xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ตามดู 5 ปี บูรณะกลุ่มตึกทำเนียบรัฐบาล 500 ล้านถึงไหน ?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะทำงานติดตามการปรับปรุง ตึกบัญชาการ 1 และ ตึกบัญชาการ 2 “โครงการพัฒนาปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล” (ตึกบัญชาการ 1 และ 2 พร้อมส่วนประกอบ) งานปรับปรุง ตึกบัญชาการ และส่วนประกอบ ระยะที่ 2 ที่มี นางวิสุนี บุนนาค รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร เป็นประธาน มีสำนักสถานที่และรักษาความปลอดภัย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าของพื้นที่ ได้เชิญเจ้าหน้าที่โครงการทั้งในส่วนของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเอกชน มาตรวจการบ้าน หลังจากอาคารทั้ง 2 แห่ง ได้เริ่มปรับปรุงมาตั้งแต่ปลายปี 2557

ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ มีการปรับปรุงตึกต่าง ๆ ภายในทำเนียบรัฐบาลให้มีความสวยงามสอดคล้องกับตึกไทยคู่ฟ้า และตึกสันติไมตรี ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอ เวเนเซียน กอติก รวมถึงได้ก่อสร้างอาคารเรือนรับรองด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อรับแขกสำคัญของรัฐบาล
 
โดย 2 อาคารดังกล่าว ใช้งบประมาณ รวมทั้งสิ้น 169 ล้าน โดยแบ่งเป็นเฟส 1-2 การก่อสร้างเป็นลักษณะคล้าย “โครงครอบ” ตึกบัญชาการ 1 และ 2 โครงครอบดังกล่าวเป็นลักษณะเดียวกับ “เคสมือถือ” เป็นเคสที่ครอบด้านหน้าและด้านข้างของตัวตึก ซึ่งจะบังตัวอาคารเก่าทั้งหมด วัตถุประสงค์เพื่อให้ตึกบัญชาการ 1 และ 2 เป็นสถาปัตยกรรมโบราณเหมือนอาคารหลักในทำเนียบรัฐบาล

ที่ผ่านมา“ตึกบัญชาการ” เคยมีปัญหาการปรับปรุง จนเกิดปัญหาเลยกำหนด ซึ่งเจ้าของโครงการอ้างว่า “ติดปัญหาทางเทคนิค”

กรณีของหน่วยงานรัฐที่เข้ามารับผิดชอบโครงการ “กรมโยธาธิการและผังเมือง” ใช้งบประมาณ ปี 2557 จ้างโครงการพัฒนาปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล (ตึกบัญชาการ 1 และ 2 พร้อมส่วนประกอบ) งานปรับปรุง ตึกบัญชาการ 1,2 และส่วนประกอบ ระยะที่ 2 ด้วย “วิธีพิเศษ”

วงเงินงบประมาณ ได้รับจัดสรร 40,655,513 บาท เป็นการปรับปรุงอาคารที่สำคัญต่าง ๆ ของทำเนียบรัฐบาลรวมทั้งภูมิทัศน์และระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพดีทั้งด้านเทคโนโลยีที่พร้อมใช้งานและมีความสง่างาม เหมาะสมสำหรับใช้เป็นศูนย์กลาง บริหารราชการ

โครงการนี้ ในเฟสสอง การก่อสร้างดังกล่าวดำเนินการโดย “กรมศิลปากร” ใช้วิธีพิเศษจ้างบริษัท กันต์กนิษฐ์ ก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้รับเหมา วงเงิน 31,220,000 บาท (จากงบประมาณ 31,716,905 บาท) ทำสัญญาเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 59

แผนงาน ปรับปรุงสถาปัตยกรรมภายนอกตึกบัญชาการ 1 และ 2 โดยทำเป็นโครงสวมตัวอาคารรูปแบบเดียวกับตึกไทยคู่ฟ้า และตึกสันติไมตรี

มีประเด็นที่น่าสนใจในการจ้างเอกชนเพื่อปรับปรุงตึกบัญชาการ 1-2 ครั้งนี้ คือ ทำไมจึงต้องใช้วิธีพิเศษในการจ้าง หรือว่าการก่อสร้างดังกล่าวจำเป็นต้องเร่งรีบอย่างมาก และเอกชนรายนี้เป็นบริษัทเดียวที่มีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างงานสไตล์ ‘นีโอ เวเนเชี่ยน กอติก’เพียงแห่งเดียวกระนั้นหรือ ?

