ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ประกาศใช้แล้ว สำหรับ "ระเบียบกรมกิจการเด็กและเยาวชน ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด พ.ศ. 2562"
จากมติครม. เมื่อวันที่ 26 มี.ค.62 เห็นชอบสนับสนุนเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดตั้งแต่ 0-6 ขวบ เดือนละ 600 บาท และขยายฐานรายได้จากเดิม 36,000 บาท เป็นไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน/ต่อปี เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 62 จะเปิดให้คุณพ่อคุณแม่ทั่วไป รับลงทะเบียนในวันที่ 31 พ.ค.- 31 ก.ค. 62
นโยบายนี้มี กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) หน่วยงานในกำกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)เป็นเจ้าภาพหลัก เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลโครงการให้รองรับกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ได้รับสิทธิ์ไปแล้ว 600,000 คน
คาดว่าจากการขยายฐานรายได้ครอบครัว จะทำให้มีเด็กได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านคน ใช้งบประมาณตามนโยบายนี้ 10,400 ล้านบาท
สำหรับโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด พม. ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย พัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ยื่นคำร้องได้ รวมถึงการตรวจสอบสถานะของผู้มีสิทธิ์ และการติดตามความก้าวหน้ากลุ่มเป้าหมาย โดยผู้มีสิทธิ์ที่อาศัยอยู่ใน กทม. ลงทะเบียนยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ในส่วนภูมิภาคให้ยื่นคำร้องได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เด็กอาศัยอยู่
ล่าสุด สัปดาห์ที่ผ่านมา ระเบียบฉบับนี้เพิ่งประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา มี 6 หมวด 31 ข้อ มี "อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน" เป็นผู้รักษาการในระเบียบนี้
ระเบียบฉบับนี้มีความน่าสนใจอย่างไร เริ่มจาก หมวด 1 ว่าด้วย การลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ฯ
เริ่มจาก ข้อ 6 เด็กแรกเกิดซึ่งอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของครัวเรือนที่มีรายได้น้อย (รายได้รวมเฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปี) หรือมารดาและบิดาเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ "บัตรคนจน" หรือมารดาเป็นผู้ถือบัตรฯ และไม่ปรากฏบิดา หรือ บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายเป็นผู้ถือบัตรฯ และไม่ปรากฏมารดา มารดา หรือบิดา เป็นผู้มีสิทธิ์ฯ
ข้อ 7 ให้ผู้ปกครองของเด็กแรกเกิดที่มีสิทธิ์ฯ ยื่นคำร้องขอลงทะเบียนฯ ณ ที่ทำการของอปท. ในพื้นที่ของเด็กแรกเกิดมีภูมิลำเนาอยู่ กรณีหญิงตั้งครรภ์ อาจยื่นคำร้องขอลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ฯ ณ ที่ทำการของอปท. " กทม. เมืองพัทยา เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล" ในพื้นที่ของหญิงตั้งครรภ์มีภูมิลำเนาอยู่ก็ได้
ข้อ 8 เอกสารประกอบการลงทะเบียนฯ ที่ต้องมี 1. แบบคำร้องขอลงทะเบียน (ดร.01) 2. แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02) หรือ สำเนาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3. บัตรประจำตัวประชาชนของหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ปกครอง (เอกสารข้อมูลการรับรอง บัตรประชาชน) 4. สำเนาสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก 5. สำเนาสูติบัตรเด็กแรกเกิด และ 6. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากของผู้ที่ขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
หมวด 2 การรับรองสถานะของครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ตามข้อ 11 การยืนขอสิทธิ์ฯ จะต้องมี "ผู้รับรองสถานะของครัวเรือนที่มีรายได้น้อย" จำนวน 2 คน โดย ผู้รับรองคนที่ 1 " ในพื้นที่เขต กทม." ให้หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคมประจำสำนักงานเขต หรือประธานชุมชน หรืออาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) หรืออาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) เป็นผู้รับรอง
