xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ปิดตำนาน “กำนันเป๊าะ” 5 ทายาทสานต่ออาณาจักร“คุณปลื้ม” จากยุคอีสเทิร์นซีบอร์ดสู่ขุมทรัพย์ใหม่ EEC

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

กำนันเป๊าะกับอาณาจักรธุรกิจอันแข็งแกร่งของตระกูล “คุณปลื้ม”
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - การถึงแก่อสัญกรรมของ “กำนันเป๊าะ-สมชาย คุณปลื้ม” เมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 17 มิถุนายน 2562 ถือเป็นการปิดตำนาน “เจ้าพ่อเมืองชล” หรือถ้าจะใช้คำว่า THE LAST TYCOON ของประเทศไทย คงไม่ผิดไปจากความเป็นจริงเท่าใดนัก

“กำนันเป๊าะ” คือหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง ทั้งอิทธิพล บารมี ฐานะทางการเงิน มีเครือข่ายทั่วประเทศ มีธุรกิจมากมายทั้งบนบกและทะเล ในท้องถิ่นจังหวัดชลบุรีและพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างสูง จนได้รับการเรียกขานว่า “ฉลามบูรพา” และถือเป็นบุคคล “เหนือนักเลง” ภาพยนตร์ไทยที่ครั้งหนึ่งกำนันเป๊าะเคยร่วมแสดง

อย่างไรก็ดี จากการไป “กำนันเป๊าะ” มิได้ทำให้ความยิ่งใหญ่จบลงไปด้วย เนื่องจาก “อาณาจักรคุณปลื้ม” ที่เขาเป็นผู้สร้างก็ยังคงความยิ่งใหญ่จากรุ่นสู่รุ่น ผ่านลูกทั้ง 5 คนคือ “สนธยา วิทยา จิราภรณ์ อิทธิพลและณรงค์ชัย” ทั้งทางด้านธุรกิจและทางด้านการเมืองผ่านทายาทซึ่งยังคงโลดแล่นสานต่อจากผู้เป็นพ่อด้วยความแข็งแกร่ง

“ฉลามบูรพา” เส้นทางชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ เป็นลูกคนที่ 2 แต่เป็นลูกชายคนแรกของ นายชาญชัย และ นางท้วม คุณปลื้ม เกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2480 ฐานะทางบ้านพอมีอันจะกิน บิดาเป็นผู้ใหญ่บ้านใน ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี มารดาขายหมูในตลาดหนองมน กระทั่งมีโรงฆ่าสัตว์ขนาดเล็กของตนเอง

ชีวิตส่วนตัวสมรสกับนางสติล คุณปลื้ม (สกุลเดิม เท่งเจียว) มีบุตรธิดา รวม 5 คน เรียงลำดับดังนี้ 1. สนธยา คุณปลื้ม 2.วิทยา คุณปลื้ม 3. จิราภรณ์ คุณปลื้ม 4.อิทธิพล คุณปลื้ม และ 5.ณรงค์ชัย คุณปลื้ม

ทั้งนี้ เมื่อกล่าวถึงเส้นทางชีวิตของกำนันเป๊าะก็ต้องบอกว่า ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบและต้องบอกว่าไม่ธรรมดา

ด้วยความที่ส่วนตัวมีนิสัยกล้าได้ กล้าเสีย ใจนักเลง จึงไม่ชอบการเรียน เพราะคิดว่าไม่ตื่นเต้นเท่าการผจญภัย ในโลกกว้าง ดังนั้น เมื่อจบชั้น ป.4 ร.ร.วัดกลางดง จึงออกมาเผชิญโชคเป็น “กระเป๋ารถเมล์สายบางแสน-ศรีราชา-ชลบุรี” ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นคนขับรถเสียเอง

ต่อมา จึงหันไปทำเรือประมง เพราะรายได้ดีกว่า และบังเอิญไปสนิทชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง ซึ่งมีธุรกิจค้าน้ำมันในกัมพูชาขณะมาเที่ยวบางแสน กำนันเป๊าะ จึงได้สัมปทานจับปลาในน่านน้ำกัมพูชา

