xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เปิดใจ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ไขความลับสายสัมพันธ์ “พี่เนวิน-นายทักษิณ”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ปี่กลองการเมืองดังขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีอะไรพลิกผัน “เลือกตั้งตามนัด” คนไทยจะได้เข้าคู่หาเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2562 และม้ามืดที่ไม่ควรมองข้ามในสนามเลือกตั้งในครั้งนี้ “พรรคภูมิใจไทย” พรรคอันดับ 3 จากการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็น “ตัวแปร” ที่มีนัยสำคัญทางการเมือง โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาล

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ฉบับนี้ จับเข่าคุย “เสี่ยหนู - อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ทั้งมุมมองต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังเข้มข้น การก้าวข้ามความขัดแย้งในสังคมไทย ตลอดจนการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ รวมทั้งความสัมพันธ์กับ “ทักษิณ ชินวัตร” และเส้นทางการเมืองที่ถูกปรามาสว่า ไม่พ้นเงาพี่ใหญ่อย่าง “เนวิน ชิดชอบ”

มุมมองของพรรคภูมิใจไทยต่อสถานการณ์การเมือง
การเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นภายในกรอบรัฐธรรมนูญของรัฐ ส่วนจะเป็นวันที่ 24 ก.พ. 2562ตามที่คนส่วนใหญ่ในชาติหวังเอาไว้หรือไม่ก็สุดแล้วแต่ครับ ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการเลือกตั้งจะต้องบริหารจัดการให้เป็นไปด้วยดี อย่างไรก็ตาม ภายใต้รัฐธรรมนูญยังมีกรอบระยะเวลาอีก ซึ่งเราคาดว่าต่อให้ไม่สามารถเลือกตั้ง 24 ก.พ. 2562 ก็ยังมีโอกาสที่เกิดขึ้นภายในไม่เกิน เดือน พ.ค. ผมได้เรียนในหลายๆ โอกาส ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบมีหน้าที่ดำเนินการให้มีการเลือกตั้งทั่วไปตามข้อบัญญัติของรัฐธรรมมนูญแล้ว เขาคงไม่พยายามที่จะทำอะไรที่เป็นการถ่วงหรือดึงเวลา หรือว่าไม่ให้เกิดการเลือกตั้งขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญสูงสุดของประเทศ เพราะภาระความรับผิดชอบเกินกว่าผู้หนึ่งผู้ใดหรือคณะใดจะรับผิดชอบต่อประเทศไหว ในมุมมองของหัวหน้าพรรคการเมือง ก็คือผู้ที่จะเข้าไปเล่นในกติกาที่กำหนดไว้แล้ว เราก็ให้กำลังใจ พร้อมที่จะเข้าไปแข่งขัน และพร้อมที่จะเล่นตามกติกาทุกอย่าง

หากประเมินความพร้อมของพรรคภูมิไทยเป็นตัวเลข
112 เปอร์เซ็นต์ (หัวเราะ) เขาให้เวลาเตรียมตัวมาตั้งจะเข้าปีที่ 5 อยู่แล้ว ผมมีความเชื่อมั่นอยู่ตลอดวันหนึ่งจะต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในประเทศไทย ไม่ช้าก็เร็ว เพราะฉะนั้นการเตรียมความพร้อมคือสิ่งจำเป็นต้องทำ คือการเมืองมีความสด คุณจะต้องลงพื้นที่พบปะชาวบ้านตลอดเวลา เพราะคุณบอกว่าคุณมาเป็นตัวแทนของชาวบ้านของราษฎร ไม่ใช่ว่าจะพบปะชาวบ้านต่อเมื่อถึงเวลาเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรถึงไปโผล่หาชาวบ้าน พรรคภูมิใจไทยมีประเพณี คนที่อยู่กับพรรคเรามาก็เป็นคนที่เรียกว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน มีชีวิตมีจิตวิญญาณที่หายใจเข้าหายใจออกเป็นประชาชนของเขา พรรคภูมิใจไทย ทุ่มเทเต็มที่ด้วยความเชื่อมั่นจะต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น

