ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - คดีอุกฉกรรจ์ “เทพ โซโล” สั่งเช็กบิลโจ๋เบี้ยวหนี้ยาเสพติด สั่ง 6 เดนมนุษย์ไลฟ์สดรุมกระทืบเด็กหนุ่ม วัย 17 ปี จนถึงแก่ความตายคาสนามบอลใน จ.ขอนแก่น แลกค่าจ้างเพียง 3,000 บาท แต่หากไลฟ์สดระหว่างลงมือให้เพิ่ม 5,000 บาท เกิดคำถามขึ้นในสังคม “มันเป็นใคร?” เหตุใดถึงมีพฤติกรรมอุกอาจเย้ยกฎหมายเช่นนี้
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการพบศพวัยรุ่นบริเวณสนามฟุตบอลของโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในพื้นที่ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2562 ต่อมา ทราบชื่อคือ “นายเรส” อายุ 17 ปี เป็นชาวบ้านตูม ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น
ลำดับเวลาไล่เรี่ยกัน ในโซเชียลฯ ปรากฎคลิปรุมทำร้ายชายหนุ่มที่มีลักษณะคล้ายผู้ตาย นำสู่การจับกุมกลุ่มคนร้ายซึ่งเป็นวัยรุ่นได้ทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย นายอรรถพล หรือ อาร์ตลาย ชัยสอน อายุ 22 ปี, นายมนตรี เนตรพล อายุ 23 ปี, นายจารุพงษ์ โคตรเสนาอายุ 19 ปี, นายเกียรติศักดิ์ เยี่ยมเวหา อายุ 23 ปี, นางสาวอาลิสา หรือ ฝน จันทมุด อายุ 22 ปี, นายอั๋น อายุ 16 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นชาว จ.ขอนแก่น ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา
ทั้งหมด สารภาพว่ารับงานตามใบสั่งของ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เทพบุตร โซโล (ขอนแก่น ทีมป๋า สำนักงานใหญ่)” โดยชนวนเหตุมาจากปมผู้ตาย “เบี้ยวเงินค่ายา” จำนวน 14,000 บาท พร้อมสารภาพอีกว่ากลุ่มของตนไม่เคยรู้จักกับ “นายเรส” ผู้ตาย เพียงได้รับการว่าจ้างจาก “เทพ โซโล” เท่านั้น
โดยพฤติกรรม “เทพ โซโล” โพสต์เฟซบุ๊กหาคนใจกล้าไปทำร้ายคนที่เบี้ยวค่ายาเสพติด โดยจะให้ค่าจ้าง 3,000 กับคนที่ทำงานสำเร็จ และจะจ่ายให้กับคนที่ทำงานสำเร็จพร้อมถ่ายคลิปแชร์ในโซเชียลหรือไลฟ์สด 5,000 บาท
ขณะที่กลุ่มผู้ต้องหาสารภาพว่า “พลั้งมือฆ่า” เพราะในตอนแรกตกลงกันว่างานนี้เพียงสั่งสอนเท่านั้น โดยออกอุบายให้ นายเรส ผู้ตาย มารับยาเพื่อไปจำหน่ายต่อ ก่อนจะร่วมกันลงมือทำร้ายร่างกายด้วยการเตะและใช้ท่อนไม้ฟาดเข้าที่บริเวณศีรษะ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
สำหรับกลุ่มผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนได้คุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น 5 คน และส่งฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น 1 คน พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังจากนี้เป็นดุลยพินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่
ส่วนผู้ใช้งานเฟซบุ๊ค “เทพ โซโล” ผู้อยู่เบื้องหลังคดีอุกฉกรรจ์ ยังอยู่ระหว่างการไล่ล่าจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นจากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวมีความเชื่อมโยงในเฟซบุ๊คที่เกี่ยวข้องกับ “เทพ โซโล” มีการโพสต์หาทีมงานค้ายานรกทางเฟซบุ๊กอย่างโจ๋งครึ้ม สร้างเครือข่ายนักค้ายาในลักษณะขายตรงเป็นขบวนการ
ล่อลวงให้คนหลงผิดเข้าร่วมค้ายานรกโดยเฉพาะเด็กและเยาวชน บอกรายละเอียดหากต้องการเข้าร่วมเป็นเอเย่นค้ายา ให้ส่งคลิปแนะนำนำตัว เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนหน้าบัตรประชาชน