ระยะเวลา 4 ปีเต็มในน่านน้ำกัมพูชา ทำให้กำนันเป๊าะมีเงินหลายสิบล้านบาท และนำมาซึ่งคฤหาสน์หลังงามบนที่ดิน 7 ไร่ ริมทะเลบางแสน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “บ้านแสนสุข”

แต่ทำไม่ได้กี่ปีธุรกิจประมงก็พังพาบลง เพราะน้ำมันแพง จึงหันไปจับ ธุรกิจทำบ่อดินลูกรัง จนร่ำรวย และนำไปสู่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ก่อนจะแตก ไลน์ไปเป็นธุรกิจเหล้า โรงแรม พัฒนาที่ดิน ฯลฯ จนสามารถสยายปีกครอบคลุมเกือบทุกกิจการในเมืองพัทยา และส่งให้วงศ์วานว่านเครือ รวมทั้งลูกน้องคนสนิทก้าวเข้ามาเป็นนักการเมืองท้องถิ่น เช่น กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน หรือแม้แต่ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร

อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่า สิ่งที่ผลักดันให้กำนันคนดังร่ำรวยทั้งเงินทองและ บารมีอย่างชนิดที่ไม่มีตำรวจหน้าไหนกล้ายุ่งก็คือ เขาได้รับการสนับสนุนจาก “คนมีสี” ในท้องที่ โดยรับหน้าที่ในการลำเลียงสินค้าพิเศษเข้ามาทางทะเล

แน่นอนว่า การครองอำนาจเจ้าพ่ออย่างไร้เทียมทานของ “กำนันเป๊าะ” ย่อมหลีกหนีไม่พ้นที่จะต้องก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมือง ซึ่งเป็นตัวกำนันเองที่เริ่มยกระดับตัวเองมาเป็นผู้กว้างขวาง โดยเริ่มขึ้นจากการที่กำนันเป๊าะตัดสินใจเป็นหัวคะแนนสนับสนุน บุญชู โรจนเสถียร แห่งพรรคกิจสังคมลงแข่งขันทางการเมืองกับ พล.ต.ศิริ สิริโยธิน ที่มี จุมพล สุขภารังษี หรือ เสี่ยจิว อดีตเจ้าพ่อคนดังที่ทรงอิทธิพลในขณะนั้น และสุดท้ายกำนันเป๊าะก็ประสบความสำเร็จเมื่อสามารถส่งบุญชูให้เป็น ส.ส.ได้สำเร็จ

ต่อมาเมื่อ “เสี่ยจิว” ถูกยิงตาย เมื่อเดือนมิถุนายน 2524 ภาพของ “กำนันเป๊าะ” จึงโดดเด่นขึ้นมา ในฐานะผู้สนับสนุน “นิคม แสนเจริญ” น้องของ “สติล คุณปลื้ม” ให้เข้าสู่การเมืองท้องถิ่น โดยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี หลังจากนั้นก้าวเข้าสู่ระดับประเทศโดยลงสมัคร ส.ส. ในนามของพรรคกิจสังคม
 สนธยา วิทยา อิทธิพล และณรงค์ชัย คุณปลื้ม ลูกชายของกำนันเป๊าะ
จิราภรณ์ คุณปลื้ม ลูกสาวคนเดียวของกำนันเป๊าะที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการทำธุรกิจ ขณะถ่ายภาพเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของ “สติล คุณปลื้ม” ผู้เป็นแม่
เมื่อปี 2529 กำนันเป๊าะ เข้าสู่การเมือง ในฐานะนายกเทศมนตรีตำบลแสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมตั้งบริษัท บางแสนมหานคร จำกัด บริษัทแห่งนี้มีผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นคนของตระกูลคุณปลื้ม-แสนเจริญ (นามสกุลฝ่ายภรรยาของนายสมชาย : นางสติล) การขยายธุรกิจของกำนันเป๊าะ จึงอิงกับการพัฒนาบางแสน พื้นที่ซึ่งมีบทบาทในฐานะกำนันและนายกเทศมนตรีในขณะนั้น