คุณอนุทินจะลงสมัครแบบเขตหรือแบบบัญชีรายชื่อ
ตามหลักคนที่เป็นหัวหน้าพรรคก็คงจะต้องลงบัญชีรายชื่อ เพราะได้มีเวลาไปช่วยลูกพรรคบรรดาผู้สมัครต่างๆ รณรงค์หาเสียง เดินทางร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำโดยที่ไม่ต้องไปกังวลถึงพื้นที่ของตัวเอง นี่คือสิ่งที่มันไม่ใช่ข้อบัญญัติแต่เป็นธรรมเนียมเหมาะสมที่จะทำ ผมก็ในฐานะหัวหน้าพรรค ผมก็คงเป็นปาร์ตี้ลิส ลำดับที่ 1 ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นครับ พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่เรามีวินัยต่อการทำงานทางการเมือง มีระเบียบข้อบังคับที่ชัดเจน อะไรก็ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ พูดง่ายๆ เราเป็นองค์กรที่ยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเอง ไม่มีอิทธิพล ทั้งจากภายในหรือภายนอกที่ไหนก็ตามมาบังคับกดดันให้เราต้องทำในสิ่งที่ขัดต่อหลักการของประชาธิปไตย ทุกอย่างอยู่ภายใต้การตัดสินใจของหัวหน้าพรรคโดยผ่านคณะกรรมการบริหารพรรคทุกท่าน มีความเป็นประชาธิปไตยด้วยตัวเองภายในพรรคอยู่แล้ว เป็นจุดยืนที่มั่นคงครับ
พรรคภูมิใจไทย ส่วนใหญ่ ส.ส. จะลงเหมือนกับว่าแทบจะมาร์กตัวกันไว้เลย เป็นอดีตผู้แทนที่มีความคุ้นเคยเป็นที่รู้จักศรัทธาของชาวบ้าน ผมจะถือเป็นความภูมิใจของผมมาก ถ้าคนของผมที่ลงสมัครเขตเดินเข้าสภาฯ ทุกคนและชนะเลือกตั้งในเขตของเขา โดยที่กินโควต้าของระบบบัญชีรายชื่อหมดเลย ใครจะถือว่าเป็นความล้มเหลว ผมถือว่าเป็นความสำเร็จของผมทางการเมือง ไม่ต้องมีความกังวลใดๆ ที่ต้องมานั่งกั๊กว่าคนนี้เข้าที่เท่าไหร่ คนนี้ใส่ไม่เต็มแมกซ์ ช่วยเบามือไว้บ้าง ทุกคนต้องสู้
ผมได้พูดกับบรรดาลูกพรรค ผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้าชิงตำแหน่งสมาชิกผู้แทนราษฎรตลอดเวลาว่า อย่าสนใจว่าเข้าไปแล้วจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เป้าหมายสูงสุดของการเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยในพรรคภูมิใจไทยก็คือตำแหน่งที่น่าภาคภูมิใจที่สุด ตำแหน่งที่จะต้องมีเกียรติที่สุด เป็น ส.ส. เท่านั้น อะไรนอกเหนือจากนั้นเป็นเรื่องที่เอาไว้ว่ากันหน้างาน ต้องเอาตัวเองเข้าไปเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทยในสภาผู้แทนราษฎรให้ได้ อันนี้คือความตั้งใจความมุ่งมั่นตั้งใจ เราอยู่ด้วยกันเหมือนญาติพี่น้อง เราอยู่ด้วยกันด้วยความเชื่อถือกัน เป้าหมายเดียวกัน เพราะฉะนั้นปัญหาเรื่องการย้ายพรรค การงอแง การต่อรอง ในพรรคภูมิใจไทย ไม่มีครับ