สำหรับในเฟสสอง นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เคยบอกว่า ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงการเก็บรายละเอียดเพียงเล็กน้อย เช่น การติดม่านและพรม รวมทั้งการทำความสะอาดพื้นที่ ติดตั้งจอมอนิเตอร์และอุปกรณ์ทางเทคนิคในห้องประชุม มีการส่งมอบงาน เฟสแรก เดือน ก.ย.59 และเฟสสอง มีการประชุมล่าสุดเมื่อ 2 ส.ค.61

ย้อนกลับไปดูที่มาของการปรับปรุงกลุ่มอาคารในทำเนียบรัฐบาล ในช่วง 4 ปีของรัฐบาล คสช.จะพบว่า

เฟสแรกเริ่มงานทันทีในปี 2557 หลังจาก คสช. ได้อนุมัติงบ 252 ล้านบาท ปรับปรุงและซ่อมแซม กลุ่มอาหารในทำเนียบรัฐบาล ได้แก่ ตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี ตึกนารีสโมสร ตึกบัญชาการ 1 และ 2 รวมถึงห้องทำงานสื่อมวลชน และยังข้ามไปถึงกลุ่มอาคารบ้านพิษณุโลก หลังจาก คสช. อนุมัติงบเพิ่มเติมอีก 182 ล้านบาท ซ่อมแซมปรับปรุงบ้านพิษณุโลก บ้านพักนายกรัฐมนตรี หลังไม่ได้รับการซ่อมแซมมานานกว่า 12 ปี มี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลโครงการ

ดำเนินการมาตั้งแต่เดือน ก.ค. 57 มีการเลื่อนส่งมอบตึกบัญชาการ 1 เพราะเสร็จไม่ทัน หลังจากผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจความเรียบร้อยของการบูรณะซ่อมแซม ติดปัญหาความล่าช้าระบบราชการในการจัดซื้อครุภัณฑ์ใหม่ ขณะที่ในส่วนของห้องประชุม 501 301 และ 302 ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 60 ล้านบาท

มีการเลือก “บริษัท อัศวโสภณ จำกัด” เข้ามาดำเนินการเรื่องระบบเครื่องเสียง และจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ เพราะเห็นว่ามีความเชี่ยวชาญและใช้อุปกรณ์และระบบเครื่องเสียงที่ค่อนข้างดี

ตอนนั้นนำมาสู่ดราม่า จัดซื้อจัดจ้างไมโครโฟนแพง “ไมโครโฟนเทพ” จนต้องยกเลิกในที่สุด

แต่เฟสแรก ตึกไทยคู่ฟ้า ตึกนารีสโมสร ตึกสันติไมตรี ดำเนินการแล้วเสร็จ เพราะไม่ได้ปรับปรุงอะไรมาก ต่างกับของตึกบัญชาการ 1 และ 2 ปี 2558 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายกิจการในขณะนั้น ได้ทยอยรับมอบงาน ตั้งแต่เดือน ก.ย. 58 เช่นเดียวกับห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 มีการส่งมอบเดือน พ.ย.58 เช่นเดียวกับ โรงอาหาร-ห้องพยาบาล

ปี 2559 มีการอนุมัติงบประมาณเพิ่มอีก 31 ล้านบาท ภายใต้การควบคุมดูแลของ “กรมศิลปากร” คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ. 2560 พร้อมกับอาคารเรือนรับรองหลังใหม่ โดย “กรมศิลปากร” ใช้วิธีพิเศษจ้างบริษัท กันต์กนิษฐ์ ก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้รับเหมา

ในปีนี้นั้น ครม. มีมติ (9 ก.พ.) อนุมัติงบ 137 ล้านบาท สร้างอาคารเรือนรับรองหลังใหม่หรือ “ตึกภักดีบดินทร์”

