“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ธรรมสอนว่า ความแน่นอน-คือ-ความไม่แน่นอน! ความไม่แน่นอน-คือ-ความแน่นอน!
ดังนั้น จึงเป็น“เรื่องธรรมดา-ที่ไม่ธรรมดา” กับการเมืองเรื่อง“เลือกตั้งสกปรก”แบบไทยๆ ซึ่งมักจะได้“นักการเมืองเลว”มากกว่า“นักการเมืองดี” ดาหน้าเข้าไปนั่งหน้าสลอนเดินยั้วเยี้ยอยู่ในสภาฯ
ทั้งนี้ เพราะการเมือง“น้ำเน่า”ที่ผ่านมาของชาติไทยนั้น เต็มไปด้วย“นักการเมือง”ที่เห็นแก่ตัวเป็นหลัก เห็นแก่ชาติเป็นรอง! โดย“นักการเมืองเลว”ส่วนใหญ่เหล่านั้น มุ่งแต่เอาชนะคู่แข่งอย่างไร้คุณธรรม จนทำให้สนามเลือกตั้งสกปรกโสมม ด้วยการใช้เงินซื้อเสียง และโกงกันสารพัดวิธีอย่างสามานย์!
ทำให้การเมืองชาติไทยที่ผ่านมา มิใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริงเพื่อประชาชน หากแต่เป็น“ธนา-คณา-โจราธิปไตยทุนสามานย์” ของกลุ่มคนส่วนน้อยในสังคมไทย
เพราะการเลือกตั้งสกปรก จะก่อเกิด“เผด็จการรัฐสภา” และ“รัฐบาลคอร์รัปชัน” เข้ามาใช้“อำนาจรัฐ”และ“กลไกรัฐ” ถอนทุนบวกกำไรด้วยการปล้นชาติ
“จุดอ่อน”ของการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมนี่แหละ ที่เป็น“ช่องโหว่”ให้“ทุนสามานย์เหลี่ยม”เข้ามาลงทุนทำธุรกิจการเมือง จน“บิ๊กเหลี่ยม”กับเครือข่าย สามารถยึดอำนาจทั้งในสภาและรัฐบาลมานานกว่า 10 ปี สร้างความร่ำรวยให้ตนเองและครอบครัว จากหลายหมื่นล้านบาทเป็นหลายแสนล้านบาท ในเวลาเพียงไม่กี่ปีด้วยการคอร์รัปชันโกงชาติ..
ทำให้ประชาชนผู้กล้าหาญและรักชาติ ต้องชุมนุมขับไล่รัฐบาล“บิ๊กเหลี่ยม”กับเครือข่าย จนบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ก่อนที่“คณะนายทหาร”จะทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลทุนสามานย์โกงชาติ ที่บังอาจจะโค่นล้มสถาบันสำคัญของชาติถึง 2 ครั้ง
อืม..เห็นไหมล่ะว่า “ต้นเหตุรัฐประหาร”ล้วนเกิดจาก รัฐบาล“เผด็จการรัฐสภา”โกงเลือกตั้งและโกงชาติ แถมยังบังอาจจะโค่นล้ม“สถาบันสำคัญของชาติ”อีกด้วย
ดังนั้น ถ้ารัฐบาล“บิ๊กเหลี่ยม”กับเครือข่าย ไม่โกงชาติ ไม่“ล้มเจ้า” และทำดีเพื่อชาติ ก็ไร้“ต้นเหตุ”และจะไร้การรัฐประหารไปโดยปริยาย.. จริงไหม?
