ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - นับเป็นความสูญเสียทรัพยากรบุคคลอันมีค่ายิ่งของประเทศอีกครั้ง สำหรับการจากไปของ “วีรชัย พลาศรัย” เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำ สหรัฐอเมริกา ผู้ซึ่งคนไทยทั้งประเทศยังคงจดจำวีรกรรมและผลงานของเขาประทับไว้ในหัวใจอย่างไม่มีวันลืมเลือน
โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวน้าทีมกฎหมายฝ่ายไทยในการต่อสู้ “คดีเขาพระวิหาร” กับฝ่ายกัมพูชาในศาลโลกเมื่อปี พ.ศ.2556 ทำให้ไทยไม่ต้องเสียพื้นที่รอบปราสาทเขาพระวิหาร จำนวนเนื้อที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ตามคำขอของกัมพูชา และได้รับการขนานนามว่า “ฮีโร่เขาพระวิหาร”
“ผมไม่ได้เป็นฮีโร่ ผมเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ทำงานที่ตัวเองต้องทำก็แค่นั้นล่ะครับ ทำหน้าที่ของเรา”นั่นคือคำกล่าวของทูตวีรชัยที่มีต่อประชาชนที่เดินทางมารอรับหลังคดีปราสาทเขาพระวิหารจบสิ้นลงและเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมาก
การจากไปของ “ทูตวีรชัย” หรือ “ทูตแสบ” ในวัย 58 ปี ถือเป็นการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรและสร้างความเศร้าเสียใจให้กับเพื่อนพ้องน้องพี่และประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดย “สาเหตุ” การป่วยและการเสียชีวิตของ “ทูตวีรชัย” นั้น เป็นผลมาจาก “มะเร็งในไขกระดูก (MDS)” ซึ่ง “ทูตวีรชัย” ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจอห์น ฮอปกินส์ (The Johns Hopkins Hospital) เมืองบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ และมีอาการทรุดลงเรื่อยๆ แม้จะทำคีโมไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ก็ยังไม่เป็นผล รวมทั้งไม่ตอบสนองต่อยารักษา กระทั่งเสียชีวิตลงอย่างสงบ เมื่อเวลา 00.43 น. กรุงวอชิงตัน ซึ่งตรงกับเวลา 11.43 น.ของวันที่ 16 มีนาคมในประเทศไทย
“แสบเป็นผู้ที่รักในกีฬามวยไทยเป็นชีวิตจิตใจ จำได้ว่าสมัยเรียนอยู่ที่สาธิตจุฬาฯ ในช่วงพักกลางวันพวกเราจะจัดกลุ่มเล่นชกมวยไทยกันอย่างสนุกสนาน (แอ็กชันทำท่าแม่ไม้มวยไทยชกกันมากกว่าจะใช้พละกำลังห้ำหั่นกันจริงๆ) โดยแสบมักจะตั้งตนเป็นโปรโมเตอร์ใหญ่ คอยจัดคู่นักชกแต่ละคู่อย่างได้อารมณ์ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีชื่อเรียกตามชื่อนักมวยที่โด่งดังในสมัยนั้น อาทิ ผุดผาดน้อย วรวุฒิ, วิชาญน้อย พรทวี, ทรงเกียรติ เกียรติประชาราษฎร์, เดวิด อมรรัตน์ ฯลฯ เป็นต้น แสบเป็นชื่อที่พวกเราชาวสาธิตจุฬาฯ รุ่น ๑๒ ขนานนามให้แก่ท่านตามชื่อของนักมวยไทยสากลคนดัง ไอ้แสบ-แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ แสบ ซึ่งน้อยคนนักจะรู้ว่าชื่อของท่านมีที่ไปที่มาอย่างไร”
“แม้แสบจะจากพวกเราไปในเวลาอันรวดเร็วกว่าที่ควรจะเป็น แต่ด้วยคุณประโยชน์และคุณงามความดีที่แสบได้กระทำไว้ให้แก่ประเทศชาติและรักษาแผ่นดินไว้ให้แก่ลูกหลานไทยทุกคน แสบจึงจากไปด้วยความอาลัยของพวกเราและคนไทยแทบทั้งแผ่นดิน และจะอยู่ในหัวใจของพวกเราและคนไทยตลอดไป ขอให้บุญกุศลและคุณงามความดีที่ได้สั่งสมมาหรือได้ประกอบในชาตินี้ จงเป็นเสมือนพลังปัจจัยและพลังกุศลอันยิ่งใหญ่ ที่ช่วยส่งดวงวิญญาณไปสู่สุคติในสัมปรายภพด้วยเทอญ.” เพื่อนๆ สาธิตจุฬาฯ รุ่น 12 ของทูตแสบกล่าวแสดงความอาลัย พร้อมบอกเล่าที่มาของชื่อ “แสบ” ที่หลายคนอาจยังไม่รู้
ตลอดระยะเวลา 32 ปี ที่รับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ “ทูตวีรชัย” ถือเป็นนักการทูตมือหนึ่งที่วงการทูตทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างยอมรับในฝีมือการเจรจาของเขา ซึ่งนอกจากจะเก่งด้านภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสแล้วยังมีความรู้ด้านกฎหมายระหว่างประเทศเป็นอย่างดี
ยกตัวอย่างเช่น อเล็กซานเดอร์ เฟลด์แมน (AlexanderFeldman) ประธานและผู้บริหารของสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US-ASEAN Business Council) ที่บอกว่า “ผมประทับใจและยังจดจำแนวทาง การทูตแบบร็อกแอนด์โรลล์ ของทูตวีรชัย ที่ใช้ความสามารถทางดนตรีเป็นแรงผลักดันเชื่อมให้ผู้คนได้เข้าถึงกัน ผมขอแสดงความเสียใจในความสูญเสียเพื่อนที่แสนพิเศษของสภาธุรกิจสหรัฐฯไปอย่างน่าเสียดาย”
เช่นเกียวกับอีกหนึ่งผลงานสำคัญที่หลายคนอาจยังไม่รู้ นั่นก็คือความสำเร็จในฐานะ “หัวหน้าคณะเจรจาในการปลดใบเหลือง IUU กับสหภาพยุโรป” โดยมีหน้าที่เจรจากับหัวคณะทำงานฝ่ายสหภาพยุโรป และเจรจากับคณะสมาชิกรัฐสภายุโรป รวมทั้งต้องเดินสายทำความเข้าใจกับกลุ่ม NGO ต่างๆ ที่กล่าวหาเรื่อง การทำประมงของไทยผิดกฎหมายและเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ จนที่สุดไทยก็ได้รับการปลดใบเหลืองเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ดังนั้น แม้วันนี้ “ทูตวีรชัย” จะจากไปแล้ว แต่เชื่อเหลือเกินว่า คุณงามความดีและผลงานที่ได้ทำไว้จะทำให้ชื่อของ “ทูตวีรชัย” ไม่เลือนไปจากหัวใจของประชาชนชาวไทยอย่างแน่นอน.