xs
xsm
sm
md
lg

และแล้ว...ในที่สุด

เผยแพร่:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร


เป็นวันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม, อาทิตย์สุดท้ายของปี 2018 ที่กำลังจะจากไป ปธน.สีของจีนได้รับการติดต่อจากทำเนียบขาว ว่าทรัมป์จะสวัสดีปีใหม่ท่านผู้นำจีน

นับเป็นการเลือกโอกาสที่จะต่อโทรศัพท์ถึงอย่างไว้ฟอร์ม คือ โอกาสวันขึ้นปีใหม่ (ไม่ใช่ส่งคำอวยพรให้สุขสันต์วันคริสต์มาสด้วยซ้ำ เพราะผู้นำจีนไม่ใช่ชาวคริสต์) ซึ่งเป็นสากลที่สุด...แต่มีข้อสังเกตว่า ทรัมป์ไม่รอจนถึง 1 มกราคม แล้วค่อยต่อโทรศัพท์ เพราะเขาอยากส่งข้อความทวิตของเขาถึงการสนทนากับปธน.สีในครั้งนี้ ก่อนที่ตลาดทุนของสหรัฐฯ จะปิดส่งท้ายปีในวันจันทร์ และต่อด้วยสัปดาห์แรกของปีของตลาดวอลล์สตรีท ที่จำเป็นต้องแก้ไขไม่ให้ร่วงลงอย่างหนักเหมือนในสัปดาห์สุดท้ายของปีที่มีแต่ดิ่งๆๆๆ และกวาดเอาดัชนีที่ได้โตเอาๆ มาตลอดปี ร่วงไปอยู่เท่ากับตอนที่เริ่มเปิดปี 2018 ด้วยซ้ำ

ทรัมป์คุยมาตลอดปีว่า เขาทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตมากที่สุดในรอบ 50 ปี ทั้งการจ้างงาน, รายได้ประชาชน รวมทั้งดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ทั้งดาวโจนส์, แนสแด็ก, เอสแอนด์พี ขนาดไปคุยคำโตในสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในเดือนกันยาที่ผ่านมาว่า เขาเป็นประธานาธิบดีที่ดีเลิศประเสริฐศรีกว่าปธน.ทุกๆ คนของสหรัฐฯ ที่ผ่านมา (ไม่มีเสียงปรบมือกึกก้องใน UNGA มีแต่เสียงหัวร่อแบบขบขันและไม่เชื่อหูของคนฟัง...ที่ได้ยินคำพูดยกหางตัวเองได้อย่างทรัมป์)

ทรัมป์รู้ดีว่า ถ้าเขาทำให้ตลาดทุนมีแต่โตวันโตคืน จะทำให้เขาปลอดภัยในตำแหน่ง (ที่เขาอาจถูกถอดถอนหลังจากสภาล่างกลับมามี ส.ส.เดโมแครต ครองเสียงข้างมากตั้งแต่วันที่ 3 มกราคมนี้แหละ) เพราะกว่า 80% ของครัวเรือนอเมริกันมีรายรับจากการเล่นหุ้นในตลาดวอลล์สตรีท ผ่านการถือหน่วยลงทุน และเขาเคยขู่เอาไว้เลยว่า ถ้าเขาเป็นอะไรไป ตลาดทุนที่กำลังจะเดินหน้าทำลายสถิติตลอด 2018 จะฟุบ เป็นการขู่ชาวอเมริกันไม่ให้เห็นดีเห็นงามไปกับการพยายามสอบสวนอย่างเข้มข้นของอัยการพิเศษ โรเบิร์ต มัลเลอร์ เรื่องที่ทรัมป์และครอบครัว รวมทั้งทีมงานหาเสียงของเขา....ได้สมคบกับผู้นำรัสเซีย เพื่อให้รัสเซียช่วยแทรกแซงการเลือกตั้ง ปธน. เมื่อ 8 พฤศจิกายน 2016 ที่ได้ช่วยแฮกล้วงความลับของพรรคเดโมแครต (แบบเดียวกับที่อดีตปธน. Nixon ทำกับพรรคเดโมแครตที่แอบบุกเข้าล้วงตับพรรคเดโมแครตที่อาคารวอเตอร์เกต) รวมทั้งขบวนการที่รัสเซียปล่อยข่าวปลอมมายังผู้ลงคะแนนอเมริกัน ที่เป็นพวกยังไม่ตัดสินใจ เพื่อให้เกลียดฮิลลารี และชื่นชมทรัมป์ด้วยข้อมูลผิดๆ

ฉากการเจรจาทวิภาคีระหว่างทรัมป์และสีที่เมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา, ข้างๆ การประชุม G-20 ซึ่งทรัมป์ได้ออกข่าวว่า จะยืดเวลาการเริ่มขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนกว่าล้านดอลลาร์ ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2019 ยืดออกไป 90 วัน เพื่อให้มีการเจรจาต่อรองกันอีกครั้ง และถ้าไม่สำเร็จ, ก็จะเริ่มต้นเพิ่มภาษีในวันที่ 1 มีนาคม 2019

ข่าวนี้ทำเอาตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งปรี๊ด (หลังจากนิ่งๆ มาอยู่พักใหญ่...จากทรัมป์ประกาศจะขึ้นภาษี 1 มกรา กับสินค้าจีนมูลค่ากว่า 2 แสนล้าน) แต่พอวันรุ่งขึ้นก็ตกลงมาแรงมาก เพราะ CFO ของบริษัทหัวเว่ย ถูกควบคุมตัวที่แคนาดา เพื่อรอส่งตัวมาสหรัฐฯ