แต่ที่น่าขยะแขยงมาจนถึงทุกวันนี้ คือ “บิ๊กเหลี่ยม”กับพวกไม่เคยสำนึกถึงความผิด ที่“บิ๊กเหลี่ยม”กับพวกได้ก่อกรรมทำเข็ญต่อชาติแม้แต่น้อย แถมยัง“ตัดตอนโยนความผิดทั้งหมด” ไปให้กับการรัฐประหารแบบหน้าตาเฉย
ดังล่าสุด “ทักษิณ ชินวัตร”ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Thaksin Shinawatra” ในเรื่อง “12 ปี จาก 19 กันยายน 2549 ถึง 19 กันยายน 2561” ว่า
“วันนี้ ผมอยากให้ทุกท่านลองวางใจให้เป็นกลาง แล้วหลับตานึกว่า จากวันนั้นถึงวันนี้ ท่านคิดว่าประเทศไทยเจริญขึ้นแล้วหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษา ระบบราชการบริการประชาชน ยาเสพติด การสาธารณสุข กระบวนการยุติธรรม เศรษฐกิจของท่านเอง รวมถึงความสุขของท่านและคนรอบตัวท่าน สุดท้าย คือ ศักดิ์ศรีประเทศและความภูมิใจของท่าน
เรามีการปฏิวัติ 2 ครั้งใน 12 ปี ปฏิวัตินายกฯ ที่เป็นพี่น้องกัน และได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย แน่นอน มีคนได้ดีและร่ำรวยจากการปฏิวัติทั้ง 2 ครั้ง แต่คนที่แย่ลงในหลายมิติมีมากกว่า และไม่สำคัญเท่ากับประเทศไทยที่เรารัก ถูกมองแย่ลงในสายตาคนทั้งโลก
เราถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่จะหันหน้ามาปรึกษาหารือกันเพื่อบ้านเมือง หรือว่าเราจะตะแบงฟาดฟันกันฝ่ายเดียว ทั้งๆที่เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นที่ต่างกัน ชอบไม่เหมือนกัน บางคนต้องถึงกับชีวิต บางคนเจ็บป่วย บางคนติดคุก บางคนถูกกลั่นแกล้งทางธุรกิจ ทางอาชีพและตำแหน่งหน้าที่ราชการ จนอยากจะตะโกนแรงๆ ว่าเราคนไทยด้วยกันไม่ใช่หรือ
แล้ววันนี้เราช้ำกันพอแล้วหรือยัง ประเทศช้ำพอแล้วหรือยัง รอยยิ้มของไทยที่เรียกว่ายิ้มสยามหายไปไหนหมด แล้วเราจะอยู่กันแบบนี้ ในขณะที่โลกเขากำลังเอาสมองไปคิดค้นสิ่งใหม่ นำความเจริญให้ประเทศเขา แต่เรากำลังล้าหลังในทุกๆด้าน ถ้าเราเปิดใจกว้าง ไม่เป็นกบน้อยในกะลา เราจะรู้ว่าเราต้องปรับปรุงและพัฒนาอีกเยอะ เทคโนโลยีที่ทั้งโลกกำลังใช้ประโยชน์ มันกำลังจะไล่ล่าประเทศที่ปรับตัวไม่ทันและไม่คิดปรับตัว
ในโอกาสครบรอบ 12 ปีนี้ ผมขอเปิดอกว่า ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่งนอกจากนั้น ผมต้องสูญเสียความสุข ความอบอุ่นในครอบครัวผม ที่พ่อแม่ลูกเราอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นมาตลอด ต้องมาพรากจากกัน
ผมเสียใจที่คนที่รักผม สนับสนุนผมถูกรังแก แต่คงไม่เสียใจเท่าประเทศที่ผมรัก แผ่นดินที่ผมเกิด และเติบโตมา ซึ่งครั้งหนึ่งได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ต้องมาตกอยู่ในสภาวะแบบนี้
ถึงแม้ว่าผมมีอายุที่กำลังก้าวเข้าปีที่ 70 แล้ว แต่ผมเสียดายประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 12 ปีที่ออกมา ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน
ขอขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่ 12 ปีแล้วยังไม่ลืมผม ยังส่งความรักความปรารถนาดีมาถึงกันเสมอมา
สุดท้ายนี้ ผมขออโหสิกรรมให้กับทุกคนที่ให้ร้ายกลั่นแกล้งผมมา ณ ที่นี้ด้วย”
อืม..ข้อความที่“ทักษิณ”โพสต์นั้น โดยรวมเป็นการ“ตีหน้าเศร้า เล่าเรื่องเท็จ” เพื่อ“เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น”อย่างหน้าด้านๆ
ใช่เลย! รัฐบาล“ทักษิณ”กับ“ยิ่งลักษณ์” ชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้น แต่เพราะมีพฤติกรรมโกงชาติอยู่ตลอดเวลา จน“ทักษิณ”กับเครือญาติร่ำรวยอย่างก้าวกระโดด..