พฤติกรรมของ “เทพ โซโล” จะแจกจ่ายยาไปยังเครือข่ายก่อน หากใครรับยาไปแล้ว “บิดยา” คือเบี้ยวไม่โอนเงินค่ายา จะมีการโพสต์เตือนให้รีบโอน หากไม่ทำตามข้อกำหนดข่มขู่เอาลมหายใจแทน หลังครบกำหนดก็จะโพสต์ภาพและข้อมูลเหยื่อประจาน พร้อมตั้งค่าหัว สั่งล่าไปเช็คบิล และหากใครสนใจรับงาน “เทพ โซโล” จะโอนเงินค่าจ้างให้ทันทีตามเรทที่ตั้งไว้ ใช้วิธีติดต่อกันผ่านทางข้อความทางเฟซบุ๊ก โดยมีข้อแม้ว่าต้องบันทึกวิดีโอการทำร้ายร่างกายเหยื่อและโพสต์ลงเฟซบุ๊กหรือไลฟ์สดเพื่อส่งงาน
ไม่เพียงคลิปคดีทำร้ายร่างกายนายเรส ภายในเฟซบุ๊ค “เทพ โซโล” ยังปรากฎคลิปทำร้ายร่างกายอีกหลายคลิป โดยจะโพสต์โชว์ให้เอเย่นทั้งหลายดูเป็นเยี่ยงอย่าง หากเบี้ยวค่ายาจะมีจุดจบอย่างไร เป็นการแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่ครอบคลุมในทุกพื้นที่
แม้ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้จักหรือเคยเห็นหน้าผู้อยู่เบื้องหลังชื่อ “เทพ โซโล” ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.ท.สุรชัย สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่าชุดสืบสวนกำลังสืบสวนแกะรอยหา “เทพ โซโล” มาสอบสวนดำเนินคดีซึ่งเข้าข่ายความผิดฐานเป็น “ผู้จ้างวาน” รวมทั้งจะสืบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายยาเสพติดที่เกี่ยวข้อง
ในทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กในชื่อ เทพบุตร โซโล หรือ เทพ โซโล น่าจะเป็นคนนอกพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติดหลายราย ต่างก็เป็นคนนอกพื้นที่ที่นำยาเสพติดมาขายใน จ.ขอนแก่น และหลายรายให้การที่ตรงกันว่ารับยาเสพติดมาขายตามคำสั่ง เทพ โซโล
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลเปิดเผยว่า “เทพ โซโล” มีความเกี่ยวพันกันแก๊งค้ายาเสพติด “เครือข่ายมันทุกเม็ด” ที่เคยถูกกวาดล้างมาแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนเฝ้าติดตามพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด “เครือข่ายมันทุกเม็ด” พบว่าซื้อขายกันผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยมีการแบ่งหน้าที่กัน เช่น กลุ่มผู้สั่งการระดับหัวหน้าที่หลบหนีอยู่นอกประเทศ ซึ่งกลุ่มที่มีหน้าที่ติดต่อผ่านเฟซบุ๊กเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมเครือข่ายค้ายาเสพติด โดยจะต้องถ่ายบัตรประชาชนให้ไว้เป็นหลักฐาน หากมีการเบี้ยวหรือไม่ส่งเงินให้กับเครือข่ายก็จะถูกติดตามไปทำร้ายร่างกาย แล้วถ่ายคลิป ประจานบนโซเชียลมีเดีย
กล่าวสำหรับ “เครือข่ายมันทุกเม็ด” ขยายตัวอย่างรวดเร็วและกระจายไปตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เป็นภัยคุกคามประเทศที่ร้ายแรงเป็นอย่างมาก โดยขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่นี้จะนำเงินสดไปฟอก ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการทำธุรกิจ เช่น เปิดร้านค้าจำหน่ายสินค้าอะไหล่รถยนต์ ยาง ล้อแม็ก หรือซื้อทรัพย์สินประเภทบ้านพัก รถยนต์ และที่ดิน และทรัพย์สินประเภทของมีค่า เช่น ทองคำ เพชร เป็นจำนวนมาก
“เครือข่ายมันทุกเม็ด” จะจำหน่ายยาเสพติดโดยใช้วิธีการเดียวกันกับการทำธุรกิจขายตรง ที่มีโฆษณาหาลูกค้าผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก หรือ ไลน์ พร้อมมีแม่ข่ายกระจายตัวอยู่ตามจังหวัดต่างๆ หากต้องการเข้าร่วมให้ส่งบัตรประชาชนพร้อมที่อยู่ปัจจุบันให้กับแม่ข่าย ก่อนให้รับยาเสพติดไปจำหน่าย และมีการเรียกเก็บภายหลัง แต่หากไม่จ่ายเงินจะมีชุดติดตามทวงหนี้ตามเช็กบิล
