xs
xsm
sm
md
lg

ล้างมือในอ่างทองคำ

เผยแพร่:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร

<b>มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย</b>
ครบรอบ 3 เดือนหลังการชนะเลือกตั้งถล่มทลาย ซึ่งเป็น Mission Impossible (ที่ชนะทั้งๆ ที่ฝ่ายรัฐบาลปิดกั้น และโกงการเลือกตั้งสารพัด) ดร.เอ็ม ด้วยอายุสูงมากถึง 93 ปี (เกิด 10 กรกฎาคม 1925) ได้เข้ามาจัดการกับปัญหาการฉ้อโกงของรัฐบาลก่อนหน้า, อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ และเตรียมกรุยทางเพื่อให้ประเทศมาเลเซียเดินหน้าไปสู่การกินดีอยู่ดีเสมอหน้า ก่อนที่จะส่งไม้ให้อันวาร์ อิบราฮิม ได้ชูธงขับเคลื่อนต่อไป

เขาให้สัมภาษณ์ 1 ชม.กับซีเอ็นเอ็น สะท้อนภาพวิธีการและมุมมองของรัฐบุรุษท่านนี้ ที่ทุ่มเทให้กับมาเลเซียแม้ในบั้นปลายชีวิต ที่มีเวลาไม่มากแล้ว แทนที่จะพักผ่อนเลี้ยงหลานและปล่อยบ้านเมืองตกอยู่ในมือของเหล่าคนโกงชาติ

เขาบอกว่า เขาทนเสียงเซ้าซี้ไม่ไหว ให้ออกมาจัดการกับอดีตนายกฯ นาจิบ ราซัค ที่เขาเป็นผู้แต่งตั้งให้เป็นรมต. (ที่อายุน้อยที่สุดเพียง 30 ต้นๆ ในกระทรวงเยาวชน) เพราะนาจิบโกงกินบ้านเมือง หลังจากเป็นนายกฯ เขาย้ำว่าอำนาจมากระดับนายกฯ ทำให้นาจิบเปลี่ยนไป (Power Corrupts Him) ทั้งๆ ที่เป็นทายาทของอดีตนายกฯ คนที่ 2 (อับดุล ราซัค) ที่รักชาติมาก และบริหารอย่างโปร่งใส เพราะขณะเป็นรมต.ของดร.เอ็ม นายนาจิบยังไม่ออกลาย เมื่ออำนาจยังไม่สูงสุด

ดร.เอ็ม ไม่คิดว่าจะชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาล เพราะมีการปิดกั้นสารพัดและโกงการเลือกตั้ง (กฎการห้ามหาเสียงจิปาถะ รวมทั้งกฎหมายใหม่เข้มงวดด้านการเดินขบวนประท้วงรัฐบาล) และเมื่อเข้ามาตั้งแต่วันแรก ก็ได้รีบห้ามนายนาจิบและภรรยาเดินทางออกนอกประเทศ ต่อมาได้อายัดทรัพย์สินของคู่สามีภรรยาโกงชาติ รวมทั้งลูกๆ ของเขาด้วย ไม่ให้หนีไปเสวยสุขที่ดูไบหรือลอนดอนแบบประเทศไทย

เขาเน้นเรื่องการปลดข้าราชการระดับสูงสุด และหน่วยงานอิสระ เพราะมิฉะนั้น งานที่จะทำเพื่อชาติจะไม่สำเร็จ เมื่อมีคนโกงของรัฐบาลเก่ายังทำงานอยู่เต็มที่ ซึ่งเขาได้ปลดอัยการสูงสุด (ด้วยการกดดันให้เขียนจม.ลาออก และมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย), ประธานป.ป.ช., ผู้ว่าแบงก์ชาติ ซึ่งเขาบอกว่า Top Echelon เป็นพวกโกงชาตินั่งกันเต็มไปหมด แต่เขาจะเก็บคนระดับรองๆ ที่จะต้องเปลี่ยนมาทำงานกับรัฐบาลใหม่อย่างโปร่งใส