ทำให้“ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”โดนประชาชนผู้รักชาติ มากมายมหาศาลออกมาขับไล่อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่“บิ๊กบัง”กับ“บิ๊กตู่”จะนำกองทัพทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลโกงชาติ“ทักษิณ”กับเครือข่ายลง
วันเวลาผ่านไปแล้วนานถึง 12 ปี “ทักษิณ”เพิ่งจะพูดเปิดอกว่า “..ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้น ผมต้องสูญเสียความสุข ความอบอุ่นในครอบครัวผม ที่พ่อแม่ลูกเราอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นมาตลอด ต้องมาพรากจากกัน”
เห็นไหมล่ะว่า “ทักษิณ”ใช้เล่ห์ร้ายและการโกหก “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น”อย่างหน้าด้านๆเฉยเลย ทั้งๆที่ประเทศไทยเสียหายอยู่ในทุกวันนี้ รวมทั้ง“ทักษิณ”ต้องจากลูกเมีย ไปใช้ชีวิตระเหเร่ร่อนอยู่ในต่างแดนจนทุกวันนี้นั้น
ก็เพราะตัว“ทักษิณ”เอง หลังยึดอำนาจรัฐได้แล้ว แทนที่จะทำดีเพื่อชาติและประชาชน “ทักษิณ”กลับกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตัวและพวกพ้อง ด้วยการคอร์รัปชันโกงชาติชนิดไม่รู้จักพอ ทั้งผิดกฎหมายและไร้คุณธรรมอยู่ตลอดเวลา จนถูกประชาชนชุมนุมขับไล่และถูกรัฐประหารไงล่ะ
ดังนั้น “คน”ที่ทำชั่วต่อชาติไทยและครอบครัวของ“ทักษิณ”นั้น มิใช่“ใคร”ที่ไหนในใต้หล้าฟ้าไทยหากแต่เป็น“คน”ที่ชื่อ“ทักษิณ”นามสกุล“ชินวัตร” ที่เป็น“อดีตสามีหญิงอ้อ”พ่อ“ลูกโอ๊ค-เอม-อุ๊งอิ๊ง” หรือ “คน”ที่โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง “12 ปี จาก 19 กันยายน 2549 ถึง 19 กันยายน 2561”นั่นแหละ
“ทักษิณ”ยังหน้าด้านกล้าโพสต์ “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น”ทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า “ผมขออโหสิกรรมให้กับทุกคนที่ให้ร้ายกลั่นแกล้งผมมา ณ ที่นี้ด้วย”
เฮ้อ!..ต้องบอกว่า เหตุการณ์ 12 ปีที่ผ่านมานั้น “ทักษิณโชคดี”แต่“ชาวไทยโชคร้าย” ที่“บิ๊กบัง”ทำรัฐประหารแบบ“มวยล้มต้มคนดู” ทำให้“ทักษิณ”กับพวกโกงชาติยังลอยนวล แถมยังหวนกลับมายึดอำนาจรัฐ ผ่านการเลือกตั้งสกปรก ก่อความเดือดร้อนให้ชาติกับประชาชนซ้ำ จนโดน“บิ๊กตู่”รัฐประหารอีกครั้งไงล่ะ
ชัดไหม? รัฐบาล“ทักษิณ”กับเครือข่ายโกงชาติ จึงเป็น“ต้นเหตุแท้จริง”ที่ทำให้เกิดรัฐประหารถึง 2 ครั้ง!
จนถึงวันนี้! “ทักษิณ”กับเครือข่ายที่โกงชาติ ยังไม่รู้สำนึกแม้แต่น้อยว่า ได้ทำผิดมหันต์ต่อชาติและประชาชน..!
“ทักษิณ”กับเครือข่ายโกงชาติ ที่ไม่คิดกลับเนื้อกลับตัว ไม่รู้ถูกรู้ผิด จึงพร้อมจะแผลงฤทธิ์ เพราะยังมีทั้งเงินทองอู้ฟู่ และยังมีอิทธิพลอย่างสูง ทั้งในหมู่นักการเมือง-วงราชการ-ประชาชน ซึ่งจะก่อผลร้ายทางการเมืองต่อชาติ ให้ได้รับความเสียหายในอนาคตอย่างแน่นอน..
ทั้งนี้ ถ้า“นายกฯตู่”ยังดื้อรั้น ดันทุรังจะเดินหน้า“เลือกตั้งก่อนปฏิรูปชาติ”..จริงไหมล่ะ..?
