ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - หลายปีก่อนคนในรัฐบาลคสช. เคยออกมาแฉถึงพฤติกรรมการผลาญงบของ "องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" หรือ อปท. ทั้งการจัดรายการท่องเที่ยวสุดหรูในต่างประเทศ การแสดงตัวกร่างบนเครื่องบิน สวาปาม รับประทานไวน์ขวดละเป็นแสนบาท นั่งเครื่องชั้นเฟิร์สคลาส สร้างบ้านเป็นคฤหาสน์ ผูกขาดการประมูลงานรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่ ถึงขั้นพยายาม กำหนดยาแรง พิจารณาควบคุมจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในทุกๆ ปี
ขณะที่ "กระทรวงมหาดไทย" หน่วยงานต้นสังกัด อปท. ก็พยายามที่เสนอมาตรการทางกฎหมาย ทั้งการกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมใน พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น เกี่ยวกับคุณสมบัติผู้จะสมัครเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น และนายกเทศมนตรี หรือผู้บริหารท้องถิ่น
จำได้ว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ให้ความสนใจ โดยมีการออกคำสั่ง ฉบับที่ 88/2557 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสม การจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณนั้น จากเดิมที่ให้เป็นอำนาจของ"คณะกรรมการกระจายอำนาจ" จึงกลายเป็น คสช. เข้ามาควบคุมเงินอุดหนุนอปท.
ในคราวนั้น คสช. มีข้อมูลว่าในงบประมาณอุดหนุนฯ อปท.ทั่วประเทศปีละ 2 แสนล้านบาทนั้น กว่า 30% หรือคิดเป็นเงิน 6 หมื่นล้านบาท ถูกหักเป็นค่าหัวคิวให้กับนักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติ
อปท. ถูกมองว่า เป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวทางการเมือง
ตลอด 4-5 ปีทีผ่านมามีการ “ออกแบบจุดรั่วไหล”เพื่อป้องกันการ “ฉกฉวย”งบประมาณแผ่นดิน ถึงขั้นมีข้อเสนอให้“ยุบทิ้ง”จนนำมาสู่การแช่แข็ง อปท. ด้วย มาตรา 44 ระงับการปฏิบัติงานของผู้บริหารอปท.หลายแห่งทั่วประเทศ จนถึงปัจจุบัน ทำให้นักการเมืองท้องถิ่นหลายคนถวิลหา ว่า เมื่อไร จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นหนอ
ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 เม.ย.62 ได้เผยแพร่ พ.ร.บ.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 6 ฉบับ ประกอบด้วย พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 , พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2562 พ.ร.บ.เทศบาล (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562, พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 , พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2562 และ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562
เมื่อต้นเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เวียนหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอ รวมถึง ปลัดอปท. ได้ศึกษาสาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ... หลังจาก สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย ขอให้หน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการจัดเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการศึกษาและทำความเข้าใจในเบื้องต้น ก่อนที่จะมีการประกาศใช้กหมาย
ขณะที่กฎหมายฉบับอื่นๆ ก็มีความชัดเจน“โดยเฉพาะประเด็นการได้มาของผู้บริหารท้องถิ่น”ตามที่เคยปรากฏเป็นข่าวมาแล้ว จะมีความชัดเจนอย่างไร อย่างกฎหมายที่เกี่ยวกับกทม. ระบุถึงสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร โดยกำหนดให้มีเขตละ 1 คน แต่ถ้าเขตใดมีราษฎรเกิน 150,000 คน ให้มี ส.ก.เพื่ออีก 1 คน และถ้าเศษเกิน 75,000 คนก็ให้มี ส.ก. เพิ่มขึ้นอีก 1 คน
ในมาตรา 24 ของกฎหมาย ระบุว่า“ให้ดำเนินการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ในระหว่างที่กฎหมายตามวรรคหนึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ มิให้นำ มาตรา 71 -80 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 มาใช้บังคับ”
ซึ่งมาตราดังกล่าว ระบุถึง สภาเขต คุณสมบัติสมาชิกสภาเขต การเลือกตั้ง และอำนาจหน้าที่ของสภาเขต เท่ากับว่า ตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้จะยังไม่ให้มีการเลือกตั้ง ส.ข.จนกว่าจะมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ
ส่วนกฎหมาย เลือกตั้งท้องถิ่น ทั้ง อบจ. เทศบาล และ อบต.ที่่น่าสนใจ และยังคงประเด็นนั้นๆ ไว้ ได้แก่
ประเด็นว่าด้วย "ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย" ต้องการป้องกันผู้รับเหมา เข้ามาหาผลประโยชน์
กฎหมาย อบจ. มีหลักการว่า ให้ยกเลิกความใน (3) ของวรรคหนึ่งในมาตรา 44/3 แห่งพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ 3) และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"(3) เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญาหรือกิจการที่กระทำหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนั้น หรือมีส่วนได้เสียในสัญญาหรือกิจการที่กระทำหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น โดยมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าเป็นการต่างตอบแทนหรือเอื้อประโยชน์ส่วนตนระหว่างกัน ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม"
เช่นเดียวกับ กฎหมายเทศบาล หรือ พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล กำหนดไว้เช่นกัน
ทั้งนี้ การแก้ไขเพิ่มเติม (3) ส่งผลให้นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยสมาชิกสภาท้องถิ่น ต้องห้ามเป็นคู่สัญญา หรือมีส่วนได้เสียในสัญญากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ในลักษณะต่างตอบแทนหรือเอื้อประโยชน์แก่กัน ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
"โดยห้ามบุคคลที่เคยล้มละลาย เคยพัวพันการทุจริต มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับตำแหน่ง ทั้งการรับเหมา การมีกิจการค้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ จัดจ้างทุกรูปแบบ"
อีกประเด็นใหม่ "ให้ถือเขตหมู่บ้านเป็นเขตเลือกตั้ง" คือ ให้มีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล เขตเลือกตั้งละ 1 คน
กฎหมาย แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับจำนวนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบลให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมการสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภา อบต. การพ้นจากตำแหน่งนายก อบต.และ รองนายกอบต. รวมทั้งการกระทำอันเป็นการต้องห้ามของนายกอบต. รองนายกอบต. และเลขานุการนายก อบต. และสมาชิกสภาอบต.