"ในพื้นที่เขตเมืองพัทยา" ให้ประธานชุมชน หรืออาสาสมัครสาธารณสุขเมืองพัทยา หรืออาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เป็นผู้รับรอง
ส่วน "ในพื้นที่เขตเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล" ให้กำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน หรือประธานชุมชน หรืออาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) หรืออาสาสมัคร สาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นผู้รับรอง
ส่วน ผู้รับรองคนที่ 2 "ในพื้นที่เขต กทม." ให้ ผอ.เขต หรือข้าราชการที่ผู้อำนวยการเขต มอบหมาย เป็นผู้รับรอง"ในพื้นที่เขตเมืองพัทยา" ให้ปลัดเมืองพัทยา หรือข้าราชการที่ปลัดเมืองพัทยา มอบหมาย เป็นผู้รับรอง และ "ในพื้นที่เขตเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบล" ให้ปลัดเทศบาลหรือข้าราชการ ที่ปลัดเทศบาลมอบหมาย หรือปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหรือข้าราชการที่ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล มอบหมาย เป็นผู้รับรอง
ผู้รับรองคนที่ 1 และคนที่ 2 มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบและรับรอง "ผู้ที่ยื่นขอรับสิทธิ์"ทั้งหมด
ข้อ 14 กรณีที่หญิงตั้งครรภ์ ยื่นคำขอลงทะเบียนรับสิทธิ์ฯ ไว้แล้ว และเมื่อหญิงตั้งครรภ์ดังกล่าวคลอดบุตร ให้ยื่นลำเนาสูติบัตรเด็กแรกเกิดต่อเจ้าหน้าที่ของอปท. ที่ตนเองได้ยื่นคำขอไว้หรือ ที่ตนเองมีภูมิลำเนาอยู่ในปัจจุบัน เพื่อขอรับสิทธิ์ฯ และดำเนินการรับรองสถานะของครัวเรือน ที่มีรายได้น้อยแล้วแต่กรณี
ข้อ 15 กรณีผู้ปกครองรายใด ยื่นคำขอลงทะเบียนรับสิทธิ์ฯ โดยไม่มีผู้รับรองและมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของระเบียบนี้ ให้แจ้งความประสงค์เพื่อขอให้ "กรมกิจการเด็กและเยาวชน" ดำเนินการตรวจสอบและพิจารณาให้การรับรอง สถานะของครัวเรือนของผู้ปกครอง โดยในเขตพื้นที่กทม. ให้ยื่นคำร้องที่ "บ้านพักเด็กและครอบครัว กทม." และในจังหวัดอื่น ให้ยื่นคำร้องที่ "บ้านพักเด็กและครอบครัวในจังหวัด" นั้น ๆ
ข้อ 16 เมื่อได้รับคำร้องแล้ว ให้ผู้รับคำร้อง ตรวจสอบคำขอลงทะเบียน และคุณสมบัติของผู้ปกครองที่ยื่นขอรับสิทธิ์ฯ ตามระเบียบนี้ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ปกครองมีคุณสมบัติครบล้วนตามระเบียบ ให้หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว กทม. หรือหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวในจังหวัดนั้น เป็นผู้ลงนามรับรองคนที่ 2 ในแบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02) และแจ้งรายชื่อผู้ปกครองเป็นผู้มีสิทธิ์ฯ ให้อปท. ดำเนินการประกาศรายซื่อต่อไป
กรณีเมื่อมีการตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ปกครองที่ยื่นคำขอลงทะเบียนรับสิทธิ์ฯ มีคุณสมบัติไม่ครบตามระเบียบนี้ ให้แจ้งอปท.รับทราบ พร้อมทั้งเหตุผล เพื่อคำเนินการต่อไป
หมวด 3 การประกาศรายชื่อและการบันทึกข้อมูลของผู้มีสิทธิ์รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
ข้อ 17 ให้อปท.ประกาศรายชื่อ ณ ที่ทำการอปท.ฯแห่งนั้น เพื่อให้บุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ยื่นคำร้องขอคัดค้านผู้ปกครองที่มีสิทธิ์ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ประกาศ รวมถึง ประกาศรายชื่อผู้ปกครองที่มีสิทธิ์ฯ ตามที่หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวฯนั้น ลงนามรับรองฯ ณ ที่ทำการอปท. ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ประกาศ เช่นกัน กรณีผู้ปกครองรายใดที่ยื่นคำขอลงทะเบียนรับสิทธิ์ฯ มีคุณสมบัติไม่ครบตามระเบียบนี้ ให้อปท.ที่รับคำขอลงทะเบียนแจ้งผลให้ ผู้ปกครอง ที่ยื่นคำขอลงทะเบียนรับสิทธิ์ รับทราบต่อไปโดยทันที
ข้อ 18 กรณี "ไม่ผ่านการพิจารณา" แล้วแต่กรณี โดยมียื่นคำร้องขอคัดค้านการประกาศ ให้ผู้อำนวยการเขตในกทม. ปลัดเมืองพัทยา ปลัดเทศบาล หรือปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาคำร้องขอคัดค้าน ภายในกำหนดระยะเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันที่รับคำร้องขอคัดค้าน และให้มีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ยกคำร้องคัดค้าน หรือ คำร้องคัดค้านมีเหตุผลรับฟ้งได้ ให้ถอนรายชื่อหรือเพิ่มชื่อของผู้ปกครองที่มีสิทธิ์ ของ อปท.แห่งนั้น
