xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

สรุปแล้ว!คดีภาษีป้ายปั๊มน้ำมัน43ล้าน ระหว่าง"กทม.-ปตท."ใคร?ชนะ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -หลังจากมีคดีความต่อเนื่อง ในเรื่อง"การประเมินภาษีป้าย"รายบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยังคาราคาซังมากกว่า 5 ปี และเมื่อปีที่แล้ว ฝ่ายบริหาร กทม.ต้องมีคำสั่ง ให้ทุกสำนักงานเขต ชะลอการเก็บภาษีย้อนหลัง 5 ปีไปก่อน

ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กทม. โดย "สำนักการคลัง" มีหนังสือเวียนไปยัง 50 ผู้อำนวยการเขต แจ้งผลคดีรายบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีใจความว่า ตาม ที่สำนักการคลังได้มีหนังสือที่ กท 1302/1559 ลงวันที่ 9 มี.ค.58 , หนังสือที่ กท 1302/1039 ลงวันที่ 27 เม.ย.59 และ หนังสือที่ กท 1302/1799 ลงวันที่ 10 มี.ค.60 แจ้งให้ ทุกสำนักงานเขต ชะลอการประเมินภาษีป้าย รายบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ภาษี 2558-2560 ไว้จนกว่าจะมีข้อยุติ กรณี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ชำระค่าภาษีป้าย ปีภาษี 2556-2557 และได้ส่งเอกสารหลักฐาน ให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินการ ตามมติครม. เพื่อให้กรุงเทพมหานคร คืนเงินค่าภาษีป้ายที่ได้ชำระไว้แล้ว นั้น

ต้นปี 2562 สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.)ได้มีหนังสือแจ้งมติ "คณะกรรมการพิจารณาผู้ขาดการยุติในการดำเนินคติแพ่ง" ของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กยพ.) ว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ยังคงได้รับสิทธิในการยกเว้นการเสืยภาษีป้ายที่พิพาท ตามพ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. 2510 มาตรา 8 (7) จึงไม่มีหนัาที่ต้องเสืยภาษีป้าย และมีสิทธิได้รับเงินค่าภาษีป้ายที่ได้ชำระแล้วคืน ตามพ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. 2510 มาตรา 24 

"จึงตัดสิน ชี้ขาดให้กรุงเทพมหานคร คืนเงินค่าภาษีป้ายให้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งครม.ได้มีมติรับทราบผลการพิจารณาข้อพิพาทด้งกล่าวแล้ว ข้อพิพาทดังกล่าวเป็นอันยุติ"

กรุงเทพมหานคร จึงต้องปฏิบัติตาม มติคณะกรรมการพิจารณาผู้ชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กยพ.) และมติครม. กรณีนี้ "ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร" (นายสมภาคย์ สุขอนันต์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการ- กรุงเทพมหานคร) ได้รับทราบผลคำตัดสินชี้ขาด และสั่งการให้สำนักงานเขต ถือปฏฎิบัติ

ย้อนรอยไปดูคดีนี้ เป็นมาอย่างไร สำนักงานอัยการสูงสุด มีหนังสือเลขที่ อส 0020/9937 ลงวันที่ 10 ก.ย.61 ถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เพื่อชี้แจงผลการพิจารณาของ คณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กยพ.) กรณี กทม. ขอให้พิจารณาทบทวนคำตัดสินชี้ขาดราย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ใหม่อีกรอบ กรณีเคยชี้ขาดให้บริษัท ปตท. ได้รับสิทธิในการยกเว้นการเสียภาษีป้ายสถานประกอบการ“ปั๊มน้ำมัน”ในสังกัดของ บริษัท ปตท. ในพื้นที่กทม.

ทั้งนี้ อสส.ได้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ กยพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาหนังสือของกทม.แล้ว โดยผลการประชุมคณะกรรมการกยพ. และหน่วยงานที่เกียวข้อง ครั้งที่ 5/2560(22 มิ.ย.60) วาระที่ 3.5 ที่ประชุมมีมติว่า ประเด็นที่มีการขอให้ทบทวนเป็นข้อเท็จจริงเดิมที่ได้มีการพิจารณาวินิจฉัย ชี้ขาดโดยคณะกรรมการ กยพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใหม่ นอกเหนือจากที่ได้นำเสนอคณะกรรมการ กยพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณามาแล้ว และไม่มีเหตุผลอันสมควรที่มิได้ขอมาในครั้งแรก จึงไม่อาจทบทวนคำวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าวได้อีก