ผู้สมัครถือว่าลงตัวแล้ว
ค่อนข้างจะลงตัวโดยส่วนใหญ่ เราพยายามที่จะคัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติที่พร้อมที่สุด สิ่งที่ผมจะไม่ทำคือ สมมติว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะโน้มน้าวหรือเร้าให้บรรดาพรรคการเมืองต้องส่งทุกเขต แต่พรรคภูมิใจพยายามจะส่งทุกเขต แต่คนที่จะส่งต้องเป็นที่รู้จัก เป็นที่เชื่อถือของชาวบ้าน คงไม่ส่งนาย ก นาย ข ไปเพื่อประดับพื้นที่ ผมในฐานะหัวหน้าพรรค ผมโกหกพี่น้องประชาชนไม่ได้ หลอกพี่น้องประชาชนไม่ได้ ต่อให้เป็นคะะแนนเสียงเพียง 1 คะแนนที่มาลงให้พรรคภูมิใจไทย โดยที่รู้ว่าคนคนนี้ ไม่มีทางชนะเลย มันเท่ากับไปเอาเปรียบเขา ถ้าไม่ดีพอหรือไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะส่ง เราเปิดโอกาสให้พี่ประชาชนเลือกคนที่ดีพอมีโอกาสทำประโยชน์ให้เขาดีกว่า นี่คือความคิดความตั้งใจที่พรรคภูมิใจไทยจะทำ

พรรคภูมิใจไทยตั้งเป้ากี่คน
เป้าหมาย sky is limit เท่าไหร่ก็เท่านั้น สิ่งที่บอกตัวเอง สิ่งที่ได้ทำความเข้าใจกับพี่น้องสมาชิกพรรคภูมิใจไทยที่จะเข้าไปรณรงค์เลือกตั้งในที่นี้ก็คือว่าyou have given your allมีอะไรใส่ไปให้หมด จะได้ไม่ต้องมาอธิบาย สมมติคนนึงทำได้เท่านี้แหละ และก็ยอมรับผลของเขา “แพ้” แสดงว่าที่คุณมีทั้งหมดมันยังไม่พอ ปรับปรุงตัวเองใหม่แล้วก็รอเลือกตั้งงวดหน้า ซึ่งตรงนี้ภายในพรรคเนื่องจากไม่ได้เป็นพรรคที่ใหญ่มา เรารู้จักทุกองคาพยพของพรรค ซึ่งทำให้เราบอกตัวเอาเองว่า ถ้าแพ้ก็หมดทางสู้จริงๆ ไม่ต้องไปเสียใจ ไปปรับตัวเองให้แข็งแกร่งแล้วกลับมาสู้กันใหม่ เลือกตั้งครั้งนี้ใช่ว่าจะเป็นเลือกตั้งครั้งสุดท้ายของประเทศไทยเสียเมื่อไหร่

สถิติคำนวณคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. เขต ปี 2554 ที่นั่งพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้น จะพูดได้ไหมว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ดีไซน์มาเพื่อพรรคภูมิใจไทย
ถ้าไปใช้หลักฐานข้อมูลผลลัพธ์จากเลือกตั้งปี 2554 คิดออกมาแล้วว่าภูมิใจจะได้เท่านี้เท่านั้น ผมต้องเรียนว่าผมไม่เคยให้ความสำคัญตรงนี้เลย เพราะว่ามัน 8 ปีแล้ว การที่จะไปทำอะไรเพื่ออนาคตแล้วย้อนหลังโดยฐานต่างๆ ฐานทุน ต้นทุนต่างๆ ของพรรค คือต้นทุนไม่ใช่เรื่องเงินนะ แต่สถิติที่พรรคมีอยู่มันเมื่อ 8 ปีที่แล้วจะทำให้เราประมาท ผมคิดตลอดว่าวันนี้ยังสอบตกอยู่ ต้องทำให้ได้เหลืออีก 3 เดือน ต้องสอบให้ผ่าน วันนี้ยังสอบตกจะทำอย่างไรให้สอบให้ผ่าน ผมจะได้ไม่ต้องรู้สึกล้มเหลว ผมไม่เคยเซตว่าจะต้องได้เท่าไหร่ เพราะว่าถ้าผมเซตสูงและได้ต่ำกว่าผมก็รู้สึกว่าผมล้มเหลว ผมเซ็ตต่ำแล้วมันได้มากกว่าผมก็อาจจะเหลิงว่าผมประสบความสำเร็จ ผมต้องอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงเพราะว่ามันไม่มีใครพูดได้ คนที่พูดว่าได้เท่าไหร่ๆ ถ้าผมทำอย่างนั้นได้จริงผมก็คาดว่าผมได้ 350 ซึ่งมันจะเป็นการว่าผมหลอกตัวเอง อย่างที่บอก you have given your allมีเท่าไหร่เราทุ่มออกไปทุกองคาพยพที่มีอยู่ตัวเองแล้ว ไม่มีอะไรเหลือแล้ว ผลออกมาอย่างไรก็ต้องน้อมรับ ผลออกมายังไงก็ต้องดำเนินต่อเนื่องไปได้

โพสิชันหลังการเลือกตั้งซึ่งคนมองว่าเป็นพรรคตัวแปรหลัก
พรรคภูมิใจไทยตัดสินใจแล้วว่าจะไม่อยู่ในความขัดแย้ง ไม่ข้องแวะกับเกมการเมืองหรือความได้เปรียบเสียเปรียบของพรรคใดพรรคหนึ่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พรรคภูมิใจไทยตัดสินใจแล้วว่าผู้ที่สำคัญที่สุดของพรรคคือพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่จะทำให้พี่น้องประชาชนไว้วางใจ มอบหมายให้พรรคมาเป็นตัวแทนของพวกเขา เราต้องแสดงความสามารถว่าเราสามารถแก้ไขปัญหาปากท้องของพวกเขา เราสามารถดูแลทุกข์สุข ดูแลความกินดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชนได้ ในเรื่องที่เราสามารถทำได้เลย ไม่ใช่ไปพูดอะไรไปแล้วทำไม่ได้ ไปพูดให้เกิดความหวัง
เอาไว้รอวันที่อนุญาตให้ทำการเมืองเต็มตัว ประกาศนโยบายออกมา ผมการันตีเลยว่านโยยบาทุกข้อของภูมิใจไทยจะเป็นนโยบายที่จับต้องได้ เป็นนโยบายที่ทำสำเร็จได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เป็นนโยบายที่ตอบสนองประโยชน์และความต้องการของพี่น้องประชาชนคนไทยโดยรวม ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มนึง สาขาใดสาขาหนึ่ง เป็นนโยบายที่ต้องทำให้เสร็จในระยะเวลาอันรวดเร็ว ต้องทำเงื่อนไขที่ไม่ว่าเราจะไปรวมในบทบาทใดก็ตาม ต้องบอกว่าทุกองค์กรที่ร่วมจะต้องเคารพให้การยอมรับสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยให้สัญญากับพี่น้องประชาชนไว้ และเช่นเดียวกัน พรรคภูมิใจไทยจะเคารพสนับสนุนทุกพรรค ที่มีนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ช่วยกันหนุนสิ่งดีๆ ให้มันเกิดขึ้น ก็จะไม่มีปัจจัยลบใดๆ ที่จะมาทำร้ายประเทศไทย ทำร้ายประชาชนของประเทศไทย