ปี 2560 เกิดปัญหาขึ้นมาอีกครั้ง เพราะ โครงการตกแต่งตึกบัญชาการ 1-2 ภายใต้การควบคุมดูแลของกรมศิลปากร ได้หมดสัญญาจ้างเมื่อ 21 ม.ค.60 ภายหลังจากที่มีการดำเนินการตั้งแต่ 28 มี.ค.59 รวมระยะเวลา 300 วัน

พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ชี้แจงในครั้งนั้นว่า จะขอเช็กรายละเอียดและระเบียบก่อน แต่เบื้องต้นได้สอบถามไปยังผู้รับผิดชอบแล้ว ซึ่งได้ขอให้นำรายละเอียดสัญญาจ้างมาให้ดู

“เท่าที่ทราบเป็นปัญหาทางเทคนิค คือวันไหนที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีแขกจากต่างประเทศมาเข้าพบ หรือรองนายกฯมีประชุมสำคัญๆ ภายในตึกดังกล่าวเราได้ขอหยุดการปรับปรุง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึง”

31 ส.ค. 60 เปิดใช้ “ตึกภักดีบดินทร์”ชื่อทางการของ อาคารเรือนรับรองแห่งใหม่ ในทำเนียบรัฐบาล ที่นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นคนตั้งชื่อ ใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปี ด้วยงบประมาณ 137 ล้านบาท ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอธิก คล้ายตึกไทยคู่ฟ้า แต่ลดขนาดเป็นอาคารชั้นเดียว และลดลวดลายลง ไม่ให้โดดเด่นเหนือตึกไทยคู่ฟ้า

อาคารดังกล่าว แบ่งเป็น 3 ส่วน โถงกลางใช้จัดประชุม จัดเลี้ยง และกิจกรรมของรัฐบาล ความจุ 150 คน ห้องรับรอง 2 ห้อง ห้องแรกเป็นห้องโดมสูงสีทอง ชื่อ “ทองธารา” และห้องรับรองเล็ก ชื่อ “วนาสิริ” โดย พลเอกประยุทธ์ ตั้งชื่อให้ทั้งหมด
             
   ในปีเดียวกันมีอุบัติเหตุ ลูกจ้างบริษัทรับเหมา อาคารตึกบัญชาการ 1-2 ตกจากนั่งร้านขณะปฏิบัติงานได้บาดเจ็บ มีดราม่านิดหน่อย ภายหลัง “กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน” (กสร.) เข้าตรวจความปลอดภัยได้สอบข้อเท็จจริงนายจ้าง ที่ยอมรับว่า ยังไม่ได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง เรื่อง กำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง พ.ศ. 2551

คือ ไม่ได้จัดทำราวกั้นหรือรั้วกันตก ตาข่าย สิ่งปิดกั้น หรืออุปกรณ์ป้องกันอื่นใด ที่มีลักษณะเดียวกัน เพื่อป้องกันการพลัดตกของลูกจ้างหรือสิ่งของ และจัดให้มีการใช้สายหรือเชือกช่วยชีวิตและเข็มขัดนิรภัยพร้อมอุปกรณ์หรือเครื่องป้องกันอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกันให้ลูกจ้างใช้ในการทำงานเพื่อให้เกิดความปลอดภัย

จนปี 2561 เจ้าหน้าที่ได้ทำการถอดนั่งร้านการปรับปรุงภูมิทัศน์ของตึกบัญชาการ 1 และ 2 (เพื่อให้สอดคล้องกับตึกไทยคู่ฟ้า) ออกเป็นการชั่วคราว เพื่อเตรียมรองรับการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ
 
ในปีเดียวกันนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามความคืบหน้าการปรับปรุงอาคารก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า “ตึกยังไม่เสร็จใช่ไหม เหลือเก็บสีอีกใช่ไหม”

ล่าสุดเมื่อ 2 ส.ค. 61 นางวิสุนี บุนนาค รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร เป็นประธานการประชุมติดตามการปรับปรุง ตึกบัญชาการ 1 และ ตึกบัญชาการ 2 พบว่า การบ้านที่ได้รับคืบหน้าไปนิดนึง




กำลังโหลดความคิดเห็น