ตามมาตรา 45 สภา อบต. ประกอบด้วยสมาชิกเขตเลือกตั้งละ 1 คน ซึ่งเลือกตั้งโดยราษฎรผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในแต่ละเขตเลือกตั้ง ในเขต อบต.นั้น
ให้ถือเขตหมู่บ้านเป็นเขตเลือกตั้ง เว้นแต่หมู่บ้านใด มีราษฎรตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร์ไม่ถึง 25 คน ให้รวมหมู่บ้านนั้นกับหมู่บ้านที่มีพื้นที่ติดต่อกันและเมื่อรวมกันแล้วจะมีราษฎรถึง 25 คน เป็นเขตเลือกตั้งเดียวกัน การนับจำนวราษฎรดังกล่าวให้นับ ณ วันที่ 1 ม.ค. ของปีที่มีการเลือกตั้ง
การรวมหมู่บ้านเป็นเขตเลือกตั้ง ตามวรรคอง ให้นายอำเภอเป็นผู้ดำเนินการและประกาศให้ประชาชนทราบภายในวันที่ 31 ม.ค. ของปีที่มีการเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นกรณีที่มีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง หรือมีการเลือกตั้งภายในเดือนมกราคม ให้ถือเขตเลือกตั้งที่ได้ประกาศไว้ในการเลือกตั้งสุดท้าย
เรื่องของ "อายุบุคคลผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง"
พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2562 "มาตรา 35/1 บุคคลผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น และต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(1) มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีนับถึงวันเลือกตั้ง (2) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี หรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา"
เช่นเดียวกับ พ.ร.บ.เทศบาล (ฉบับ 14) พ.ศ. 2562 " มาตรา 48 เบญจ และ พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับ 7) พ.ศ. 2562 "มาตรา 58/1 ที่กำหนดไว้ 35 ปี
ทั้งหมดนี้ เป็นตัวอย่างของกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น ที่มีการประกาศไว้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทย ยังเคยมีเสนอ "มาตรการบังคับใช้กฎหมาย" กรณีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่น มีพฤติกรรมในทางทุจริต เช่น กำหนดให้ ผู้ว่าราชการจังหวัด สอบสวน และวินิจฉัยโดยเร็ว แม้สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่นผู้นั้น จะพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด หากมีผลสอบว่าผิดจริงต้องดำเนินคดีถึงที่สุด และมีผลย้อนหลัง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท-2 แสนบาท และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่กำกับ อปท. กลับยังไม่มีความเห็นในประเด็นนี้ ประกอบกับ แนวโน้มที่จะจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นปี 2562 นี้ ไม่น่ามีความเป็นไปได้ เพราะไม่เพียงต้องแก้ไข ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับเลือกตั้งท้องถิ่นหลายเรื่อง ยังต้องดำเนินการอีกหลายขึ้นตอน และที่ทราบกันวงในท้องถิ่น ก็จะมีพระราชพิธีสำคัญ ๆ ในปีนี้ การเลือกตั้งท้องถิ่นปี 2562 นี้ จึงยังไม่น่าจะเกิดขึ้น
โดยเฉพาะ ร่างประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในหลายประเด็น "ที่อยู่ระหว่างการยกร่าง" ยังจะต้องมีการแก้ไขให้เป็นปัจจุบัน เช่น การปรับโครงสร้างเทศบาลตําบล เทศบาลเมือง และเทศบาลนคร รวมทั้งการยกฐานะของอบต. จนนำมาสู่ข่าวลืบ "ยุบ อบต." หรือ ประเด็นที่ตีความว่า จะมีการสั่งปลดนายก อปท. และให้ ปลัด อปท. เป็นผู้รักษาการแทน ซึ่ง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพิ่งจะออกมาสยบข่าวลือเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ไม่เป็นความจริง.