พรรคใดชนะก็พร้อมประสานความสัมพันธ์ให้ก้าวพ้นความขัดแย้ง
ทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมดครับ คำถามว่าคิดว่าพรรคไหนจะมาที่ 1 ที่ 2 ก็ดีเหมือนกัน ที่ไม่มีใครพูดถึงพรรคภูมิใจไทยจะมาที่ 1 หรือ ที่ 2 คือผมต้องมาที่ 1 ให้ได้ เพื่อที่จะไม่ต้องมาตอบคำถามว่าผมจะไปร่วมกับใคร ผมจะต้องไปยอมรับเงื่อนไขใคร ผมก็อยากเป็นผู้กำหนดเหมือนกัน เวลาที่คิดอะไรที่มันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เรื่องของการอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชนแล้วเนี่ย มันไม่ต้องไปอธิบายอะไรมาก เพราะว่าไม่มีใครกล้าค้านการทำสิ่งใดๆ ที่เกิดผลดีต่อส่วนร่วมต่อประเทศชชาติ ก็มีความหวังครับ ยิ่งตอนนี้พรรคเยอะแยะไปหมด ก็อยากจะต่อสู้ให้มันหมดเรื่องหมดราวหมดปัญหาความกดดันหมดข้อกังขาว่าจะอยู่ฝั่งไหนๆ ตอนนี้เราตัดสินใจแล้วก็จะต่อสู้ให้เต็มที่แต่อยู่ในกติกา ต่อสู้เต็มที่เพื่อให้ได้รับความมั่นใจความเชื่อมั่นจากผู้บังคับบัญชาของเราก็คือพี่น้องประชาชน
ผลของการเลือกตั้งก็คือคำพิพากษาของประเทศนี้ ที่ผู้ที่จะมาเป็นผู้แทนของเขาผู้ที่เสนอตัวรับใช้เขาต้องปฏิบัติตามไม่มีทางอื่น ผมไม่ใช่ส่วนหนึ่งของความขัดแย้งใดๆ ผมไม่มีสิ่งใดที่ผมจะต้องเข้ามากลบหรือเข้ามาล้างสิ่งที่เราทำผิดในอดีตหรือเข้ามาปกปิดซ้อนเร้นใดๆ หรือเข้ามาแก้แค้นเช็กบิลใคร พรรคภูมิใจไทยไม่โกรธไม่แค้นใครให้จิตใจหมองนะครับ ดังเพลง “ฉันวันนี้ ใครว่าอย่างไรช่างเขา ตัวเราเองรู้ตัวเราดี” ผมประเภทศิลปินนิดหน่อย ฟังเพลงแล้วตรงไหนเข้าท่าก็พยายามดำเนินชีวตให้อยู่ในกรอบตรงนั้น ก็ทำให้มีความมั่นใจว่า ความตั้งใจของเราก็น่าจะบรรลุความสำเร็จ