ด้วยความเป็นคนกว้างขวางใน จ.ชลบุรี ทำให้การเลือกตั้งทุกครั้ง คนของฝั่งกำนันเป๊าะ จะได้รับเลือกเข้ามา ขณะเดียวกันยังได้แตกแขนงธุรกิจเพิ่มเติมด้วยการจัดตั้ง บริษัท ชลบุรีแฮปปี้เวิร์ล จำกัด ในเดือนเมษายน 2530 และธุรกิจของกำนันเป๊าะกับครอบครัว ก็แตกออกไปมากขึ้นเป็นลำดับ ตามอิทธิพลทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้“กำนันเป๊าะ”มีทั้งอำนาจรัฐ อำนาจเงินพุ่งแรงติดจรวด เป็นเพราะการสร้างเครือข่ายผู้ใหญ่บ้าน กำนัน องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลทั้งหมด รวมทั้งเมืองพัทยาและองค์การบริหารส่วนจังหวัด ใหญ่โต บารมี จากธุรกิจที่นับวันจะใหญ่ขึ้นๆ และขยายแตกไลน์ไปเยอะแยะ “กำนันเป๊าะ” จำเป็นต้องมีฐานอำนาจรัฐคุ้มกัน นั่นก็คือการเมืองสนามใหญ่ จึงส่งมือไม้ แขนขา ลูกเต้า ลงไปยึดเก้าอี้มาไว้ในครอบครอง

ครั้นเมื่อคณะ รสช. (คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ) ทำการรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2534 โดยการนำของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หัวหน้า รสช. ชื่อ “กำนันเป๊าะ” ยิ่งดังขึ้นไปอีก เพราะสนิทสนมกับ “บิ๊กจ๊อด” พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ไปร่วมงานวันเกิดเป็นที่ฮือฮา

ต่อมา “กำนันเป๊าะ” เข้าร่วมกับพรรคสามัคคีธรรม ซึ่งบรรดาคณะนายทหาร รสช.สนับสนุน โดยการส่ง นิคม แสนเจริญ น้องชายของ “สติล คุณปลื้ม” ภรรยา เข้าไปร่วมเป็นรองหัวหน้าพรรค และลงสมัครรับเลือกปี 2535 ครั้งที่ 1 ก่อนที่จะเกิดกรณีพฤษภาทมิฬปี 2535 ขึ้น และต้องมีการเลือกตั้งครั้ง 2 ของปี “นิคม แสนเจริญ” น้องภรรยาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะเดินทางไปช่วยพรรคปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดภาคอีสาน

“กำนันเป๊าะ” จึงส่ง “สนธยา คุณปลื้ม” บุตรชายคนโตลงสมัครแทน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งสายเลือดโดยตรงของกำนันเป๊าะขึ้นสู่เวทีการเมืองอย่างเต็มตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็น ส.ส. ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ ต่อมาส่งลูกชายคนรอง “วิทยา คุณปลื้ม” ลงเลือกตั้งก็ประสบความสำเร็จ ทำให้กำนันเป๊าะถือว่าเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของ จ.ชลบุรี

ท้ายที่สุด ในการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 ด้วยบารมีของพ่อที่แม้จะเป็นนักโทษหนีคดีแต่ก็สามารถบัญชาการศึกเลือกตั้งจนสามารถกวาดเก้าอี้ ส.ส.จังหวัดชลบุรีได้ถึง 7 คน และเหลือเอาไว้ให้กับพรรคประชาธิปัตย์คือ สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เพียงเก้าอี้เดียว ด้วยคำสั่งของกำนันเป๊าะเพราะความสัมพันธ์อันดีกับ “ประโยชน์ เนื่องจำนงค์” ผู้กว้างขวางแห่งอำเภอบ้านบึงและบ่อทอง

