xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เมื่อรัฐบาลทำหนังสือถึง “ทรัพย์สิน จุฬาฯ” เสนอกรอบเจรจาปัญหาปรับค่าเช่าที่ดินสูงเกินจริง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เวียนหนังสือแจ้งมติ คณะรัฐมนตรี (ครม.) 24 ต.ค.2561 เป็นสำเนาหนังสือไปถึงหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือว่าเป็นปกติ

แต่สำหรับมติครม. เรื่อง การกำหนดแนวทาง/มาตรการป้องกันหรือแก้ไขปัญหากรณีที่หน่วยงานของรัฐผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ปรับอัตราค่าเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่หน่วยงานราชการอื่นได้เช่าใช้ประโยชน์ โดยปรับอัตราค่าเช่าเพิ่มสูงมากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น

ได้มีการทำหนังสือสำเนาถึง “ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”ด้วย

                เรื่องนี้กระทรวงการคลัง เป็นผู้เสนอ และ ครม.ได้เห็นชอบการกำหนดแนวทางการดำเนินการกรณีหน่วยงานชองรัฐผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างได้จัดให้ส่วนราชการเช่าใช้ประโยชน์ โดยปรับปรุงอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้นไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี โดยอ้างอิงจากค่าเฉลี่ยดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index : CPI) ในรอบระยะเวลา 5 ปี และให้มีการทบทวนอัตราค่าเช่าทุก 5 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับดัชนีราคาผู้บรีโภค (CPI) ที่เปลี่ยนแปลง

“กำหนดให้ใช้เป็นแนวทางเท่านั้น ไม่ได้มีการบังคับ โดยขึ้นอยู่กับการเจรจา โดยเน้นเฉพาะหน่วยงานรัฐต่อรัฐและกรณีที่ใช้เงินงบประมาณเท่านั้น ซึ่งที่กระทรวงการคลังเสนอ คือ ให้ปรับปรุงอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้นไม่เกิน 3% ต่อปี โดยอ้างอิงจากค่าเฉลี่ยดัชนีราคาผู้บริโภคในระบบเวลา 5 ปี และให้ทบทวนอัตราในการปรับปรุงค่าเช่าทุก ๆ 5 ปี"

                สาเหตุที่มีการเวียนสำเนาหนังสือถึง “ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”นั้น

เนื่องจากหลายสิบปีที่ผ่านมา หน่วยงานของรัฐ ได้เข้าเช่าพื้นที่ของ “สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ที่ให้ราชการยืมและเช่าใช้ ส่วนนี้ พบว่า มีการใช้พื้นที่ไปทั้งสิ้น 131 ไร่

เรื่องนี้เกิดประเด็น ปัญหาหลังจาก “กรมพลศึกษา” หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถูกจุฬาฯ ขอขึ้นค่าเช่าที่ดินสนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) ที่เป็นประเด็นมาตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งถูกเรียกเก็บค่าเช่าในปีงบประมาณ พ.ศ.2556 จำนวน 153 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาเรียกเก็บเพียง 3.3 ล้านบาท (เช่าพื้นที่ 87 ไร่) เพิ่มขึ้นเกือบ 50 เท่าตัว (หมดสัญญาไปตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2555)

ปัจจุบัน จากการเจรจาในปี 2560 กรมพลศึกษา ได้เช่าพื้นที่ เพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงาน ตัวสนามศุภชลาศัย อาคารกีฬานิมิบุตร สนามต้นโพธิ์ 200 เมตร และสนามเทพหัสดินเท่านั้น

โดยพื้นที่หลาย ๆ ส่วนได้คืนให้จุฬาแล้ว เช่น สระว่ายน้ำวิสุทธารมณ์ อาคารจันทรยิ่งยง ฯลฯ โดยต้องชำระค่าเช่ารายปี หลายสิบล้านบาท

กรมพลศึกษา มีแนวคิดจะย้ายไปสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติคลอง 6 ปทุมธานี ขณะที่สำนักงานบางส่วนของกรมพลศึกษา ก็ได้ย้ายไปอยู่ที่คลอง 6 เช่นเดียวกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาที่จะย้ายเช่นกัน เบื้องต้นคณะทำงานกำลังศึกษาทั้งที่ดินราชพัสดุ บางปิ้ง จ.สมุทรปราการ, พื้นที่บางส่วนของศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ รวมถึงมีแนวทางสร้างตึกสูงข้างสนาม 200 เมตร และสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษาฯ คลอง 6 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อใช้เป็นที่ตั้งถาวร

นอกจากนี้ ยังรวมถึงกรณีแปลงที่ดิน สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตอุเทนถวาย ซึ่งถูกจัดอยู่ใน "เขตพื้นที่ราชการ" มีเนื้อที่ประมาณ 21 ไร่ ตั้งอยู่ติดถนนพญาไท ระหว่างซอยจุฬาฯ 62 กับอาคารภาควิชาออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตย์ จุฬาฯ

