนร่างกายค่อนข้างคงที่กว่า แม้ว่าแก่มาจะอ้วนขึ้นไปบ้างแต่สัดส่วนอวัยวะต่าง ๆ จะค่อนข้างคงที่ยกเว้นพุงและต้นขาที่สะสมไขมันไว้ เช่น เด็กเล็กมีขนาดศีรษะที่ใหญ่ แต่มีขนาดแขนขาที่สั้นเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ ทำให้การรักษาแก้ไขภาวะช็อกทำได้ยาก

เนื่องจากเด็กมีน้ำหนักตัวน้อย การประเมินพื้นที่ผิวไฟไหม้ด้วยรูปภาพแผ่นกระดาษที่คลาดเคลื่อนเพียง 5% อาจทำให้ผู้ป่วยเด็กได้รับสารน้ำทดแทนมากเกินหรือน้อยเกินจนเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้

ในส่วนของการประเมินผลนั้น ในการพัฒนาทีมแพทย์ได้ทำการเก็บข้อมูลและประเมินผล เพื่อให้ทีมพัฒนาแอปพลิเคชันนำข้อมูลไปใช้ในการออกแบบและพัฒนาระบบเพื่อให้การประเมินผลมีความแม่นยำมากขึ้น เมื่อการประเมินผลการรักษาผู้ป่วยมีความถูกต้องจะสามารถช่วยให้การออกแบบวิธีและขั้นตอนการรักษาผู้ป่วยมี ความถูกต้องตามไปด้วย

การใช้งานแอปพลิเคชันนี้ เริ่มต้นด้วยการใส่น้ำหนักส่วนสูงและข้อมูลคนไข้ลงไปในแบบฟอร์ม จากนั้น โปรแกรมจะคำนวณดัชนีมวลกายออกมาอย่างแม่นยำ

เมื่อทราบว่าดัชนีมวลกายอยู่ในช่วงใด โปรแกรมจะเลือกสัดส่วนรูปร่าง 3D Model ที่ใกล้เคียงออกมา เพื่อแสดงผลบนสมาร์ทโฟน

แพทย์จะสามารถใช้นิ้วระบาย (Paint) พื้นที่ผิวที่ได้รับความเสียหายจากการถูกไฟไหม้ โดยสามารถหมุนโมเดล 3 มิติ ได้แบบ 360 องศา จากนั้นโปรแกรมจะคำนวณปริมาณการให้น้ำเกลือ การให้อาหาร และแนวทางการรักษาแก่ผู้ป่วย

การพัฒนาแอปพลิเคชันนี้ มุ่งเน้นการพัฒนาการควบคุมการแสดงผลการทำงานผ่านระบบ Interactive Technology และการประมวลผลทางด้าน 3D Computer Graphic แบบ Realtime รวมถึงการออกแบบ User Interface ที่ง่ายในการใช้งาน

แอปพลิเคชันนี้เหมาะสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ทั่วไป เช่น หน่วยฉุกเฉิน พยาบาล แพทย์เชี่ยวชาญ ทั่วไปและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาแผลไฟไหม้ เนื่องจากได้รับการออกแบบให้ใช้งานด้วยโทรศัพท์มือถือที่มีติดตัวตลอดเวลา ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม ประเมินพื้นที่แผลไฟไหม้ได้รวดเร็วแม่นยำได้เทียบเท่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และสามารถคำนวณปริมาณการให้สารน้ำทดแทนเพื่อแก้ไขภาวะช็อกได้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมง มีประโยชน์สำหรับแพทย์ในโรงพยาบาลชุมชน หรือหน่วยฉุกเฉินในเหตุการณ์อุบัติภัยหมู่ เหตุการณ์รุนแรงทางการทหาร ที่สามารถให้การรักษาขั้นต้น ก่อนการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลศูนย์ของเครือข่ายได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ปลอดภัย

3D PED Burn Resuscitation Application นี้ เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลชลบุรี คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และ มูลนิธิสร้างรอยยิ้มแห่งประเทศไทย โดยทีมพัฒนาประกอบไปด้วย รศ.นพ. อภิชัย อังสพัทธ์ และ นพ. ปิยะมิตร สุมนศรีวรกุล หน่วยศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้าง ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นพ. ธนะสิทธิ์ ก้างกอน หน่วยศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้าง กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลชลบุรี

ส่วนทางฝั่งแอปพลิเคชันนั้น พัฒนาโดย นักศึกษาสาขา InterActive Media Science ซึ่งตอนนี้ได้พัฒนามาเป็นสาขา Data Visualization and Mutimedia Technology (DVMT) คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้แก่ นายเฉลิมยศ เที่ยงจรรยา (UI/UX Designer) และ นายจิระพัฒน์ เต็มเปี่ยม (Application Programmer) ซึ่งเป็นทีมงานจาก Lab ของ NIDA3D (nida3d.com) กลุ่มงานที่มุ่งเน้นการสร้างผลงานจากเทคโนโลยีสามมิติ เพื่อสาธารณะประโยชน์แก่สังคม

แอปพลิเคชันนี้ สามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี ผ่าน Google Play สำหรับระบบปฏิบัติการ Android: https://play.google.com/store/apps/details?id=com.NIDA3D.BURNResuscitation

ขอเชิญเพื่อนแพทย์ พี่น้องพยาบาล ไปดาวน์โหลดมาใช้งานเพื่อช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยเด็กแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกกันได้ดีมากขึ้นนะครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น