อย่างไรก็ตาม เส้นทางชีวิตของเจ้าพ่อภาคตะวันออกก็เดินทางมาถึงจุดจบเมื่อต้องเผชิญกับวิบากกรรมใน “คดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินเขาไม้แก้วและคดีจ้างวานฆ่ากำนันยูร” ซึ่งส่งผลทำให้ “กำนันเป๊าะ” ต้อง “หนี” และหายหน้าหายตาไปเป็นเวลานานเกือบ 10ปี ก่อนที่จะถูกรวบตัวเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2556 ขณะอยู่ในรถยนต์ส่วนตัวทะเบียน ฎฎ 9579 กรุงเทพมหานคร บนถนนมอเตอร์เวย์ขาออก บริเวณด่านเก็บเงินลาดกระบัง หลังเดินทางเข้ามารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โดยใช้ชื่อปลอมเป็น “นายกิม แซ่ตั้ง” จนเป็นข่าวคึกโครมไปทั่วทั้งประเทศ
กระทั่งเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2560 จึงได้รับการพักโทษเนื่องจากเป็นผู้ต้องขังเข้าหลักเกณฑ์พิเศษป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะ 4 และอายุเกิน 70 ปี และออกจากโรงพยาบาลตำรวจมาพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสมิติเวช จ.ชลบุรีจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

จากอีสเทิร์นซีบอร์ดสู่ EEC
อาณาจักรธุรกิจหมื่นล้าน “คุณปลื้ม” ยุคใหม่
เป็นที่รู้กันดีว่าตระกูลคุณปลื้มไม่ได้มีชื่อเสียงเฉพาะในแวดวงการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศเท่านั้น ตระกูลคุณปลื้ม ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ยังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในด้านการทำธุรกิจขนาดใหญ่ ที่เกิดจากแรงผลักดันสำคัญ และความไว้วางใจในการเป็นผู้กว้างขวางของกำนันเป๊าะ จนนำสู่ธุรกิจที่ได้รับความสนใจในระดับประเทศ โดยเฉพาะผลพวงจาก “โครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด” ที่นำมาความมั่งคั่งมาสู่ภาคตะวันออกของไทย

ในห้วงนั้น สังคมอาจจะรู้จักภาพของ “กำนันเป๊าะ” ที่ก้าวเข้ามาเป็น “นายกเทศมนตรีตำบลแสนสุข” ครั้งแรก ในความรู้สึกที่แตกต่างกัน แต่คงมีน้อยคนที่จะรู้ว่า บนหนทางธุรกิจนั้น “กำนันเป๊าะ” เป็นเจ้าของกิจการธุรกิจหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น “แฮปปี้เวิลด์” อัครสถานบันเทิงใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออก-นักธุรกิจพัฒนาที่ดินมือฉบัง-เจ้าของโรงแรม และอีกหลายธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย

“มันน่าเบื่อเหมือนกันที่จะได้ยินแต่เรื่องไม่สู้ดี ผมบอกจริง ๆ นะ ผมเหนื่อยพอแล้ว เหนื่อยทุกอย่าง อยากมีเวลาให้กับการทำธุรกิจของตัวเองบ้าง”กำนันเป๊าะบอกเล่าความรู้สึกส่วนตัวกับ “ผู้จัดการ” เมื่อปี 2532

สำหรับปัจจุบัน แม้ว่า “คุณปลื้ม” จะเป็นการดำเนินธุรกิจในลักษณะครอบครัว หรือกงสี เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจโรงโม่หิน และธุรกิจแพลนต์ปูนซีเมนต์ แต่ก็สามารถสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี

โดยการดำเนินธุรกิจของตระกูล เห็นภาพชัดเมื่อบรรดาลูกๆ ของ กำนันเป๊าะ สำเร็จการศึกษาจากทั้งในและต่างประเทศ และได้เดินทางกลับมาปักหลักช่วยครอบครัว โดยมีหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ อย่าง จิราภรณ์ คุณปลื้ม ลูกสาวคนเดียวของกำนันที่เป็นกำลังหลักในการดูแลธุรกิจทั้งหมดราว 15 บริษัท ขณะที่พี่น้องซึ่งเป็นผู้ชายอย่าง สนธยา วิทยา อิทธิพล และณรงค์ชัย ล้วนแล้วแต่ทำงานทางการเมือง เพื่อสานความตั้งใจของผู้เป็นพ่อที่มีตำแหน่งอดีตนายกเทศบาลตำบลแสนสุข

