xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ทักษิณ ชินวัตร ต้นแบบพาสปอร์ตทองคำ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"ฝั่งขวาเจ้าพระยา"
"โชกุน"

คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) เผยแพร่รายงานเรียกร้องให้ชาติสมาชิกจำกัดการให้สัญชาติหรือสิทธิผู้พักอาศัยแก่ชาวต่างชาติที่มีฐานะร่ำรวย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจีน, รัสเซีย และอเมริกัน เพื่อแลกกับเงินลงทุน

เนื้อหาในรายงานฉบับนี้ระบุว่า โครงการลักษณะนี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงหลายประการ ทั้งในด้านความมั่นคง, การฟอกเงิน หรือแม้แต่การเลี่ยงภาษี ซึ่งหากชาติสมาชิกไม่เข้มงวดกฎเกณฑ์และมีความโปร่งใสมากขึ้น คณะกรรมาธิการก็จะดำเนินการถ้าจำเป็น

รายงานพบว่า มหาเศรษฐีที่ยื่นขอสิทธิพักอาศัยและความเป็นพลเมืองของประเทศเหล่านี้ไม่ได้ถูกตรวจสอบความปลอดภัยหรือปูมหลังอย่างเพียงพอ ที่จะป้องกันไม่ให้พวกเขาเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงหรือฟอกเงิน

องค์กรเอกชนหลายแห่งเคยยกกรณีของหลายประเทศที่ให้สัญชาติแก่ชาวต่างชาติที่ร่ำรวย เช่น มอลตา, ไซปรัส และบัลแกเรีย ซึ่งทำให้คนเหล่านี้สามารถเดินทางได้อย่างเสรีภายในดินแดนเกือบทั้งหมดของอียูที่มีสมาชิก 28 ประเทศ นอกจากนั้น ยังมีประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศที่ให้สิทธิพักอาศัยแก่นักลงทุนต่างชาติ

เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว องค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติจากกรุงเบอร์ลิน และองค์กรโกลบอลวิตเนสจากรุงลอนดอน เคยกล่าวไว้ในรายงานชื่อ "หนีรอดในยุโรป : ภายในโลกอันคลุมเครือของวีซ่าทอง" ว่าการให้สัญชาติหรือสิทธิพักอาศัยในอียูนั้นเป็นเหมือนกับสินค้าฟุ่มเฟือยที่เงินสามารถซื้อหาได้ และโครงการวีซ่าทองนี้เป็นโอกาสที่ดึงดูดใจสำหรับพวกอาชญากรและพวกคอร์รัปชัน

รายงานฉบับนี้กล่าวว่า ชาติสมาชิกอียูหลายประเทศได้ออกพาสปอร์ตแก่บุคคลแล้วราว 6,000 คน และให้สิทธิพักอาศัยแก่บุคคลราว 100,000 คน ภายใต้โครงการเหล่านี้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยได้เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติตอบแทนกลับมาราว 25,000 ล้านยูโร

มีชาติสมาชิกอียู 4 ชาติ ได้แก่ ออสเตรีย, บัลแกเรีย, ไซปรัส และมอลตา ที่ "ขาย" หนังสือเดินทางของตนแก่นักลงทุนต่างชาติที่มั่งคั่ง ส่วนอีก 12 ประเทศให้เป็นสิทธิพักอาศัย

มอนเตเนโกร ไม่ได้ถูกเอ่ยถึงในรายงานนี้ เพราะว่า ไม่ได้เป็นสมาชิกอียู แต่มอนเตเนโกร เป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่ขายสิทธิความเป็นพลเมือง ขายวีซ่า ให้กับอาชญากร นักการเมืองคอร์รัปชั่น ที่หนีคดีในบ้านเกิดไปพักอาศัยในต่างแดน โดยมีลูกค้ารายแรกคือ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถือว่า เป็นต้นแบบ การซื้อพาสปอร์ต ให้นักการเมืองขี้โกงชาติอื่นๆทำตาม

บทความชิ้นหนึงในเดือนมีนาคม ปีที่แล้ว บทเว็บไซต์ ของ OCCRP (The Organized Crime and Corruption Repoeting Project ) ซึ่งใช้สื่อเป็นอาวุธ ต่อต้านองค์กรอาชญากรรม และคอร์รัปชั่น ระบุว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นชาวมอนเตรเนโกร “ใหม่” ที่ดังที่สุด ทักษิณได้ สิทธิความเป็นพลเมืองมอนเตเนโกร พร้อมกับพาสปอร์ต ในปี 2010 ตอนนั้น มอนเตเนโกรยังไม่มีโครงการ วีซ่า และพาสปอร์ต ทองคำเลย

ถือว่า ทักษิณ เป็นผู้บุกเบิก การซื้อพาสปอร์ตของโลกก็ได้

ทักษิณ ต้องฝากเงิน 15 ล้านยูโร กับ ธนาคาร First Bank of Montenegro แลกกับการเป็นชาวมอนเตรเนโก ธนาคารนี้เป็นของ Aco Djukanovic น้องชายของนายกรัฐมนตรีมอนเตรเนโกร ในขณะนั้น Milo Djukanovic ซึ่งกำลังมีปัญหาสภาพคล่อง

สิทธิการเป็นพลเมืองมอนเตรเนโกรของทักษิณ ยังต้องแลกมาด้วย เงินลงทุน 24 ล้านยูโร ซื้อที่ดินขนาดเท่าสนามฟุตบอล 4 สนาม บนเกาะเซ็นต์ นิโคล่า ในปี2017 จาก เพื่อสนิทของMilo Djukanovic ชื่อ Stanko Cane Subotic ซึ่งกู้เงินจาก First Bank of Montenegro มาซื้อที่ดินผืนนี้ เมื่อปี 2007

นอกจากการใช้เงินก้อนใหญ่กรุยทางแล้ว ไม่มีข้อมูลว่า ทักษิณ มีคุณงามความดี หรือมีความสามารถพิเศษ ใดๆอันจะเป็นประโยชน์ต่อมอนเตเนรโก ที่คุ๋ควรกับ การเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์

นอกจากทักษิณแล้ว ยังมีโมฮัมเหม็ด ดาห์ลาน อดีตรัฐมนตรีความมั่นคง ของปาเลสไตน์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่า ยักยอกเงินหลวง ที่ได้เป็น พลเมืองกิติตมศักดิ์ ของ มอนเตเนโกร อีกคนหนึ่งคือ Wei Seng Phua ชาวมาเลเซีย เชื้อชาตีจีน เจ้าชองบ่อนพนันในฮ่องกง เมลเบิร์น ลาสเวกัส ลอนดอน และมอนเตเนรโก ซึ่งกระทวงยุติธรรม สหรัฐฯ กล่าวหาว่า เป็นหนึ่งในสมาชิกระดับสูงของ เครือข่ายอาชญากรรมฮ่องกง แก๊งค์ 14 เค

รายงานของอียู ฉบับนี้ ถือว่าเป็นท่าที่ที่จริงจังครั้งแรก ต่อ ปัญหา การขายพาสสปอร์ต และวีซ่า แลกกับเงินลงทุน มอนเตรเนโกร อยู่ระหว่างการรอเข้าเป็นสมาชิก อียูเต็มตัวในปี 2025 ดังนั้น จึงต้องทบทวนนโยบายขายพาสปอร์ต เสียใหม่
ไม่รู้ว่า เป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่า ที่ทำให้น้องสาวทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นนักการเมืองหนีคดีจากประเทศไทย ต้องใช้พาสปอร์ตกัมพูชา ปลอม


กำลังโหลดความคิดเห็น