พูดถึงพรรคภูมิใจพ้นเงา เนวิน ชิดชอบ หรือยัง
ความเป็นหัวหน้าพรรคมันชัดเจนอยู่แล้วว่าบอร์หนึ่งของพรรคคือใคร คนชื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล แต่ต้องยอมรับครับว่า.. ตอนที่ผมเข้าไปเป็นรัฐมนตรีใหม่ๆ คนที่แนะผม ต้องไปตามท่านนายกฯ ไปโน้นไปนี่ คนที่บอกให้ผมปฏิบัติให้ครบคือคนชื่อ เนวิน ชิดชอบ พี่น้องของท่านผมรู้จักหมด ผมก็คือน้องคนเล็ก นับกันเป็นญาติสนิท ไม่มีสิ่งที่ต้องปกปิด ถามว่าพอคนเราอายุ 50 กว่าปี แล้ว เวลาพูดคุยอะไรกันแต่ละคนมีวุฒิภาวะอย่างไร แนะในสิ่งที่ดีผมต้องฟัง ทักท้วงในสิ่งที่ผมกำลังไปผิดทางผมต้องฟัง ไม่มีอะไรที่เรียกว่าทำให้ผมมีความลำบากใจ ไม่เคยมาสั่งผม ไม่เคยมาบีบบังคับหรือกดดันผม
ผมกับคุนเนวินคบกันเป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่ทั้งน้อง เป็นคนที่ยอมรับซึ่งกันและกัน รู้ขอบเขตกันว่าได้แค่ไหน คบกันด้วยความเคารพในสิทธิของแต่ละคนก็เป็นความสัมพันธ์ที่น่ารักแซวหยอกกันบ้างแต่ไม่เคยโกรธกัน ในฐานะพี่ชายมีอิทธพลต่อผมมาก เพราะว่าเวลาผมเจอะไรตันๆ ทางการเมืองผมจะปรึกษาใครได้ นอกจากคนที่ผมไว้ใจที่สุดคนที่หวังดีที่สุดกับผมในการการเมือง แต่การตัดสินใจคำแนะนำของท่านไม่ว่าจะเป็น เนวิน ชิดชอบ หรือนักการเมืองอาวุโสในพรรคภูมิใจไทย ผมรับฟังหมดแต่คนที่ตัดสินใจว่าผมจะเดินต่อแนวทางนี้คือตัวผมเอง
และโชคดีที่ผมมีตักศิลาอยู่ด้านหลังผมเยอะแยะไปหมด ที่ผมจะเข้าไปขอคำแนะนำคำปรึกษาที่ดีที่มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง ผมถือว่านี่แหละข้อแข็งแกร่งของผม ให้ผมสามารถทำงานการเมืองได้โดยไม่เกิดความตึงเครียด และไม่ก้าวร้าว และไม่พยายามที่จะไปก่อให้เกิดความขัดแย้งการแตกความสามัคคี เพราะผมใช้ประสบการณ์จากตัวผมเองและคนที่ผมเคารพนับถือ

แล้วความสัมพันธ์กับทักษิณ ชินวัตร
ความสัมพันธ์กับทุกคนอย่างที่ผมบอกผมไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งของใคร การทะเลาะเบาะแว้งไม่มีใครทะเลาะกันและหาทางจบได้ ทุกครั้งที่จบโดยประสบการณ์ที่ผมมีมาจากทุกภาคส่วน ข้อสรุปที่ได้มาต้องมาจากการพูดคุยด้วยมิตรภาพ คนที่ขัดแย้งคุยกันไม่จบ และภูมิใจไทยตั้งใจที่จะขจัดความขัดแย้งเพื่อส่วนรวม สำหรับคุณทักษิณ ชินวัตร ท่านเคยเป็นนายกรัฐมนตรี เคยเป็นผู้บังคับบัญชาของผม เหมือนทุกคนที่เรียกใครว่า “นาย” ก็คือเป็นนายจนตายจากกันไป นั่นคือความเคารพความให้เกียรติ ผมเจอคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็เรียกท่านว่า “นาย” เจอท่านพินิจ จารุสมบัติ ก็เรียกท่านว่า “นาย” เช่นเดียวกัน แนะนำให้ใครก็รู้จักก็คนนี้นายผม ถึงแม้จะอยู่คนละพรรค ก็ถือว่าครั้งนึงในชีวิตเราเคยอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของท่าน ก็เป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน

วันนึงผมอาจต้องเรียกใครๆ ว่านายอีกเยอะ เพราะว่าวันนึงถ้าพรรคเราไปร่วมรัฐบาลใครมาเป็นนายกฯ คนนั้นก็คือนายของเรา ยกเว้นเราเป็นเองเขาก็เรียกเราว่า “นาย” ก็เป็นหลักโดยทั่วไปในการอยู่ร่วมกันในสังคม ถ้าเกิดเรารู้จักให้เกียรติซึ่งกันและกัน มันก็คงไม่มีใครโหดร้ายถึงขนาดทำร้ายคนที่ให้เกียรติกัน ผมพยายามทำตัวไม่ให้มีปัญหากับใคร และเวลาที่ผมต้องเลือก ผมไม่ได้เลือกว่าใครเป็นนาย ใครเป็นเพื่อนใครเป็นพี่ใครเป็นน้อง ผมเลือกประเทศไทย จบ! ผมเป็นคนไทยผมเลือกประชาชน ผมเลือกประเทศไทย ความเป็นพี่เป็นน้องเป็นอีกเรื่องนึง แต่ถ้าเอามาแลกประโยชน์ของประเทศ ความเจริญก้าวหน้าของประเทศ ผมเลือกประเทศก่อน