จิราภรณ์เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า ปัจจุบันตระกูลคุณปลื้มดำเนินธุรกิจในลักษณะธุรกิจครอบครัว หรือกงสี ทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม รับเหมาก่อสร้าง โรงโม่หิน แพลนต์ปูนซีเมนต์

“ตระกูลคุณปลื้มมีที่ดินในมือประมาณ 4,000 ไร่ อยู่บางแสน 80% อยู่อำเภอรอบ ๆ อีก 20% พร้อมขาย ถ้าคนสนใจ แต่ตัวจริงของทุนใหญ่ที่จะเข้ามาลงทุนยังไม่มี ยังไม่เห็นภาพเรามีที่ดินเปล่าในศรีราชา 3 ไร่ อยู่ติดถนนสุขุมวิท หลังโรบินสันห่างกันไม่ถึง 100 เมตร ถือเป็นทำเลทอง ติดป้ายประกาศขายมา 1 ปี ตารางวาละ 4 แสนบาทยังไม่มีใครมาซื้อ ราคายังอยู่ราคาเดิม หรือที่ดินอีกแปลงเกือบ 1,000 ไร่ อยู่เขตนอกเมืองเส้น 331 จะไประยอง สามารถซื้อไปทำนิคมอุตสาหกรรมมีคนติดต่อจะซื้อไปทำหมู่บ้าน แต่ก็หายไป คาดว่าปี 2562 ที่ดินในชลบุรีน่าจะเติบโตขึ้น หลังจาก EEC เป็นรูปเป็นร่างขึ้น อีกสัก 2 ปีน่าจะกลับมาบูม รอ EEC มาแน่ ๆ”จิราภรณ์เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” เมื่อปี 2561

ว่ากันว่าเฉพาะ บริษัท บางแสนมหานคร จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง บริษัทฯ แห่งนี้มักได้เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐในการดำเนินการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ใน จ.ชลบุรี มากกว่า 90% เช่น งานของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมโยธาธิการ การประปาส่วนภูมิภาค ส่วนงานเอกชนประมาณ 10% จะเป็นโครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคให้นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่

และในวันนี้ บริษัท บางแสนมหานคร ยังมีเป้าหมายในการประมูลงานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามแผนพัฒนาของโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ไม่ว่าจะเป็นถนน ระบบประปา อีกด้วย
กำนันเป๊าะในมาดครวญเพลง “ปริญญาชาวนา” ที่เจ้าตัวบอกว่าใกล้เคียงกับชีวิตของตัวมากที่สุด
ขณะที่ธุรกิจโรงแรมในวันนี้ ตระกูลคุณปลื้มได้มอบหมายให้ นายณรงค์ชัย เป็นผู้ดูแล มีทั้งโรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ท ซึ่งเป็นโรงแรมขนาด 4 ดาว ที่บริหารงานโดยบริษัท ไฟฟ์ลีดเดอร์กรุ๊ป จำกัด เน้นรับลูกค้ากลุ่มสัมมนาและจัดเลี้ยง โรงแรมบางแสนเฮอริเทจ บริหารงานโดย บริษัท บางแสนบีชรีสอร์ท จำกัด โดยเป็นโรงแรมที่รับสัมปทานเช่าบริหารมาจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นโรงแรมขนาด 3 ดาวครึ่ง เน้นรับลูกค้ากลุ่มสัมมนาและจัดเลี้ยง

โรงแรมบางแสนวิลล่า โฮเทล โรงแรมขนาดเล็ก และร้านอาหารปะการัง โรงแรมเอสทู บางแสน เป็นโรงแรมขนาดเล็ก ซึ่งที่ผ่านมาโรงแรมทั้ง 4 แห่งได้มีการทุ่มงบประมาณในการพัฒนาเพื่อให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเกิดขึ้นของโครงการอีอีซี