การต่อโทรศัพท์ไปอวยพรปีใหม่ของทรัมป์ ตามมาด้วยทวิตของเขาว่า มีความคืบหน้าอย่างมากในการเจรจาการค้า (ในกรอบ 90 วันที่ได้มีการประกาศเมื่อ 1 ธันวาที่บัวโนสไอเรส) ก็เพื่อปั่นตลาดหุ้นให้พองโตต่อไป ทั้งๆ ที่ทีมงานใหม่ของทรัมป์ที่จะส่งไปเจรจากับทีม (เก่า) ของจีน ยังไม่ได้เดินทางไปเริ่มเจรจาแต่อย่างใด และนี่ก็เหลือแค่ 60 วันเท่านั้น ก่อนวันที่ 1 มีนาคม

ทรัมป์ย่อมรู้ดีว่า สภาล่างจะเปลี่ยนเป็นของเดโมแครต ทำให้เขาต้องอวดศักดาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสภาใหม่ โดยขู่กรรโชกสภาล่างเก่าให้อนุมัติงบ 5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างกำแพงบางส่วน (ไม่ใช่กำแพงเมืองจีนที่สร้างเมื่อพันปีที่แล้ว) กั้นไม่ให้ผู้อพยพเดินทางเข้าสหรัฐฯ จากเม็กซิโก (จริงๆ งบจะสูงถึง 23,000 ล้านเหรียญ) ถ้างบไม่ผ่าน ที่ทำการรัฐบาลส่วนใหญ่จะต้องปิดทำการ (Shut Down) เพราะไม่มีงบจ่ายเงินเดือนข้าราชการ (และลูกจ้าง)...ซึ่งเป็นการปิดทำการก่อนวันคริสต์มาส 2-3 วัน ทำเอาข้าราชการต้องกระเป๋าแฟบ ไม่มีเงินไปจับจ่ายกินเลี้ยงฉลองคริสต์มาส และทรัมป์ออกแถลงการณ์ว่า นี่เป็นฝีมือเลวร้ายของฝ่ายเดโมแครต เพราะเดโมแครตยืนยันจะให้งบไปสร้างกำแพงแค่ 1,300 ล้านเหรียญ เพื่อให้งบชั่วคราวผ่านสภา และข้าราชการยังมีเงินไปฉลองคริสต์มาส-โดยไม่ต้องปิดที่ทำการรัฐบาล

ทรัมป์หัวเสียมาก เขาไม่ยอมลงนามเพื่อผ่านงบประมาณฉุกเฉินชั่วคราว และลงทุนยกเลิกการเดินทางไปพักผ่อนช่วงคริสต์มาสที่ทำเนียบขาวที่ 2 ที่ฟลอริดา (มา-อาลาโด้-คฤหาสน์ใหญ่โตบนรีสอร์ตของเขา)...และจริงๆ เขาได้ส่งรองปธน.เพนซ์ไปเจรจากับผู้นำเดโมแครต เพื่อของบสร้างกำแพง-จาก 5 พันล้าน-ลงมาเป็น 2,600 ล้าน ก็ไม่สำเร็จ

เดโมแครตรู้ดีว่าตัวเองกำลังเป็นต่อ แค่รอให้ 2-3 วันสภาล่างก็จะเป็นของเดโมแครต เลยหนักแน่นและบอกว่า ความจำเป็นเร่งด่วนของการสร้างกำแพง...ไม่เท่ากับพยายามเร่งด่วนอีกมากมายด้านอื่นๆ

การจำใจต้องต่อโทรศัพท์พูดกับสี ก็เป็นอีกวิธีการที่จะกลบข่าวร้ายต่างๆ ทั้งเรื่อง Shut Down, การลาออกของรมต.กลาโหม, การพยายามหาทางปลดผู้ว่าธนาคารกลาง-ที่ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยปลายปี และจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีหน้า และมีผลขนาดปลดรมต.คลัง Mnuchin จากหัวหน้าฝ่ายเจรจาการขึ้นภาษีสินค้าของจีน เพราะ Mnuchin เป็นผู้เสนอ Jerome Powell มารับหน้าที่ผู้ว่า Fed

และข่าวร้ายที่สุดที่เขาต้องการเบี่ยงเบนก็คือ สงครามการค้ากับจีน ที่ทรัมป์เป็นฝ่ายประกาศก่อน จนลุกลามถึงจับ CFO ของหัวเว่ย และนำมาสู่การโยกย้ายโรงงานออกจากสหรัฐฯ เพื่อไปผลิตสินค้าที่จะส่งเข้าจีนในประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนาม หรือในอเมริกาใต้ และยุโรปตะวันออก เป็นต้น

ในที่สุด ก็ต้องพลิกมาสร้างภาพที่ยังญาติดีกับจีน เพื่อสร้างบรรยากาศการค้าการลงทุนระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังไม่เลวร้ายเกินไป จากการโทรศัพท์ไปอวยพรปีใหม่ แต่มีสาระของการเจรจาทางการค้าเป็นเนื้อหาสำคัญ


กำลังโหลดความคิดเห็น