ความโดดเด่นด้านแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของ “จังหวัดนครนายก” ทั้งป่าไม้ ภูเขา น้ำตก วัดวาอาราม วิถีชีวิตเกษตรกรและอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เป็นเสน่ห์ดึงให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
อีกทั้งจังหวัดนครนายกยังได้เข้าร่วม “โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” เช่นเดียวกับอีก 76 จังหวัดทั่วประเทศภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของ OTOP ที่เกิดจากการบูรณาการระหว่างชุมชน จังหวัด และภูมิภาค เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ให้มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นและส่งเสริมการกระจายรายได้สู่ชุมชนโดยใช้กระแสการท่องเที่ยวทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีความมั่นคง
สำหรับจังหวัดนครนายกเป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพเดินทางสะดวกและใช้เวลาไม่มากแต่ได้สัมผัสการท่องเที่ยวอย่างครบรสและมีกิจกรรมที่หลากหลาย ซึ่งจากสถิติของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดนครนายก ในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวคนไทยอยู่ที่ 2,891,000 คน ต่างชาติ 27,826 คน จึงเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาโดยเน้นการส่งเสริมชุมชนให้มีความพร้อมในการเป็นเจ้าบ้านที่ดีและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากเมืองหลักหรือแอ่งใหญ่ให้กระจายไปสู่ชุมชนซึ่งเป็นแอ่งเล็กๆ หรือที่เรียกว่า “แอ่งเล็กเช็กอิน” ตามโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี นครนายก วิถีสโลว์ไลฟ์ ไกลห่างมลพิษโดยมีชุมชนผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการกว่า 20 ชุมชนที่มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังได้เชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวแต่ละท้องถิ่นอีกด้วย
ว่าที่ร้อยตรี ณัฐพงษ์ แก่นใจเด็จ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ.คีรีวัน ต.ศรีนาวา อ.เมือง จ.นครนายก หนึ่งในชุมชนที่เข้าร่วมโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เล่าให้ฟังว่า บ้านคีรีวันมีจุดที่น่าสนใจคือ ศูนย์เรียนรู้เชิงเกษตรและวัฒนธรรมภูกะเหรี่ยงไร่นาสวนผสม ที่มีเนื้อที่กว่า 60 ไร่ โดยเน้นการทำนา ทำสวน เลี้ยงสัตว์แบบเกษตรอินทรีย์ ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงฯรัชกาลที่ 9และยังมีกิจกรรมเชิงเกษตรและฐานการเรียนรู้ 5 ฐาน ได้แก่ 1.อุโมงค์ไม้เลื้อยที่ให้ความร่มรื่นตลอดเส้นทาง 2.ยุ้งข้าวร้อยปีที่รวมเครื่องมือการเกษตรในอดีต 3.สะพานไม้ไผ่ทอดยาวออกไปกลางนาชมทุ่งข้าวเขียวขจี 4.เล้าห่านเป็ดไก่ชนการเลี้ยงสัตว์แบบผสม และ5.พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านรัตนจันที่สะสมเครื่องใช้ในอดีตของตระกูลจันลาและรัตนสุนทร ซึ่งเป็นเกษตรกรและแพทย์แผนโบราณเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีการเกษตรอย่างแท้จริง และอีกหนึ่งสถานที่คือวัดคีรีวัน ที่มีพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกทำจากเรซิ่นตกแต่งด้วยเพชรแท้ 7 กะรัต พลอยแท้กว่า 2,000 เม็ดและทับทิมจำนวนมากประดิษฐานอยู่ในพระวิหารบนยอดเขาให้นักท่องเที่ยวได้กราบสักการะ
