xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“2นางสิงห์”เพื่อไทย ชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ถึงคราวต้องปรับเปลี่ยน “หัว”ใหม่ ตามคิวที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนดให้ผู้นำฝ่ายค้านต้องมาจากส.ส. ทำให้พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คนปัจจุบันโดนบังคับให้ลุกจากที่นั่งตามกฎหมาย เพราะสอบตกหลังลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งพรรควืดหมด

พรรคเพื่อไทยโดนไฟต์บังคับ ไม่ให้สามารถใช้พวกโนเนมมานั่งเป็นหนังหน้าไฟ แต่ต้องใช้พวกส.ส.และมีบทบาทในพรรคมาเป็น“หัว”จริงๆ

ต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์กันใหม่ หลังใช้นอมินีแถวสอง แถวสาม นั่งเป็นหัวหน้าพรรคกันมาร่วม 10 ปี หลังเคยใช้ตัวจริง แต่ถูกเด็ดหัวไม่มีชิ้นดี เริ่มตั้งแต่ทักษิณ ชินวัตร มา สมัคร สุนทรเวช กระทั่งถึง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก่อนจะตั้งหลักเอาพวกโนเนมมานั่งกรรมการบริหารพรรค แล้วโยกคีย์แมน เป็นสมาชิกธรรมดา

ทำมาแบบนี้ตั้งแต่ปี 2551 หัวหน้าพรรคเพื่อไทยแต่ละคน แทบไม่มีบทบาทอะไร นอกจากงานธุรการ ไล่เรียงตั้งแต่ สุชาติ ธาดาธำรงเวช ยงยุทธ วิชัยดิษฐ จารุงศ์ เรืองสุวรรณ มาจนถึงพล.ต.ท.วิโรจน์ เรียกว่า อาวุโสได้ แต่ไม่มีบารมี พวกบรรดาส.ส.ไม่ได้ให้ความเกรงใจ หรือให้เกียรติในฐานะความเป็นผู้นำ

แต่หลังๆ มานี้ ตัวจริงเริ่มทยอยมาเป็นบ้าง โดยเฉพาะ“เสี่ยอ้วน”ภูมิธรรม เวชชยชัย ที่เข้ามารับบทแม่บ้านพรรค ทำหน้าที่ดูแลสมาชิก

ทว่า เที่ยวนี้เมื่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จำเป็นต้องเป็นส.ส.ในสภา เพื่อทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ก็ต้องเอาพวกที่พรรษาสูงขึ้นมาเป็น จะอีเหละเขะขะไม่ได้ เพราะต้องเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ในการสู้กับฝ่ายรัฐบาล ที่มี "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

อีกทั้งต้องมีบารมีพอสมควร เพราะต้องให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแนวร่วมฝ่ายค้าน ให้ความเคารพยำเกรง ในฐานะผู้นำ ไม่ใช่ใครก็ได้ส่งมาเป็นหนังหน้าไฟ ไม่ได้เปรียบในสภา

มันจึงเหลือแค่ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์”ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ที่อาวุโสสูงสุด หลังพวกขาเก๋าไปตกม้าตาย โดดหนีไปอยู่ปาร์ตี้ลิสต์กันหมด แต่สุดท้ายรถผ้าป่าคว่ำยกขบวน สอบตกไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อสักคน

ดูไปดูมา “สมพงษ์”ที่ชั่วโมงบินสูงก็เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง แต่บังเอิญว่าในช่วงเลือกตั้ง “นายใหญ่”ดันมอบอำนาจให้“เจ๊หน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่วังทองหลาง เข้ามาเป็นผู้นำ มีอำนาจจัดแจงเรื่องราวต่างๆ มันเลยทำให้ออเจ๊ ไม่อยากจะให้การนำหลุดลอย

ตามคิวเลยมีชื่อเด็กในคาถาอย่าง“เสี่ยป๊อป”น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ ขึ้นมาประชันกับ“สมพงษ์”โดยมีการหยิบยกบทสนทนาของ “นายใหญ่”ว่า ต้องเปลี่ยนแปลงพรรค ด้วยการเอาคนใหม่ๆ ขึ้นมาชูบ้าง

อย่างในครั้งนี้ กระแสคนรุ่นใหม่กำลังมา จากปรากฏการณ์พรรคอนาคตใหม่ กวาดต้อน ส.ส.เข้าสภาได้มากถึง 80 คน ถ้าใช้คนหนุ่ม อาจจะดูกลมกลืนและทันสมัย

“สมพงษ์”กับ “เสี่ยป๊อบ”เลยกลายมาเป็น 2 แคนดิเดต ที่ต้องฟาดฟันเพื่อแย่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภา

ศึกนี้ไม่ได้เดิมพันแค่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการชิงการนำพรรคระหว่าง“สองนางสิงห์”อย่าง“เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำกลุ่มวังบัวบาน กับ“เจ๊หน่อย”แกนนำกลุ่ม กทม.