เล่าลือว่าคุณอนุทินเป็นโซ่ข้อกลางประสานรอยร้าว เนวิน ชินชอบ กับ ทักษิณ ชินวัตร ข้อเท็จจริงเป็นยังไง
ไม่มีครับ เราต้องรู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ เรื่องบางเรื่อง เราอุเบกขา บางทีไปบังคับให้คนดีกันนี่ลำบาก ไปๆ มาๆ คนที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดคือตัวเราคือคนกลาง บางทีเขาไม่ได้สั่งให้เราไปเป็นคนกลาง แต่ถ้าเขาบอก.. เบื่อแล้วที่จะมีปัญหากันไม่คุยกัน อายุก็มากแล้ว สมัยก่อนเคยรักกันชอบกันใช้กัน แต่ว่าจะให้ผมไปเริ่มก่อนเดี๋ยวเขาไม่ยอม เออ! คุณไปลองโยนหินถามทางเจรจาเบื้องต้อนก่อนสิ ถ้าอย่างนั้นผมทำ! แต่ไม่ขอรับผิดชอบต่อผลรับแต่จะเป็นสะพานเชื่อม เป็นกาวใจเป็นตัวเร่งเร้าให้คนมารักกัน เหมือนเพลง “หากไม่ดูเป็นการรบกวนก็จะชวนเธอมารักกัน ถูกใจกันมาตั้งนานรู้ไหม” ในทางการเมืองมันเริ่มจากการรักกัน มันมาขัดกันตอนทำงานเท่านั้นเอง พื้นฐานมันเริ่มจากการรักกันไม่ใช่การเกลียดกัน ไม่ยาก แต่ทั้งสองฝ่ายต้องยินดีที่จะกลับมารู้จักกันกลับมาทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง

ความเป็นไปได้ของฝ่ายการเมืองกับการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
รัฐบาลแห่งชาติมันผิดหลักการประชาธิปไตย ในหลังประชาธิปไตย ต้องมีฝ่ายบริหารและฝ่ายตรวจสอบ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีฝ่ายตรวจสอบนะครับ การที่เราเข้ามาแล้วประชาชนสั่งให้เข้ามาทำงาน แล้วไปรวมตัวเป็นรัฐบาลแห่งชาติ มันเท่ากับเป็นการดูถูกประชาชนเป็นการตบหน้าประชาชน นักการเมืองที่มีสำนึกความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง มีสำนึกถึงความไว้วางใจความศรัทธาที่ประชาชนมอบหมายให้มา จะไม่มีวันคิดเช่นนั้นเป็นอันขาด
รัฐบาลแห่งชาติไม่มีวันเกิดเพราะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็จะขอให้พรรคภูมิใจไทยมาเป็นฝ่ายค้าน อย่างน้อยหนึ่งพรรคเพื่อเป็นการค้านอำนาจถ้าทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ นี่คือตั้งใจความปราถนาดี ประเทศไทยจะไม่มีรัฐบาลแห่งชาติ อย่างน้อยพรรคภูมิใจหนึ่งพรรคไม่ทำให้ทำให้เกิดสิ่งนี้เกิด เพราะไม่คุ้มกับสิ่งที่จะต้องสูญเสีย

