ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ปฏิบัติการกู้ชีพ 13 เยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง -ขุนน้ำนางนอน ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. ก่อนเจ้าหน้าที่นานาชาติ หรือ “รวมดาราโลก”ที่เป็นความร่วมมือของไทยกับหลายประเทศ จะแสดงความ “อหังการ์”สู้กับธรรมชาติ ทั้งฝน ทั้งความหฤโหดของถ้ำ กอบกู้ 13 ชีวิตออกมาอย่างปลอดภัยทุกคน ถือว่า เป็นสิ่งที่ทั้งโลกตกตะลึง
เพราะเป็นกรณีนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกใบนี้ ขณะที่ไทยเป็นเพียงประเทศเล็กๆ ไม่ได้มีเทคโนโลยีหรือความชำนาญแต่อย่างใด แต่กลับทำในสิ่งที่ใกล้เคียงกับ“ปาฏิหาริย์”ได้ในระยะเวลา 18 วัน แถม “หมูป่า”ทั้งหมดออกมาจากความมืดมิดครบ 32
แน่นอนว่า หากไม่ได้ความช่วยเหลือจากนานาประเทศ และทุกภาคส่วนในชาติ ภารกิจนี้คงไม่สำเร็จเป็นแน่แท้ จึงต้องขอบคุณทุกภาคส่วน แม้แต่แม่ครัวที่คอยปรุงอาหารเพื่อลำเลียงส่งไปข้างบน ถือเป็นเหมือนภารกิจ “ร่วมมือร่วมใจ”อย่างแท้จริง
อย่างไม่ต้องสงสัย คนที่ได้รับความชื่นชมอย่างเด่นชัด จากทั้งในประเทศและนานาชาติ คงหนีพ้น “กัปตันเชียงราย”ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย (ศอร.)
ถ้าจะบอกว่า เพราะ“ณรงค์ศักดิ์”เป็น ผบ.เหตุการณ์ เลยดูโดดเด่น นั่นอาจจะใช่ แต่เป็นแค่เสี้ยวเดียวเท่านั้น เนื่องจากถ้ามามองในเนื้องานตามสภาพจริง และการบริหารจัดการ นี่คืองานที่ไม่ใช่จะส่งใครมาทำได้แบบมั่วซั่ว เพราะมันมีชีวิตคนเป็นเดิมพัน หาคนอย่างเขายาก
มันถูกที่ ถูกเวลา และเป็นโชคดีของ 13 ชีวิต ที่ขณะเกิดเหตุ “ณรงค์ศักดิ์”ยังเป็นพ่อเมืองเชียงรายอยู่ ทำให้ปฏิบัติการที่เป็นไปไม่ได้ มัน “เป็นไปได้”
ความเด็ดขาด ความเป็นคนเก่ง ความเป็นนักบริหาร และความรู้ความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ในตัว มันสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบพอเหมาะพอเจาะ
แม้แต่สื่อต่างชาติยังยกย่องว่า“ณรงค์ศักดิ์”เป็นคนเก่ง และตัดสินใจดี ที่ประสานขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ ซึ่งบางคนเป็นคอนเนกชั่นที่เขามีอยู่แล้วส่วนตัว ดูเหมือนว่าการตัดสินใจทุกอย่างของเขา จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแทบทั้งหมด
“ณรงค์ศักดิ์”กลายเป็น “ฮีโร่”ของทุกคนในประเทศ รวมถึงโลก ที่พากันแซ่ซ้องกับ “แม่ทัพใหญ่”ที่ถ้ำหลวงคนนี้ ซึ่งหลังจากจบเรื่องนี้บริบูรณ์ เขาจะหมดภารกิจที่เชียงราย และกลับไปบริหารจังหวัดพะเยา ที่มีการแต่งตั้งไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
จากนั้นกระแส “13 หมูป่า”จะค่อยๆ หายไปตามกาลเวลาตามประสาคนไทย พร้อมๆ กับชื่อ “ณรงค์ศักดิ์”ที่จะค่อยๆ หายไปเหมือนกับ “ฮีโร่”คนอื่นๆ ยกเว้นเมื่อมีการหยิบยกเรื่องมหัศจรรย์ที่ถ้ำหลวงมาคุยกันอีกครั้ง
น่าเสียดายฝีมือคนเก่งๆ แบบนี้ ไม่ใช่เพราะเขาปฏิบัติภารกิจกอบกู้ 13 ชีวิตสำเร็จ แต่เพราะระหว่างการปฏิบัติภารกิจ ทั่วโลกได้เห็นถึงความสามารถหลากหลายด้าน นอกเหนือจากภาวะความเป็นผู้นำที่เด่นชัดอย่างที่ปรากฏออกมาให้เป็นที่ประจักษ์แล้ว