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
ธรรมสอนว่า ความแน่นอน-คือ-ความไม่แน่นอน! ความไม่แน่นอน-คือ-ความแน่นอน!
ดังนั้น จึงเป็น“เรื่องธรรมดา-ที่ไม่ธรรมดา” กับการเมืองเรื่อง“เลือกตั้งสกปรก”แบบไทยๆ ซึ่งมักจะได้“นักการเมืองเลว”มากกว่า“นักการเมืองดี” ดาหน้าเข้าไปนั่งหน้าสลอนเดินยั้วเยี้ยอยู่ในสภาฯ
ทั้งนี้ เพราะการเมือง“น้ำเน่า”ที่ผ่านมาของชาติไทยนั้น เต็มไปด้วย“นักการเมือง”ที่เห็นแก่ตัวเป็นหลัก เห็นแก่ชาติเป็นรอง! โดย“นักการเมืองเลว”ส่วนใหญ่เหล่านั้น มุ่งแต่เอาชนะคู่แข่งอย่างไร้คุณธรรม จนทำให้สนามเลือกตั้งสกปรกโสมม ด้วยการใช้เงินซื้อเสียง และโกงกันสารพัดวิธีอย่างสามานย์!
ทำให้การเมืองชาติไทยที่ผ่านมา มิใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริงเพื่อประชาชน หากแต่เป็น“ธนา-คณา-โจราธิปไตยทุนสามานย์” ของกลุ่มคนส่วนน้อยในสังคมไทย
เพราะการเลือกตั้งสกปรก จะก่อเกิด“เผด็จการรัฐสภา” และ“รัฐบาลคอร์รัปชัน” เข้ามาใช้“อำนาจรัฐ”และ“กลไกรัฐ” ถอนทุนบวกกำไรด้วยการปล้นชาติ
“จุดอ่อน”ของการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมนี่แหละ ที่เป็น“ช่องโหว่”ให้“ทุนสามานย์เหลี่ยม”เข้ามาลงทุนทำธุรกิจการเมือง จน“บิ๊กเหลี่ยม”กับเครือข่าย สามารถยึดอำนาจทั้งในสภาและรัฐบาลมานานกว่า 10 ปี สร้างความร่ำรวยให้ตนเองและครอบครัว จากหลายหมื่นล้านบาทเป็นหลายแสนล้านบาท ในเวลาเพียงไม่กี่ปีด้วยการคอร์รัปชันโกงชาติ..
ทำให้ประชาชนผู้กล้าหาญและรักชาติ ต้องชุมนุมขับไล่รัฐบาล“บิ๊กเหลี่ยม”กับเครือข่าย จนบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ก่อนที่“คณะนายทหาร”จะทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลทุนสามานย์โกงชาติ ที่บังอาจจะโค่นล้มสถาบันสำคัญของชาติถึง 2 ครั้ง
อืม..เห็นไหมล่ะว่า “ต้นเหตุรัฐประหาร”ล้วนเกิดจาก รัฐบาล“เผด็จการรัฐสภา”โกงเลือกตั้งและโกงชาติ แถมยังบังอาจจะโค่นล้ม“สถาบันสำคัญของชาติ”อีกด้วย
ดังนั้น ถ้ารัฐบาล“บิ๊กเหลี่ยม”กับเครือข่าย ไม่โกงชาติ ไม่“ล้มเจ้า” และทำดีเพื่อชาติ ก็ไร้“ต้นเหตุ”และจะไร้การรัฐประหารไปโดยปริยาย.. จริงไหม?
