ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - บางคนก็ว่า “เขา” บ้าเป็น “ไบโพลาร์” มีอาการทาง “จิตเวช”
บางคนก็ว่า “เขา” ไป “โดน” ตัวไหนมา ถึงออกอาการ “ดีด” ขนาดนั้น
แต่ไม่ว่า “เสกสรรค์ ศุขพิมาย” หรือ “เสก โลโซ” นักร้องร็อกชื่อดังจะ “เพี้ยน” หรือ “ดีด” หรือมีวาระอะไรในการออกมา LIVE ผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก “SEK LOSO” ของตนเองแบบต่อเนื่องเป็นเวลาติดต่อเป็นเวลาหลายวัน ก็ต้องถือว่าการ LIVE ของ “เสก โลโซ” ในครั้งล่าสุดนี้ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทั้งในแง่คนคนติดตามที่พุ่งพรวดอย่างรวดเร็ว และการกล่าวขานในโลกสังคมออนไลน์ที่แพร่สะพัดไปในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น “คอการเมือง” หรือ “คอเพลง” ที่ต้องพลอยอดหลับอดนอนไปกับเสก โลโซด้วย
จะไม่เป็น TALK OF THE TOWN ได้อย่างไร ก็ในขณะที่เสก LIVE ปรากฏว่า มีบรรดาพ่อค้าแม่ขายออนไลน์ไปโพสต์ “ฝากร้าน” ให้เห็นเป็นจำนวนไม่น้อย
ถ้าไม่มองในแง่ร้ายจนเกินไปนักจาก “ภาพจำในอดีต” ก็ต้องบอกว่า เนื้อหาสาระในบางช่วงบางตอนก็มีแง่มุมที่น่ารับฟัง โดยเฉพาะเมื่อ “เสก โลโซ” พูดถึงเรื่องราวในแวดวงดนตรีได้อย่างออกอรรถรสและน่าติดตาม
อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้คนติดตามและกล่าวถึง “เสก โลโซ” ก็คือประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะเมื่อเขาวิพากษ์วิจารณ์ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” รวมถึง “เสี่ยโอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร” อย่างเผ็ดร้อน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ จุดยืนทางการเมืองของร็อกเกอร์ผู้นี้ดำเนินไปในทิศทางตรงกันข้าม ชนิดที่สามารถใช้คำว่า เขาคือ “คนเสื้อแดง” เสียด้วยซ้ำไป
เพราะต้องยอมรับว่า เสก โลโซ เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของตระกูลชินวัตรและพรรคเพื่อไทยมาอย่างยาวนาน เคยแต่งเพลงให้ทั้ง “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” มาแล้วอีกต่างหาก รวมทั้งมีความสนิทสนมกับแกนนำแดงหลายต่อหลายคน เช่น เดอะเต้น-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นต้นซึ่งนั่นส่งผลต่อความคิดและความรู้สึกต่อผู้ที่เคยสนับสนุนตระกูลชินวัตรอยู่ไม่น้อยทีเดียว
ทั้งนี้ เสก โลโซวิพากษ์วิจารณ์อดีตนายกรัฐมนตรีว่าเป็นคนไม่จริงใจ และหักหลังตนเอง โดยกล่าวย้ำตลอดเวลา
หรือกล่าวถึงยิ่งลักษณ์ว่า “จริงๆ ไม่อยากจะว่ายิ่งลักษณ์ แต่เป็นนายกฯไม่ได้ พูดยังไม่ถูกเลย ภาษาอังกฤษพูดยังไม่เป็น พูดสู้ข้าไม่ได้ทั้งสองพี่น้อง”
ไม่เพียงทักษิณเท่านั้น เสก โลโซยังได้พาดพิงไปถึง นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณ โดยกล่าวหาว่า นายพานทองแท้ มีพฤติกรรมบางประการเกี่ยวกับการใช้ยา ซึ่ง “เสี่ยโอ๊ค” ก็โพสต์ข้อความในอินสตาแกรม เขียนว่า “เราและนาย” ซึ่งเป็นชื่อเพลงของวงโลโซ แล้วระบุว่า “จากวานนี้ จะมีเรา เราละหน่ายยยย… จดจำไว้ ตัลหลอดปาย ม่ายยย…ทิ้งกัลลล ให้กำลังใจนะเพื่อน #หายไวๆนะ #กูเข้าใจเมิง #ไหวป่ะแก #ไม่ไหวบอกไหว”
และแน่นอนว่า การออกมาวิพากษ์วิจารณ์การเมืองในครั้งนี้ ก็มีคอการเมืองนำไปขยายความกันอย่างเอิกเกริกจากทั้ง 2 ฝั่ง โดยเฉพาะฝั่งคนเสื้อแดงที่ถึงขนาดประกาศแบนสินค้าในเครือของเสก โลโซ รวมทั้งวิเคราะห์ถึงต้นสายปลายเหตุกันเป็นตุเป็นตะเลยทีเดียว