ฝีมือและคนอย่าง “ณรงค์ศักดิ์”สามารถทำงานใหญ่ๆ ได้สบาย ถ้าได้ใช้ความสามารถที่แสดงมันออกมาจากปฏิบัติการที่ถ้ำหลวง สำหรับเขาเรื่องการอวยยศ หรือตำแหน่งเป็นของขวัญ คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่อยากได้แน่
ถ้าได้รู้ประวัติที่ผ่านมาว่า การทำงานของเขาคือ ลักษณะของ “ตงฉิน”ไม่คล้อยตามนาย หรือเชลียร์ให้ได้ดี ไม่เช่นนั้นในการโยกย้ายล่าสุดคงไม่ถูกโยกไปจังหวัดที่เล็กกว่าเชียงราย อย่าง “พะเยา”
ถ้า “ณรงค์ศักดิ์”เป็นพวกทำงานเอาหน้า หรือหวังในลาภยศสรรเสริญ คนระดับเขาอาจจะได้ดีกว่านี้แน่นอน หากแต่เป็นเพราะเขาคือ “ตงฉิน” หรือคนส่วนน้อยในระบบราชการ ที่ผู้มีอำนาจมักจะไม่ชอบ ข้อหา“สั่งไม่ได้”ซึ่งพบได้ทุกยุคทุกสมัย
ต่อให้มีการเยินยอ หรือเสียงเรียกร้องให้มีการอวยยศ แก่ “ณรงค์ศักดิ์” เพื่อเป็นการตอบแทนผลงานอันลือลั่นก้องโลก แต่เชื่อขนมกินได้ จะมีข้ออ้างและเหตุผลสารพัด จากผู้มีอำนาจในการตัดสินใจย้ายเขาไปในที่ที่เล็กกว่า
ด้วยเหตุผลที่บอกใครไม่ได้ว่า ประชาชนชอบ แต่ “ผู้มีอำนาจ”ไม่ได้ชอบด้วย
หากรัฐบาลจะอวยยศจริง ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นเท่าไหร่ ที่ผ่านมาการทบทวนการแต่งตั้ง หรือแต่งตั้งใหม่ในระยะเวลาติดๆ กันของคนๆ เดียวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเชื่อเถอะว่า ไม่มีประชาชนคนไหนจะออกมาต่อว่า ในการโยกย้ายเขาอีกครั้งไปในที่ที่เหมาะสม คู่ควรกับความสามารถ กลับกันจะมีแต่เสียงอนุโมทนา สาธุ
มันอยู่ที่ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล้าที่จะบอกพี่รองตัวเองอย่าง “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้กล้าเปลี่ยนในสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่
ปัญหาเรื่องนี้ไม่ซับซ้อนอะไรเลย ปัญหาคือ แค่คิดจะทำหรือไม่ ?!?
หรือจะฉวยโอกาสที่รู้จักนิสัยคนไทย ที่ขี้หลง ขี้ลืม กระตือรือร้นเฉพาะช่วงเกิดกระแส ให้เรื่องนี้เงียบหายไปเอง แล้วปล่อยให้คนมีฝีมือ ที่ไม่ใช่พวกตัวเอง อยู่ในที่มืดต่อไป
จริงๆ งานที่ “ณรงค์ศักดิ์”ถนัดจากการแสดงออกมาในปฏิบัติการที่ถ้ำหลวงครั้งนี้ มีหลายอย่างที่เหมาะสมกับระดับที่สูงกว่าในกระทรวงมหาดไทย ด้วยซ้ำ ไม่ต้องถึงขนาดปูนบำเหน็จวันนี้ วันพรุ่ง กระโดดพรวดไปปาดหน้าเค้กคนอื่นที่นั่งอยู่แบบดื้อๆ แต่ให้ไปตามลำดับ ที่ไม่ผิดกฎ กติกา ซึ่งมันมีหลายตำแหน่งที่เขาน่าจะเป็นผู้นำที่ดีได้ ในองค์กร กรม กองนั้นๆ
ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำงานของรัฐบาลเอามากๆ ถ้าได้คนแบบนี้ไป ยกเว้นพวกที่คิดไม่ซื่อ กลัวจะไปเป็น“ตอ”ในการแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้นที่ไม่ยินดีต้อนรับเขา
ถ้ารัฐบาลนิ่ง และปล่อยผ่าน ก็อาจจะถูกคนนินทาหมาดูถูกได้เหมือนกันว่า พอใจกับระบบแบบนั้น สวนทางกับสิ่งที่ป่าวประกาศว่า จะปฏิรูปล้าง “กังฉิน” เพื่ออภิบาล “คนเก่ง - คนดี”
ถ้ารัฐบาลฉลาด รู้ว่าควรต้องทำอย่างไร แต่ถ้าดื้อดึง เห็นสังคมไทยเป็นสังคมขี้ลืม ก็จะพลาดในการใช้คนเก่งเพื่อมาสนับสนุนงานตัวเอง