ข้อ 19 ข้อ 20 ว่าด้วยการดำเนินการบันทึกข้อมูลเบื้องต้น เข้าสู่ระบบฐานข้อมูลโครงการเงินอุดหนุนฯ หรือดำเนินการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ยื่นคำร้องขอลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ฯ จากบัตรประจำตัวประชาชนด้วยเครื่องอ่านบัตร (Smart Card)รวมถึงการส่งรายชื่อผู้ปกครองที่มีสิทธิ์ ให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด รวบรวมนำส่งส่วนกลาง รวมถึงกรณีการเพิ่มรายชื่อ
ข้อ 21 กรมกิจการเด็กและเยาวชน และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด มีอำนาจตรวจสอบและบันทึกข้อมูลตามแบบคำร้องขอลงทะเบียน และแบบรับรอง สถานะของครัวเรือน ของผู้ขอรับสิทธิ์ฯเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน
หมวด 4 การตรวจสอบลิทธิ์และการสิ้นสุดลิทธิ์รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
ข้อ 22 การตรวจสอบสิทธิ์ฯ ได้ที่สำนักงานเขตที่ลงทะเบียน ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์จังหวัด หรืออปท.ที่ลงทะเบียน
ข้อ 23 ให้สิทธิ์การรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดสิ้นสุดลงในกรณี "เด็กแรกเกิดอายุครบ 6 ปี ,เด็กแรกเกิดถึงแก่ความตาย ,ยื่นคำขอสละลิทธิ์เป็นหนังสือ ,ตรวจพบข้อมูลอันเป็นเท็จ และขาดคุณสมบัติตามระเบียบนี้
หมวด 5 การจ่ายเงินและการติดตามเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ข้อ 24 25 ว่าด้วยการการจ่ายเงินอุดหนุน โดยให้กรมกิจการเด็กและเยาวชน และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์จังหวัด บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด ร่วมกับอปท.และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ในการติดตามพัฒนาการของเด็กแรกเกิดตามช่วงอายุที่กำหนด
ข้อ 26 ให้กรมกิจการเด็กและเยาวชน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดในแต่ละจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประสานความร่วมมือกับ สถานบริการสาธารณสุขทุกระดับ ศูนย์บริการสาธารณสุขกทม. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) และอาสาสมัคร (อพม.) ติดตามการรับบริการ "คลินิกเด็กสุขภาพดี" ของเด็กตามช่วงอายุที่กำหนดทุกครั้ง โดยให้ผู้ปกครองต้องน่าสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็กมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นประจำทุกปี
ข้อ 27 เด็กแรกเกิดที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 61 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 62 และผู้ปกครองที่ได้มายื่นขอรับสิทธิ์ภายในวันที่ 30 ก.ย.62 ให้มีสิทธิ์ฯ นับตั้งแต่เดือนที่เด็กเกิด
กรณีเด็กแรกเกิด และผู้ปกครองไม่ได้ยื่นลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ภายในวันที่ 30 ก.ย.62 และ เด็กแรกเกิดที่เกิดตั้งแต่ 1 ต.ค.62 เป็นต้นไป ให้ได้รับเงิน ในอัตราเดือนละ 600 บาท นับตั้งแต่เดือนที่ผู้ปกครองยื่นขอรับสิทธิ์
ข้อ 28 กรมบัญชีกลางจะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้ได้รับสิทธิ์ฯ ยกเว้นการจ่ายเป็นเงินสดจะกระทำได้เฉพาะราย ข้อ 29 วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงิน ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด
หมวด 6 บทเฉพาะกาล ข้อ 30 เด็กแรกเกิดที่มีสิทธิ์ฯก่อนระเบียบนี้ใช้บังคับ ยังคงมีสิทธิ์รับเงินอุดหนุนต่อไปจนเด็กแรกเกิดมีอายุครบหกปี เด็กแรกเกิดที่เคยรับเงินอุดหนุนและเด็กแรกเกิดที่มีอายุเกินสามปีก่อนระเบียบใช้บังคับ ยังคงมีสิทธิ์ฯอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เด็กแรกเกิดอายุสามปีเป็นต้นไป จนมีอายุครบหกปี
ข้อ 31 เด็กแรกเกิดที่ไม่มีสิทธิ์ก่อนระเบียบนี้ใช้บังคับ หากมีคุณสมบัติตามระเบียบนี้ ให้ผู้ปกครองมายื่นดำร้องขอลงทะเบียนได้ และให้จ่ายในอัตราเดือนละ 600 บาท นับตั้งแต่เดือน ที่ยื่นขอรับสิทธิ์จนอายุครบหกปี
จากวันนี้ คุณพ่อคุณแม่ สอบถามไปได้เลยที่ กรมกิจการเด็กและเยาวชน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดในแต่ละจังหวัด และ ไปลงทะเบียนได้ที่ "องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" ทั่วประเทศ.