ยกตัวอย่างโพสต์หนึ่งที่แชร์กันว่อนในหมู่คนเสื้อแดง “ข้อมูลจากคนใกล้ชิดยิ่งลักษณ์เผยว่า...ไอ้เสพ..มีโปรเจคงานเสนอ...จึงขอเงินสนับสนุนจากท่านทักษิณด้วยวงเงิน20ล้าน แล้วจะช่วยเดินสายหาเสียงช่วงเลือกตั้ง แต่ถูกปฏิเสธจากท่านนายกฯทักษิณ”
ขณะเดียวกัน เมื่อถูกตั้งข้อสังเกตว่า เสกโดนยาดีด เขาก็ไลฟ์สดผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กตัวเอง ด้วยการซื้อที่ตรวจฉี่หาสารเสพติดมา ก่อนทำการตรวจสดๆ ให้เห็นผ่านจอ ทั้งการปัสสาวะ วิธีการตรวจ ซึ่งผลปรากฏว่า ขึ้นมา “2 ขีด” นั่นหมายความว่าตรวจไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด
แน่นอน แม้สังคมจะรับรู้ว่า เขาเคยเสพยา และเคยได้รับการบำบัด รวมถึงเคยเข้ารับการบำบัดทางจิตเวชด้วยอาการ “ไบโพลาร์” แต่ก็อดตั้งข้อสงสัยไม่ได้เช่นกันว่า เกิดอะไรขึ้นกับการออกมา LIVE ของ “เสก โลโซ” ในครั้งนี้ โดยเฉพาะประเด็นที่เขากล่าวย้ำตลอดเวลาว่าโดนทักษิณหักหลัง ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า “เสกและทักษิณ” ขัดแย้งกันด้วยเรื่องอะไร และทำไมเสก โลโซถึงกล่าวหาว่า ทักษิณหักหลังเขา หรือเป็นเพียงแค่การดีดหรืออาการทางจิตเวชกำเริบเท่านั้น
ทั้งนี้ การ LIVE ของ เสก โลโซ แทบทุกครั้ง ผู้ช่วยคนสำคัญไม่ใช่ใครอื่นหากแต่เป็น อีฟ แม็กซิม หรือ อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์ แฟนสาวคนล่าสุดของเขา โดยอีฟจะทำหน้าที่เกาะติดการ LIVEให้เสกแบบตลอดทั้งวันทั้งคืน จนมาถึงการประกาศไลฟ์ครั้งสุดท้ายของเสก
อีฟ ซึ่งน่าจะเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเสกมากที่สุด(นอกจากหมาพันธ์6ปั๊ก) ตอบคำถามถึงข้อสงสัยเรื่อง LIVEสั้นๆ ว่า “อืม...(หัวเราะนิดหน่อยจนถึงปานกลาง) ไม่มีอะไรนะคะ ก็ปกติดี ก็เป็นคนใช้ชีวิตปกติ” ก่อนที่จะสรุปว่า “หนูยังไม่ได้แต่งงานกันนะ (หัวเราะ) เรื่องของเขา แนวความคิดของเขา ไลฟ์สดเขาคิดอะไรพูดเลย หนูมีหน้าที่รับฟังอย่างเดียวค่ะ”
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งอ้างว่าตนเองเป็นอดีตลูกน้องของ เสก ได้โพสต์ข้อความยอมรับว่าอดีตเจ้านายมีอาการป่วย ไม่ยอมไปพบหมอ และไม่ไปรับยาจากโรงพยาบาลจิตเวช แต่ชอบที่จะเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านอีกทั้งมีอารมณ์รุนแรงมากขึ้น
กล่าวสำหรับเสก โลโซนั้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สังคมจะเห็นภาพของเขาในฐานะนักร้องเพลงร็อกชื่อดังที่ฝากผลงานเพลงฮิตติดหู เช่น ใจสั่งมา, 14 อีกครั้ง, จักรยานสีแดง, ฝนตกที่หน้าต่าง, เราและนาย เป็นต้น จากนั้นก็เป็นเรื่องจุดยืนทางการเมืองในฐานะแนวร่วมคนเสื้อแดง แต่อีกมุมหนึ่งก็ต้องบอกว่าเสก โลโซ ถือเป็นนักธุรกิจซึ่งมีบริษัทในเครือและผลิตสินค้าออกมาวางจำนวนจำนวนไม่น้อย เช่น น้ำดื่ม เครื่องดื่มชูกำลัง โทรศัพท์มือถือ ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น
และเมื่อสืบค้นข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่ามีการจัดตั้งบริษัทที่มีชื่อ เสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ เป็นกรรมการ หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า เป็นเจ้าของบริษัทซึ่งมีจำนวน 7 บริษัทด้วยกัน ประกอบด้วย