หลังเลือกตั้งความวุ่นวายจบไหม
ถ้ายอมรับต่อผลของการเลือกตั้งมันก็น่าจะจบ เลือกตั้งเที่ยวนี้มันน่าจะพูดได้ว่าพรรคใดพรรคหนึ่งในสารระบบได้เปรียบซึ่งกันและกันมากจนอีกฝ่ายหนึ่งทนไม่ได้ พรรคที่มีความเชื่อว่าเพิ่งถูกฟอร์มขึ้นมาเพื่อต่อยอดอำนาจ เป็นสิ่งที่เราหวาดกลัวไปเปลืองสมองเปล่าๆ
พรรคภูมิใจไทย หัวหน้าพรรคได้สั่งการลูกพรรคทุกคนใช้ทุกอย่างที่เขามีอยู่ในตัวเองออกมาแล้ว มันไม่เหลืออะไรที่หัวหน้าพรรคจะต้องไปกังวลอีกแล้ว ถ้าคนเหล่านั้นได้ใช้ทุกอย่างที่เขามี นั่นก็คือผลลัพธ์คือสิ่งที่ต้องยอมรับ และประเทศก็น่าจะไปได้ คงใช้เวลาเซ็ตตัวระดับหนึ่งเพราะว่าก็เป็นปีที่ 5 แล้วที่เราห่างเหินประชาธิปไตย อย่างพรรคภูมิใจไทยปรามาสว่าเป็นพรรคเฉพาะกิจตั้งขึ้นมาเพื่อใช้อำนาจรัฐต่างๆ ในฐานะที่มีบทบาทการบริหารราชการแผ่นดินในอดีตก็จะเห็นแล้วว่าวันนี้ ถามผมสิ อำนาจรัฐที่มีอยู่แล้วจะไปใช้เพื่อประเทศได้เปรียบ เพื่อโกงการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนเพื่อเบี่ยงเบนทิศทางที่พี่น้องประชาชนที่กำหนดมาต้องถามผมครับว่าทำได้หรือเปล่า ความศรัทธาของประชาชนเป็นสิ่งที่ยากที่สุด นักการเมืองทุกคนพึงกระทำก็คือสร้างความศรัทธาให้พี่น้องประชาชนให้โหวตเตอร์ของเขาเข้าใจว่าเป็นตัวแทนเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อทำได้ก็ไม่มีสิ่งใดต้องเกรงกลัว

รู้สึกอย่างไรบ้างที่เพื่อนฝูงเรียกว่า ท่านนายกฯ ว่าที่นายกฯ
ไม่รู้สึกอะไรเลยครับ (หัวเราะ) ในใจก็ เออ..ดี ดีกว่าเขาเรียกเราเป็น ไอ้โจร 500 ไอ้คนขี้โกง คนไม่รักชาติรักแผ่นดิน ก็ฟังๆ แต่อย่าไปคิด อมยิ้มได้บ้าง “รักคือฝันไป” ใครพูดมาก็ขอบคุณขอบใจอนุโมทนาให้เขาทำให้เราเป็นมงคลหูมีกำลังใจต่อสู้ ส่วนมันจะเกิดหรือไม่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องที่ต้องมาดูกันว่าเราทำงานหนักพอหรือยัง เราสร้างความศรัทธาให้กับชาวบ้านพอหรือยัง

คุณอนุทินพร้อมเป็นนายกฯ ไหม
ผมว่า... คำว่า “นายกรัฐมนตรี” ก็เป็นหัวหน้าองค์กร แต่บทบาทมันต่างไป องค์กรที่นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบก็คือระบบราชการ การบริหารราชการแผ่นดินถือเป็นองค์กรที่ต้องบริหาร หัวหน้าพรรคก็คือเบอร์ 1 ขององค์กร ตราบใดที่เราเป็นผู้บริหารมาแล้วก็เป็นไปตามนั้น เราไม่สามารถเสนอตัวเราเองให้เป็นตำแหน่งอะไรได้ คนที่จะสั่งให้เราเป็นอะไรก็ได้ในส่วนการเมืองก็คือพี่น้องประชาชน




กำลังโหลดความคิดเห็น