แต่ที่น่าขยะแขยงมาจนถึงทุกวันนี้ คือ “บิ๊กเหลี่ยม”กับพวกไม่เคยสำนึกถึงความผิด ที่“บิ๊กเหลี่ยม”กับพวกได้ก่อกรรมทำเข็ญต่อชาติแม้แต่น้อย แถมยัง“ตัดตอนโยนความผิดทั้งหมด” ไปให้กับการรัฐประหารแบบหน้าตาเฉย
ดังล่าสุด “ทักษิณ ชินวัตร”ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Thaksin Shinawatra” ในเรื่อง “12 ปี จาก 19 กันยายน 2549 ถึง 19 กันยายน 2561” ว่า
“วันนี้ ผมอยากให้ทุกท่านลองวางใจให้เป็นกลาง แล้วหลับตานึกว่า จากวันนั้นถึงวันนี้ ท่านคิดว่าประเทศไทยเจริญขึ้นแล้วหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษา ระบบราชการบริการประชาชน ยาเสพติด การสาธารณสุข กระบวนการยุติธรรม เศรษฐกิจของท่านเอง รวมถึงความสุขของท่านและคนรอบตัวท่าน สุดท้าย คือ ศักดิ์ศรีประเทศและความภูมิใจของท่าน
เรามีการปฏิวัติ 2 ครั้งใน 12 ปี ปฏิวัตินายกฯ ที่เป็นพี่น้องกัน และได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย แน่นอน มีคนได้ดีและร่ำรวยจากการปฏิวัติทั้ง 2 ครั้ง แต่คนที่แย่ลงในหลายมิติมีมากกว่า และไม่สำคัญเท่ากับประเทศไทยที่เรารัก ถูกมองแย่ลงในสายตาคนทั้งโลก
เราถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่จะหันหน้ามาปรึกษาหารือกันเพื่อบ้านเมือง หรือว่าเราจะตะแบงฟาดฟันกันฝ่ายเดียว ทั้งๆที่เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นที่ต่างกัน ชอบไม่เหมือนกัน บางคนต้องถึงกับชีวิต บางคนเจ็บป่วย บางคนติดคุก บางคนถูกกลั่นแกล้งทางธุรกิจ ทางอาชีพและตำแหน่งหน้าที่ราชการ จนอยากจะตะโกนแรงๆ ว่าเราคนไทยด้วยกันไม่ใช่หรือ
แล้ววันนี้เราช้ำกันพอแล้วหรือยัง ประเทศช้ำพอแล้วหรือยัง รอยยิ้มของไทยที่เรียกว่ายิ้มสยามหายไปไหนหมด แล้วเราจะอยู่กันแบบนี้ ในขณะที่โลกเขากำลังเอาสมองไปคิดค้นสิ่งใหม่ นำความเจริญให้ประเทศเขา แต่เรากำลังล้าหลังในทุกๆด้าน ถ้าเราเปิดใจกว้าง ไม่เป็นกบน้อยในกะลา เราจะรู้ว่าเราต้องปรับปรุงและพัฒนาอีกเยอะ เทคโนโลยีที่ทั้งโลกกำลังใช้ประโยชน์ มันกำลังจะไล่ล่าประเทศที่ปรับตัวไม่ทันและไม่คิดปรับตัว
ในโอกาสครบรอบ 12 ปีนี้ ผมขอเปิดอกว่า ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่งนอกจากนั้น ผมต้องสูญเสียความสุข ความอบอุ่นในครอบครัวผม ที่พ่อแม่ลูกเราอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นมาตลอด ต้องมาพรากจากกัน
ผมเสียใจที่คนที่รักผม สนับสนุนผมถูกรังแก แต่คงไม่เสียใจเท่าประเทศที่ผมรัก แผ่นดินที่ผมเกิด และเติบโตมา ซึ่งครั้งหนึ่งได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ต้องมาตกอยู่ในสภาวะแบบนี้
ถึงแม้ว่าผมมีอายุที่กำลังก้าวเข้าปีที่ 70 แล้ว แต่ผมเสียดายประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 12 ปีที่ออกมา ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน
ขอขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่ 12 ปีแล้วยังไม่ลืมผม ยังส่งความรักความปรารถนาดีมาถึงกันเสมอมา
สุดท้ายนี้ ผมขออโหสิกรรมให้กับทุกคนที่ให้ร้ายกลั่นแกล้งผมมา ณ ที่นี้ด้วย”
อืม..ข้อความที่“ทักษิณ”โพสต์นั้น โดยรวมเป็นการ“ตีหน้าเศร้า เล่าเรื่องเท็จ” เพื่อ“เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น”อย่างหน้าด้านๆ
ใช่เลย! รัฐบาล“ทักษิณ”กับ“ยิ่งลักษณ์” ชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้น แต่เพราะมีพฤติกรรมโกงชาติอยู่ตลอดเวลา จน“ทักษิณ”กับเครือญาติร่ำรวยอย่างก้าวกระโดด..