1.บริษัท โลโซ เอนเทอร์เทนเมนท์ จำกัด กิจกรรมด้านความบันเทิง วันที่จดทะเบียน 17 เม.ย. 2540 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท 2. บริษัท โลโซ บีแอนด์เอ จำกัด ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม เบียร์สุรา เครื่องเกลือแร่ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มกรีนที โซดา 3.บริษัท โลโซ ดริ้งกิ้งวอเตอร์ จำกัด การขายส่งเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ 4.บริษัท โลโซ-ดี จำกัด การขายส่งเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ 5.บริษัท โลโซ มิวสิค จำกัด กิจกรรมด้านความบันเทิงและการนันทนาการอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ที่อื่น 6.บริษัท โลโซ เบฟเวอเรจแอนด์อไลเม้นท์ จำกัด ร้านสะดวกซื้อ/มินิมาร์ท และ 7.บริษัท โลโซ โฮลดิ้ง จำกัด การขายส่งสินค้าทั่วไปโดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง
เสกได้เคยให้สัมภาษณ์นิตยสาร GM เมื่อปี 2557 ถึงธุรกิจของเขาว่า “ก็ทำธุรกิจของผมไป ใช้อินเตอร์เน็ตนี่แหละ พวกออนไลน์ที่มันเคยทำให้รายได้ของผมหดหายไปนี่แหละ เอามันมาใช้งานให้เป็นประโยชน์บ้าง ตอนนี้ผมทำเบียร์ Pistonhead ในอนาคตจะมีเบียร์โลโซ และตอนนี้ทำกีตาร์ แอมป์กีตาร์ กีตาร์ที่ผมใช้แสดงจริง อัดเสียงจริง ของเหล่านี้ปลอมไม่ได้ ปลอมสิ กูจะจับมันให้หมด จากนั้นก็มาใช้พื้นที่ในโลกออนไลน์ของผม ที่มีคนตามเป็นล้าน ผมเชื่อว่ามีสาวกรอฟังสิ่งที่ผมพูดมากถึงหลักล้าน ผมก็คิดซะว่าไหนๆ อินเตอร์เน็ตมันเอาเงินกูไปเยอะแล้ว ทุกวันนี้ กูก็เลยใช้งานมันฟรี เอาเปรียบมันบ้าง ไม่จ่ายเงินมันสักบาท จ่ายแค่ค่าไฟกับแพ็คเกจอินเตอร์เน็ต”
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่16 ส.ค.ที่ผ่านมา “เสก โลโซ” ได้ออกมายืนยันอีกครั้งว่า สิ่งที่ตนนั้นไม่ใช่เพราะความเมามาย หรืออย่างที่ประชาชนเข้าใจผิดว่า เป็นบ้าหรือเพี้ยนตามที่แต่ละบุคคลพูด พร้อมยืนยันว่าในแต่ละวันจะนอนเพียง 2-3 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว และการไม่ได้นอนไม่ได้หมายความว่า เสพยา ก่อนที่จะประกาศหยุดการ LIVE ในวันเดียวกัน
“ในวันนี้ผมต้องการจะบอกสังคมว่า ผมได้หยุดไลฟ์แล้ว เพราะผมได้เสนอกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ยุติบทบาททางการเมืองเสีย เพราะบ้านเมืองต้องการความสงบสุข ซึ่งผมทราบมาว่า นายทักษิณมีภารกิจบางอย่างที่จะทำ ผมจึงขอให้ยุติภารกิจที่กำลังจะทำ เพราะผมก็หยุดไลฟ์แล้วเช่นกัน”
“ส่วนทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าผมควรไปปรับพฤติกรรมนั้นผมมองว่าเป็นเพราะความห่วงใย ผมจึงได้หยุดไลฟ์ หากตนไม่หยุดให้ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งทหารมาที่หน้าบ้านและไปพูดคุยกันได้เลย ผมเป็นลูกผู้ชายพอ” เสก โลโซกล่าว
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ เสก LIVE ได้ทำให้สังคมมโนหรือจินตนาการไปต่างๆ นานา ส่วนจะมีเนื้อหาสาระอะไรหรือไม่ หรือเป็นเพียงการสร้าง “ตอบสนอง” ความต้องการของตนเองในการหาที่ทางในการทำธุรกิจ โปรดใช้วิจารณญาณในการพิจารณา
แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่เขาทำได้ “หลอน” ผู้คนทั้งสังคมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “คนเสื้อแดง” และ “ระบอบทักษิณ”