ศุภชัย พรมมาลัย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ.เขาทุเรียน ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก เล่าถึงจุดเด่นของชุมชนว่าที่นี่มีวัดเขาทุเรียนหรือวัดสีชมพูเพราะด้วยความโดดเด่นของวัดที่เป็นสีชมพูทั้งหมดรวมถึงโบสถ์ที่มีอายุกว่า 200 ปี ซึ่งปัจจุบันได้บูรณะเป็นวิหาร มณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทและพระพุทธรูป ภายในบริเวณวัดยังมีห้องสุขาที่ได้รับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 2552 ไว้บริการนักท่องเที่ยวและห้องสุขาจำลองหลากสีสันทั้งสีทอง สีเงิน สีนาก และสีชมพู ไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็คอิน อีกทั้งยังมีศาลเจ้าพ่อเมืองโสอีกหนึ่งสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชุมชน ส่วนอาหารพื้นถิ่นมีทั้งปลาร้าสับผัด ไข่ยัดไส้เห็ดภูฐาน ยำส้มโอ ส้มตำสมุนไพรกรอบ และที่เป็นเอกลักษณ์คือขนมหวานไข่กบ นกปล่อย บัวลอย อ้ายตึ๊บ ขนมโบราณที่คนสมัยก่อนนิยมทำในช่วงลงแขกเกี่ยวข้าว
“ปัจจุบันเราได้ปรับปรุงภูมิทัศน์และชูจุดเด่นของบ้านเขาทุเรียนคือโครงการทุเรียนคืนถิ่น เป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายใต้โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีจากเดิมที่เคยมีต้นทุเรียนเป็นจำนวนมากแต่ปัจจุบันลดน้อยลง จึงได้ปลูกต้นทุเรียนจำนวน 60 ต้น ในบริเวณวัดเขาทุเรียน”ผู้ใหญ่บ้าน บ.เขาทุเรียน เล่าเพิ่มเติม
ประนอม บุตรแสง ผู้ช่วยฝ่ายรักษาความสงบ หมู่ 11 บ้านเขาแดง ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก เล่าถึงเส้นทางการท่องเที่ยวของชุมชนให้ฟังว่า จุดแรกคือไหว้สักการะขอพรพระพุทธนิมิตมงคลหรือหลวงพ่อใหญ่วัดเขาแดง โดยมีความเชื่อว่าหากใครได้มากราบไหว้จะสำเร็จมีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน จากนั้นลอดโบสถ์โบราณที่มีการฝังลูกนิมิตรมาตั้งแต่ พ.ศ.2480 เสริมศิริมงคล ชมต้นโพธ์ที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดของจังหวัดนครนายก และจุดที่เป็นไฮไลท์คือเขาหล่นที่มีกิจกรรมหลากหลายทั้งโรยตัว ปีนหน้าผา กางเต็นท์และปัจจุบันได้สร้างสะพานไม้ขึ้นไปยังยอดเขาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวิว 360 องศา ที่มองเห็นวิวโดยรอบของจังหวัดนครนายก
“ชุมชนแห่งนี้ยังมีศูนย์เรียนรู้ไม้กฤษณาที่ชาวบ้านปลูกเป็นจำนวนมากเพื่อกลั่นเป็นน้ำมันส่งขายต่างประเทศและแปรรูปเป็นเครื่องประดับ เช่นลูกประคำ ปิ่นปักผม เป็นวิสาหกิจชุมชน นอกจากนี้ยังได้ปลูกต้นทองอุไร กว่า 1,000 ต้น รอบหมู่บ้าน จัดสถานที่ให้ไว้เป็นจุดเช็คอินด้วยการนำร่ม 1,000 คัน มากางในบริเวณวัดและจัดซุ้มจำหน่ายสินค้าโอทอปเป็นจุดให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการปรับภูมิทัศน์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มมากขึ้น”ผู้ช่วยฝ่ายรักษาความสงบบ้านเขาแดงเล่าถึงการเตรียมความพร้อมแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเพื่อรองรับโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี
จังหวัดนครนายกยังมีจุดเช็คอินอีกมากมายที่รอให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสการท่องเที่ยววิถีชุมชนและชมอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นกับชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี นครนายก วิถีสโลว์ไลฟ์ ไกลห่างมลพิษ ที่จะทำให้หลงเสน่ห์เมืองแห่งนี้อย่างแน่นอน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เฟสบุ๊คแฟนเพจ www.facebook.com/OtopNawatwithiNakhonNayok