ทำให้“ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”โดนประชาชนผู้รักชาติ มากมายมหาศาลออกมาขับไล่อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่“บิ๊กบัง”กับ“บิ๊กตู่”จะนำกองทัพทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลโกงชาติ“ทักษิณ”กับเครือข่ายลง
วันเวลาผ่านไปแล้วนานถึง 12 ปี “ทักษิณ”เพิ่งจะพูดเปิดอกว่า “..ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้น ผมต้องสูญเสียความสุข ความอบอุ่นในครอบครัวผม ที่พ่อแม่ลูกเราอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นมาตลอด ต้องมาพรากจากกัน”
เห็นไหมล่ะว่า “ทักษิณ”ใช้เล่ห์ร้ายและการโกหก “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น”อย่างหน้าด้านๆเฉยเลย ทั้งๆที่ประเทศไทยเสียหายอยู่ในทุกวันนี้ รวมทั้ง“ทักษิณ”ต้องจากลูกเมีย ไปใช้ชีวิตระเหเร่ร่อนอยู่ในต่างแดนจนทุกวันนี้นั้น
ก็เพราะตัว“ทักษิณ”เอง หลังยึดอำนาจรัฐได้แล้ว แทนที่จะทำดีเพื่อชาติและประชาชน “ทักษิณ”กลับกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตัวและพวกพ้อง ด้วยการคอร์รัปชันโกงชาติชนิดไม่รู้จักพอ ทั้งผิดกฎหมายและไร้คุณธรรมอยู่ตลอดเวลา จนถูกประชาชนชุมนุมขับไล่และถูกรัฐประหารไงล่ะ
ดังนั้น “คน”ที่ทำชั่วต่อชาติไทยและครอบครัวของ“ทักษิณ”นั้น มิใช่“ใคร”ที่ไหนในใต้หล้าฟ้าไทยหากแต่เป็น“คน”ที่ชื่อ“ทักษิณ”นามสกุล“ชินวัตร” ที่เป็น“อดีตสามีหญิงอ้อ”พ่อ“ลูกโอ๊ค-เอม-อุ๊งอิ๊ง” หรือ “คน”ที่โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง “12 ปี จาก 19 กันยายน 2549 ถึง 19 กันยายน 2561”นั่นแหละ
“ทักษิณ”ยังหน้าด้านกล้าโพสต์ “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น”ทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า “ผมขออโหสิกรรมให้กับทุกคนที่ให้ร้ายกลั่นแกล้งผมมา ณ ที่นี้ด้วย”
เฮ้อ!..ต้องบอกว่า เหตุการณ์ 12 ปีที่ผ่านมานั้น “ทักษิณโชคดี”แต่“ชาวไทยโชคร้าย” ที่“บิ๊กบัง”ทำรัฐประหารแบบ“มวยล้มต้มคนดู” ทำให้“ทักษิณ”กับพวกโกงชาติยังลอยนวล แถมยังหวนกลับมายึดอำนาจรัฐ ผ่านการเลือกตั้งสกปรก ก่อความเดือดร้อนให้ชาติกับประชาชนซ้ำ จนโดน“บิ๊กตู่”รัฐประหารอีกครั้งไงล่ะ
ชัดไหม? รัฐบาล“ทักษิณ”กับเครือข่ายโกงชาติ จึงเป็น“ต้นเหตุแท้จริง”ที่ทำให้เกิดรัฐประหารถึง 2 ครั้ง!
จนถึงวันนี้! “ทักษิณ”กับเครือข่ายที่โกงชาติ ยังไม่รู้สำนึกแม้แต่น้อยว่า ได้ทำผิดมหันต์ต่อชาติและประชาชน..!
“ทักษิณ”กับเครือข่ายโกงชาติ ที่ไม่คิดกลับเนื้อกลับตัว ไม่รู้ถูกรู้ผิด จึงพร้อมจะแผลงฤทธิ์ เพราะยังมีทั้งเงินทองอู้ฟู่ และยังมีอิทธิพลอย่างสูง ทั้งในหมู่นักการเมือง-วงราชการ-ประชาชน ซึ่งจะก่อผลร้ายทางการเมืองต่อชาติ ให้ได้รับความเสียหายในอนาคตอย่างแน่นอน..
ทั้งนี้ ถ้า“นายกฯตู่”ยังดื้อรั้น ดันทุรังจะเดินหน้า“เลือกตั้งก่อนปฏิรูปชาติ”..จริงไหมล่ะ..?