ส่วนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบางแสนมหานคร ก็มีมากมายหลายโครงการ เช่น หมู่บ้านบางแสนมหานคร เดอะฮอไรซอน คอนโด (The Horizon Condo) ติดริมทะเล เออบาน่า ซิตี้ (Urbana City) และโครงการบ้านปลื้มสุข

นอกจากนั้น ตระกูลคุณปลื้ม ยังสยายปีกธุรกิจสู่การลงทุนทำสถานที่ออกกำลังกายครบวงจร หรือสปอร์ตคอมเพล็กซ์แนวใหม่ ที่ประกอบด้วย ฟิตเนส สนามแบดมินตัน และศูนย์การศึกษาที่เปิดสอนพิเศษวิชาต่างๆ ที่จะพร้อมเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการในปี 2562 พร้อมทำโครงการคอมมูนิตีมอลล์ มินิมอล และตลาดนัดสำหรับคนรุ่นใหม่ บริเวณใกล้กับมหาวิทยาลัยบูรพา บางแสน ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ 2 ปีก่อน

และในวันนี้ จิราภรณ์ คุณปลื้ม ยังได้แยกตัวเองออกมาลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว ด้วยการก่อสร้างโรงแรม WHEELER Bed & Bike ขนาด 31 ห้อง ที่มีพูลวิลล่า (ห้องที่มีสระว่ายน้ำในตัว) อีก 4 ห้อง มูลค่า 70 ล้านบาท เป็นไลฟ์สไตล์โฮเต็ล

ไม่เพียงเท่านั้น ตระกูลคุณปลื้ม ยังถือเป็นแลนด์ลอร์ดรายสำคัญของ จ.ชลบุรี ที่ในวันนี้มีที่ดินที่อยู่ในย่านทำเลทองที่มีมูลค่ามหาศาลกระจายอยู่ทั้งในเขตบางแสน ศรีราชา และพัทยา

ทั้งนี้ไม่รวมธุรกิจของครอบครัว นางสุกุมล คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ภรรยานายสนธยา อีกจำนวน 17 บริษัท ซึ่งมีสินทรัพย์รวม 1,101 ล้านบาท

ดังนั้น จึงเป็นที่น่าจับตาว่าการเกิดขึ้นของ “เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)” จะทำให้ภาคธุรกิจของตระกูลคุณปลื้ม มีความแข็งแกร่งขึ้นอีกมากน้อยเพียงใด เพราะต้องไม่ลืมว่า วันนี้ “คุณปลื้มผู้ลูก” มีสายสัมพันธ์อันดียิ่งกับรัฐบาล คสช.ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ไม่เช่นนั้นคงไม่ยุบ “พรรคพลังชล” มาร่วมหอลงโรงกับ “พรรคพลังประชารัฐ”

ไม่เช่นนั้น “ลุงตู่” คงไม่ใช่ ม.44 แต่งตั้ง “สนธยา คุณปลื้ม” ให้เป็น “นายกเมืองพัทยา” เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561โดยเขียนอธิบายเอาไว้ยาวเหยียดว่า “ในระหว่างรอการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยาและการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาตามกฎหมายดังกล่าวจึงมีความจำเป็นต้องได้มาซึ่งนายกเมืองพัทยาและผู้บริหารเมืองพัทยาที่มีศักยภาพสูง พร้อมด้วยประสบการณ์และความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประโยชน์ต่อการสนับสนุนกิจกรรมและการดำเนินการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก รวมทั้งเป็นการปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่นอันจะส่งผลดีต่อการปฏิรูปประเทศ”

หลังก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 มีมติแต่งตั้งนายสนธยาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านการเมือง และนายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพัทยา เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

และล่าสุดในการจัดโผ “ครม.ลุงตู่เฟส2” ก็มีรายชื่อ “อิทธิพล คุณปลื้ม” ติดอยู่ในโผ “ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม” ทั้งที่สอบตกอีกต่างหาก

เพราะฉะนั้น ย่างก้าวของ “อาณาจักรธุรกิจคุณปลื้ม” จึงน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง


กำลังโหลดความคิดเห็น