ก่อนหน้านั้น (8 ก.พ.59) กทม. ได้มีหนังสือถึง อสส. ขอให้คณะกรรมการกยพ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาทบทวนคำตัดสินชี้ขาดเดิมอีกครั้ง ภายหลัง อสส.ได้แจ้งมติ คณะกรรมการ กยพ. ที่ได้ตัดสินชี้ขาดข้อพิพาทระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับ กทม. ว่า บริษัท ปตท.ได้รับสิทธิในการยกเว้นการเสียภาษีป้ายที่พิพาท ตามพ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ.2510 มาตรา 8 (7) 

และให้ กทม. คืนเงินค่าภาษีป้ายให้แก่ บริษัท ปตท. ตามรายงานการประชุมฯ ปี56 รวม 42 เรื่อง เรียกให้คืนภาษีป้ายประจำปีภาษี 50-54 เป็นเงิน 40,158,550 บาท และรายงานการประชุมปี 58 จำนวน 41 เรื่อง เรียกให้คืนภาษีป้ายประจำปีภาษี 52- 56 จำนวน 3,056,580.50 บาท รวมทั้งสิ้น 43,245,136.50 บาท ซึ่งมติคณะกรรมการ กยพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องข้างต้น และ ครม. (12 ธ.ค.49) ได้รับทราบแล้ว จึงขอให้ กทม.ถือปฏิบัติ

อย่างไรก็ตาม กทม.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัท ปตท.ไม่ได้รับการยกเวันการเสียภาษีป้าย ตามมาตรา 8(7) แห่งพ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. 2510 ซึ่ง รมว.มหาดไทย (ขณะนั้น) ในฐานะ ผู้รักษาการตามพ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. 2510 และอัยการสูงสุด (นายอรรถพล ใหญ่สว่าง) ในฐานะ กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการ กยพ. (ในขณะนั้น) และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชุมครั้งที่ 2/2558 (20 มี.ค.58) พิจารณาเอาไว้ 

"พิจารณาแล้ว มีความเห็นสอดคล้องกันว่า บริษัท ปตท. ไม่ได้รับยกเว้นการเสียภาษีป้าย ตามมาตรา 8(7) แห่ง พ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. 2510 กับทั้งกรณีที่ บริษัท ปตท. มิได้อุทธรณ์คัดค้านการประเมินภาษีป้าย ต่อผู้ว่าฯกทม. ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมินภาษี จึงไม่สามารถใช้สิทธิฟ้องคดีเรียกค่าภาษีป้ายจาก กทม.ได้ จึงไม่มีสิทธิ ขอให้กทม. คืนเงินค่าภาษีป้าย" รายงานการประชุมครั้งที่ 2/2558 (20 มี.ค.58) ระบุ

หนังสือขอให้พิจารณาใหม่ ระบุด้วยว่า การที่คณะกรรมการ กยพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้ขาดให้ บริษัท ปตท. ยังคงได้รับสิทธิในการยกเว้นการเสียภาษีป้าย ตามมาตรา 8 (7) แห่ง พ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. 2510 จึงไม่ถูกต้อง และยังคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย รวมทั้งกรณีที่บริษัท ปตท.ไม่ได้อุทธรณ์ การประเมินของพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ๋งมีข้อเท็จจริงอย่างเดียวกัน แต่คณะกรรมการ กยพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา และตัดสินชี้ขาดแตกต่างกัน จึงขอให้พิจารณาใหม่

หลังจากมีหนังสือจาก อสส. ล่าสุด กทม.มีหนังสือถึงทุกสำนักงานเขต ให้ดำเนินการตรวจสอบการชำระค่าภาษีป้าย ในรายบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รวมทั้งปีภาษีอื่น หากตรวจสอบพบว่ามีการชำระค่าภาษีป้ายกรณีดังกล่าว ขอให้ส่งสำเนาใบเสร็จรับเงิน ที่สำนักงานเขตได้รับชำระค่าภาษีป้ายไว้แล้วเพื่อให้กองรายได้ สำนักการคลัง กทม. ดำเนินการคืนค่าภาษีต่อไป ภายหลังที่ก่อนหน้านั้นมีคำสั่งให้ สำนักงานเขตชะลอการประเมินป้ายภาษี ปีภาษี 2558/2559 และ 2560 ไว้ก่อน เพื่อรอคำตัดสินของคณะกรรมการ กยพ.
 
ล่าสุด คำตัดสินของคณะกรรมการ กยพ. ออกมาแล้ว คือกทม. ต้องคืนเงินค่าภาษีป้าย ปี50-56 ให้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จำนวน 43,245,136.50 บาท และยังคงได้รับสิทธิในการยกเว้นการเสียภาษีป้ายที่พิพาท ตามพ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. 2510 มาตรา 8 (7) จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีป้าย




กำลังโหลดความคิดเห็น