สำหรับเพื่อนบ้านที่มีอิทธิพลสูงมากคือ จีน เขาบอกว่าจะไม่ไปขวางต่อต้าน เพราะมาเลเซียเล็กกว่าจีนมาก แต่ต้องทำงานร่วมกัน แม้โครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานยักษ์ๆ ที่นาจิบได้เดินหน้าอนุมัติให้จีนทำ เขาได้สั่งหยุดโครงการเหล่านี้ ก็เพื่อจะได้ทบทวนพิจารณากันใหม่ โดยขณะนี้เขากำลังจะเดินทางไปเยือนจีน ซึ่งการไม่ขวางทางจีน ก็คล้ายๆ กับปธน.ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์ ที่หันมาร่วมมือกับจีน แทนการทำสงครามกับจีน

สำหรับอันวาร์ อิบราฮิม อดีตทายาทของดร.เอ็ม ที่เขาเคยจับเข้าคุกด้วยข้อหาพิลึกพิลั่นชายรักชาย เขาบอกว่า เขาพูดกับอันวาร์ว่า ถ้าเราทั้งสองยังมัวทะเลาะกันอยู่ คนที่ชนะคือคนโกงชาติชื่อนาจิบ ดังนั้น เขาและอันวาร์จะไม่หันไปมองอดีต (ที่น่าขมขื่นระหว่างคนทั้งสอง) แต่จะมองไปในอนาคตเท่านั้น

ตามที่ได้พูดในช่วงหาเสียงว่า ดร.เอ็มจะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ประมาณ 2 ปี แล้วจะให้อันวาร์ขึ้นมาเป็นนายกฯ (อันวาร์จะต้องลงสมัคร ส.ส.แล้วจึงจะเข้ามาเป็นนายกฯ) ดร.เอ็มได้หยุดปิดทางสำหรับการบริหารแบบเป็ดง่อย ถ้ากรณีข้าราชการเดาทางถูกว่า ดร.เอ็มจะลงจากอำนาจในอีก 2 ปี อาจไม่ร่วมมือในการขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาล ดร.เอ็มจึงตอบว่า มันขึ้นอยู่กับปชช. ถ้ายังให้เขาอยู่บริหารอีกต่อไป เขาก็จะทำตามเสียงของปชช. (ตอนนั้นเขาจะอายุ 95 แล้ว คงน่าจะได้พักผ่อนจริงๆ เสียที) และเขาตอบคำถามของซีเอ็นเอ็นว่า เวลาของเขาเหลือน้อยเต็มทีที่จะทำเพื่อชาติ เขาจะไม่มีเวลามากพอได้ดำเนินงานตามที่หวังทุกอย่าง แต่จะกรุยทางโดยสร้างแนวทางไว้ให้ขับเคลื่อนกันต่อไป
เขายังพูดถึงปธน.ทรัมป์ว่า เปลี่ยนใจตลอดเวลา และขับเคลื่อนในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เช่น จะสร้างกำแพงกั้นระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก แต่จะให้เม็กซิโกจ่ายค่าก่อสร้าง ซึ่งเป็นไปไม่ได้

เขาถูกถามเรื่องชีวิตส่วนตัว ซึ่งเขาเล่าว่า ช่วงวัยรุ่น เขาสนใจจะเป็นนักกฎหมาย แต่เขาได้ทุนให้ไปเรียนแพทย์ ก็เลยต้องเรียนตามเงินทุน เพราะเขาไม่มีเงินจะเรียนเองได้