อย่างที่รู้กัน สองเจ๊ซดเกาเหลากันมายาวนาน เป็นสองนางสิงห์ ที่อยู่ร่วมถ้ำ แต่ไม่เคยลงรอยกันมาแต่ไหนแต่ไร ช่วงการเลือกตั้ง “เจ๊แดง”เคยปลีกตัวออกไปทำพรรคเพื่อธรรม โดยให้“สมพงษ์”เป็นหัวหน้าพรรค เน้นเก็บส.ส.ในโซนภาคเหนือ

แต่แผนต้องเปลี่ยนหลัง “เจ๊แดง”โดนรุกหนักจากอีกฝั่ง หลังมีชื่อไปพัวพันเกี่ยวกับการทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) แถมอดีตเด็กในคาถา อย่าง “บุญทรง เตริยาภิรมย์”อดีต รมว.พาณิชย์ ก็ดันเปลี่ยนขั้ว ลูกชายย้ายไปลงพรรคพลังประชารัฐ เพื่อจะลงสมัครส.ส.ที่เชียงใหม่

คดีพลิก เลยต้องเปลี่ยนแผน พับโปรเจกต์พรรคเพื่อธรรม สั่ง “สมพงษ์”กระโดดกลับพรรคเพื่อไทย เพื่อไปสมัครส.ส.เขต ตรงพื้นที่ที่ลูกชายบุญทรง จะลง เพื่อเอาชัวร์

พลันจบศึกเลือกตั้ง“เจ๊แดง” มีความพยายามจะยึดพรรคคืนจาก“เจ๊หน่อย”หลังปล่อยให้โชว์มาเต็มที่ ได้จังหวะพอดี เลยเข็น“สมพงษ์”ลงไปท้าชิง

ขณะที่“เจ๊หน่อย”ก็หวงอำนาจ เพราะอุตส่าห์ได้โอกาสมาถือธงนำ หิ้วกระเตงลูกออกหาเสียง จนตัวเองมีออร่า และคะแนนนิยมส่วนตัวมากขึ้น กลายเป็นแม่ยายแห่งชาติ เลยต้องการกอดตำแหน่งผู้นำไว้กับตัว เลยส่งเด็กในคาถาอย่าง“เสี่ยป๊อบ”ลงมาชิงชัย

วัดกันปอนด์ต่อปอนด์“สมพงษ์”เหนือกว่าในแง่ของพรรษาทางการเมือง ประสบการณ์ในสภา ตลอดจนเสียงสนับสนุนภายในพรรค ที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเอา “เจ๊หน่อย”กันอยู่แล้ว แต่เมื่อก่อนเลือกตั้ง“นายใหญ่”เป็นผู้เลือกมา เลยไม่กล้าขัด ต้องตามน้ำ ทำเป็นสนับสนุนคุณหญิงกันไปตามหน้าเสื่อ

“สมพงษ์”เป็นคนสนิท“เจ๊แดง”โดยตรง มีส.ส.ในโซนภาคเหนือ และอีสานให้การสนับสนุน ต่างจาก“เจ๊หน่อย”ที่มีแค่ กทม.กับอีสานบางส่วนเท่านั้น

อีกทั้งตอนนี้ ยังมีการปล่อยข่าวดิสเครดิตกันว่า แม้พรรคเพื่อไทย จะได้ส.ส.ในการเลือกตั้ง 130 กว่าที่นั่ง แต่ถือเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง แถมข่มกันอีกว่า หากไม่ใช่ “เจ๊หน่อย”อาจจะได้ทะลุเกิน 150 ที่นั่งไปแล้ว เพื่อเขี่ยเจ๊ลงจากการเป็นผู้นำในพรรค

โดยเฉพาะพื้นที่กทม. จากเดิมที่พรรคเคยกวาดได้มากกว่านี้ แต่หนนี้เสียพื้นที่ให้กับพรรคพลังประชารัฐ และพรรคอนาคตใหม่ ไปเพียบ ทั้งที่เป็นเจ้าถิ่นแท้ๆ

ที่สำคัญ ขนาดเจ๊ บรรดาส.ส.ยังไม่ให้ความยำเกรงเท่าไหร่ หากเป็น “เสี่ยป๊อบ”ขึ้นแท่นหัวหน้าใหญ่ในพรรค ยิ่งเละตุ้มเปะ ถึงขนาดพวกศิษย์เก่าที่เคยอยู่พูดกันว่า หากงานนี้ “สมพงษ์”ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค รับรองว่าในพรรควุ่นวาย ใหญ่โต แน่นอน

“เสี่ยป๊อบ”เคยเป็น ส.ส.หลายสมัย และเป็นอดีตรัฐมนตรีมาแล้วก็จริง แต่เรื่องบารมียังไม่ถึง ส.ส.ด้วยกันไม่ได้ให้ความเคารพและเกรงใจเสียเท่าไหร่ แถมฝ่ายที่ไม่ชอบเจ้าแม่วังทองหลาง ยังเย้ยหยันเสียด้วยว่า เป็นพวกฟันน้ำนมเท่านั้น

ตำแหน่งเลขาธิการพรรคที่ว่าจะมอบให้ “เสี่ยป๊อบ”หากแพ้ให้กับ“สมพงษ์”ก็ยังยาก เพราะตำแหน่งนี้ ต้องทำหน้าที่ประสานสิบทิศ ยกเว้นจะเจรจาตกลงกันได้เท่านั้น

เพราะงานนี้ เจ๊ใหญ่แห่งวังบัวบาน ต้องกลับยึดพรรคกลับมาดูเอง ตามคิวที่สามี“สมชาย”เริ่มกลับมาวนเวียนที่พรรค อันเป็นสัญญาณแจ่มแจ๋ว ถึงการกลับมาของคนเมืองเหนือ

การชิงหัวหน้าพรรค จึงเป็นศึกอีกครั้งของ“สองนางสิงห์”




กำลังโหลดความคิดเห็น