ที่ผ่านมามารฟ้องร้องกับศาลปกครอง เนื่องจากเขตพื้นที่ราชการ (ให้ราชการเช่าราคาพิเศษและยืมใช้) อีก ประมาณ 18% อาทิ โรงเรียนปทุมวัน, สน.ปทุมวัน, ศูนย์สาธารณสุข กทม., โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, โรงเรียนสาธิตปทุมวัน ฯลฯ

"การจัดที่ดินเพื่อประโยชน์ของส่วนราชการและบริการสาธารณะ จุฬาฯให้เช่าในอัตราพิเศษ เฉลี่ยจัดเก็บต่ำกว่าราคาตลาดประมาณ 30% คิดเป็นเม็ดเงินต่อปี 800-900 ล้านบาท"

หนังสือเวียนฉบับนี้ ยังให้ “กรมประมง” กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำแนวทางการดำเนินการปรับปรุงอัตราค่าเช่าดังกล่าว ไปทำความตกลงกับ "สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ" เพื่อให้ได้อัตราค่าเช่าที่ดินที่เหมาะสมและเป็นธรรม อันจะเป็นการลดภาระงบประมาณของรัฐ และเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามขั้นตอน ตามกฎหมาย ตามนัยของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการบริหารงานชองส่วนราชการภาครัฐ พ.ค. 2553 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560

เคสนี้ เคยเป็นมติครม. เมื่อปี 2560 ที่อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมพิจารณาอัตราค่าเช่าที่ดินเพื่อใช้เป็นที่ตั้งหน่วยงานของกรมประมง ระยะเวลา 20 ปี (ที่ดินของศาสนสมบัติกลาง ลออ บางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่ 10 ไร่ 1 งาน 96 ตารางวา)

โดยองค์ประกอบคณะกรรมการประกอบด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น เพื่อให้การกำหนดอัตราค่าเช่ามีความสมเหตุสมผลและเป็นธรรม

คือให้ “กรมประมงเจรจา” ต่อรองขอจ่ายค่าเช่าที่ดินในอัตราเดิมไปจนกว่าจะได้ข้อยุติ โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรแล้ว และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง) พิจารณาทบทวนความจำเป็นและเหมาะสมของภารกิจและสถานที่ตั้งของหน่วยงานกรมประมง หรือการลดขนาดพื้นที่การเช่าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ข้อจำกัดด้านงบประมาณของกรมประมง และยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการประมงในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

มติ ครม.ดังกล่าว กระทรวงการคลัง จึงเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทาง/มาตรการป้องกันหรือแก้ไขปัญหาฯ

กรณีที่หน่วยงานของรัฐผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ปรับอัตราค่าเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่หน่วยงานราชการอื่นได้เช่าใช้ประโยชน์ โดยปรับอัตราค่าเช่าเพิ่มสูงมากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็นเมื่อเทียบเคียงกับอัตราการปรับเพิ่มโดยทั่วไป เพื่อเป็นการลดภาระงบประมาณของรัฐ

หลังจากที่ได้แต่งตั้ง"คณะกรรมการพิจารณาอัตราค่าเข่าที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง" กรณีหน่วยงานราชการขอใช้งบประมาณแผ่นดินในการเข่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ชองหน่วยงานของรัฐเพื่อเป็นที่ตั้งหน่วยงานราชการ เพื่อทำหน้าที่จัดทำหลักเกณฑ์กลางเกี่ยวกับความเหมาะสม ของอัตราค่าเช่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างของหน่วยงานของรัฐเพื่อเป็นที่ตั้งชองหน่วยงานราชการ

และพิจารณา กลั่นกรอง ให้ความเห็น และข้อเสนอแนะประกอบการอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเช่าอาคารและที่ดินเพื่อเป็นที่ตั้งหน่วยงานราชการ ไปพิจารณาร่วมกับสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวช้อง ให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจนก่อนดำเนินการ

มติครม.เรื่องนี้ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อว่า “ได้กำหนดให้ใช้เป็นแนวทางเท่านั้น ไม่ได้มีการบังคับ โดยขึ้นอยู่กับการเจรจา โดยเน้นเฉพาะหน่วยงานรัฐต่อรัฐและกรณีที่ใช้เงินงบประมาณเท่านั้น

สรุปคือ เป็นมาตรการที่เสนอเพื่อเจรจา ระหว่างรัฐกับรัฐ ที่ไม่ได้เพื่อนำมาบังคับ สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือเจ้าของ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน นั้น ๆ แต่อย่างใด




กำลังโหลดความคิดเห็น