เขาได้พบรักกับนักศึกษาแพทย์ ซึ่งมาเป็นภรรยาของเขาขณะนี้ โดยช่วงแรกๆ ก็มีทะเลาะกันบ้าง เพราะมีความคิดเห็นและนิสัยส่วนตัวบางอย่างอาจไม่ตรงกัน แต่เขามาคิดได้ว่า เขาคงเปลี่ยนเธอให้มาเหมือนเขาไม่ได้ทั้งหมด และเธอก็จะเปลี่ยนเขาให้เหมือนเธอทั้งหมดไม่ได้เช่นกัน ก็เลยเลิกทะเลาะกันกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ตามนิสัยที่อาจไม่เหมือนกันเป๊ะ อยู่ร่วมกันมาถึง 60 กว่าปีแล้ว โดยดร.เอ็มบอกว่า เธอและเขาเหมือนกันมากในเรื่องความรักชาติ และแนวทางทำงานเพื่อชาติ

เป็นการล้างมือในอ่างทองคำจริงๆ สำหรับสุภาพบุรุษอาวุโส ที่ทุ่มเทให้กับชาติอย่างเต็มที่ตลอดช่วง 22 ปีที่เป็นนายกฯ ครั้งแรก และก่อนนั้นก็เป็นรมต.หลายกระทรวง

เขาเคยเสนอความคิดที่จะไปขัดขวางนายกฯ คนแรก อับดุล ราห์มาน มาแล้ว (ทั้งๆ ที่ดร.เอ็มและอับดุล ราห์มาน เป็นชาวรัฐ Kedah ทั้งคู่) ที่จะให้คงทหารอังกฤษและทหารเครือจักรภพบางส่วนไว้ในมาเลเซีย, หลังได้รับเอกราชแล้ว รวมทั้งแนวคิดของดร.เอ็ม ที่ต้องการผลักดันให้ชาวท้องถิ่นมาเลย์ (คือ ภูมิบุตร) ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ได้รับการศึกษา และการเข้าถึงแหล่งของเงินเพื่อทำธุรกิจ ลืมหน้าอ้าปาก รวมทั้งมีบ้านพักอาศัย และการก้าวหน้าในชีวิตข้าราชการ แทนการเป็นประชากรชั้นสองของประเทศ ที่ถูกกลุ่มคนจีนยึดครองเศรษฐกิจของชาติเอาไว้หมด ซึ่งบิดาของมาเลเซียคือ นายกฯ คนที่ 1 ท่านอับดุล ราห์มาน ไม่สนับสนุนแนวคิดของดร.เอ็ม จนพรรคอัมโนขับดร.เอ็มออกมาจากพรรคครั้งหนึ่ง...ต่อมานายกฯ คนที่สอง-อับดุล ราซัค (พ่อของนาจิบ) ได้เรียกเขามาเป็นรมต.ศึกษา และเดินหน้ากับนโยบายของดร.เอ็มในที่สุด

ผู้นำที่เป็นเผด็จการโกงบ้านกินเมืองรุ่นอาวุโสหลายคน ต้องล้างมือในอ่างน้ำครำที่สกปรก ไม่ว่าจะเป็น โรเบิร์ต มูกาเบ แห่งซิมบับเว ที่ต้องถูกดันให้ลาออกอย่างไร้ศักดิ์ศรี เมื่ออายุ 95 และมือเปื้อนเลือดกับการทำร้ายฆ่าปชช.เพื่อโกงกินชาติอย่างมูมมาม

อดีตปธน.จาค็อบ ซูมา แห่งแอฟริกาใต้ ก็มูมมามโกงกินชาติร่วมกับตระกูลชาวอินเดีย “คุปตะ” จนต้องจำใจลาออก ไม่งั้นจะถูกถอดถอน พร้อมคดีฉ้อโกงปชช. โผล่มามากมายหลังหมดอำนาจ ; ทั้งเผด็จการมาร์กอส, นายพลซูฮาร์โต, รวมทั้งเพื่อนบ้านที่กัมพูชา ที่ผู้นำขายชาติอย่างที่ International Crisis Group ตั้งสมญาว่า “A Country for Sale” ที่กำลังโกงชาติอย่างเมามัน ช่างไม่เห็นสัจธรรมของผู้นำโกงชาติว่าจะจบตำนานอย่างอเนจอนาถแค่ไหน


กำลังโหลดความคิดเห็น