xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เปิดใจ “พ่อ”- เปิดวาร์ป “ลูกสาว” ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กลายเป็นบุคคลที่ได้รับการกล่าวขานและได้รับการยกย่องมากที่สุดในชั่วโมงนี้ เลยก็ว่าได้ สำหรับ “ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งขณะนี้รั้งตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาและบัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ศอร.)

ความฮิตและฮอตของผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ทำให้มีการสืบเสาะค้นหาเรื่องราวและชีวประวัติของ “ฮีโร่” รายนี้ ซึ่งก็ทำให้ได้พบกับความน่าสนใจมากมาย โดยหนึ่งในนั้นก็คือคำบอกเล่าของ “ลุงประสาน โอสถธนากร” ผู้เป็นพ่อ ที่ปัจจุบันเปิดร้านขายยาชื่อ “ประสานเภสัช” ตั้งอยู่ที่ปากซอยภาวนา ลาดพร้าว 41 กรุงเทพมหานคร(กทม.)

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร Ph.D. และ M.Sc. (Business Analytics and Data Science) สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Arnond Sakworawich” ถึงบทสนทนาที่เจ้าตัวไปสัมภาษณ์ ลุงประสานเอาไว้ว่า “ผมเป็นลูกค้าประจำของร้านประสานเภสัชที่ปากซอยภาวนา ลาดพร้าว 41 คุณลุงประสาน โอสถธนากร เจ้าของร้าน เป็นคนซื่อตรง พูดตรง โอบอ้อมอารี ขายของในราคาเป็นธรรม ไม่โก่งราคา และมีน้ำใจ ทำให้เป็นที่ชอบพอของชาวบ้านย่านนี้และขายยามากว่า 50 ปี แล้ว คุณลุงมีลูก 4 คน เป็นผู้หญิงหนึ่งคนผู้ชายสามคน มีหลาน 4 คน เป็นหลานสาวสามคนและหลานชายหนึ่งคน เวลาไปซื้อยา คุณลุงจะเล่าเรื่องลูกหลานให้ฟังด้วยความภาคภูมิใจมากว่าเลี้ยงลูก 4 คน หลาน 4 คน ได้เรียนหนังสือกันดีๆ และจบปริญญาโททุกคน คุณลุงพูดถึงลูกหลานอย่างมีความสุขที่สุด

“วันนี้ผมได้ไปซื้อยาที่ร้านประสานเภสัช เลยถามคุณลุงว่า เลี้ยงลูกอย่างไร ให้ได้ดี แบบท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย คุณลุงยิ้มแบบคนใจดี แล้วตอบว่า ผมเลี้ยงลูกแบบทหาร เลี้ยงลูกให้มีวินัย เลี้ยงลูกให้เป็นคนดี หลานผมก็เลี้ยงแบบเดียวกัน”

ลุงประสานเล่าด้วยว่า “ผมเป็นทหารเสนารักษ์ ที่ค่ายจักรพงษ์ จังหวัดปราจีนบุรี อันที่จริงผมเป็นคนแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา ก่อนจะไปเป็นทหารผมเกเรมาก เล่นพนัน กินเหล้า สูบบุหรี่ ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ผมไปเป็นทหารแล้วได้เรียนทางเสนารักษ์ เลยเป็นเสนารักษ์ พอหนีเที่ยว ผมโดนซ่อมหนัก ผมอายมาก เหนื่อยไม่เท่าไหร่ หนักไม่เท่าไหร่ แต่อายคน ผมเลยกลับเนื้อกลับตัว ผมลาออกมาจากทหาร แต่ได้อะไรจากการเป็นทหารเยอะมาก และผมเอาวิธีการฝึกทหารมาใช้เลี้ยงลูกทุกคน ลูกผมจึงได้ดี

“นอกจากนี้ผมก็ยังได้วิชาเสนารักษ์มา ชอบและมีความสุขในการช่วยเหลือคนอื่น ขายยานี่มีความสุข เราขายไม่แพง ขายในราคาเป็นธรรม ให้ชาวบ้านที่ยากจนได้เข้าถึงยา ผมยังไม่เลิกขายแม้ลูกๆ บอกให้เลิก เพราะยังมีความสุขกับการได้ช่วยชาวบ้านจนๆ ได้เข้าถึงยา ผมขายไม่แพงนักคุณก็รู้ ผมอยากจะเลิกแต่ลูกค้าบอกว่าอย่าเลิก ผมขายถูกกว่าทุกร้าน เพราะผมไม่ได้อยากจะเอากำไรอะไรมากมาย แต่ผมมีความสุขที่ได้เจอคน ได้ช่วยคน

“ถ้าถามว่าผมเลี้ยงลูกยังไง ผมก็จะตอบว่า ผมเลี้ยงลูกแบบทหาร อะไรที่ถูก ลูกทำถูก ผมชม ผมให้กำลังใจ อะไรที่ผิด ไม่สมควรทำ ผมก็ลงโทษ ผมเข้มงวดแบบมีเหตุผล ต้องมีเหตุผล ไม่ใช่ใช้อารมณ์ ผมไม่ยอมให้ลูกสบาย สอนให้ลูกลำบาก ทำงานทุกอย่าง ลูกสี่คน ต้องทำงานในร้านทุกอย่าง คนโตนี่เขารู้เรื่องยาดีมาก ขายยาแทนได้ จัดของได้ สั่งยาได้ ผมไม่ยอมให้ลูกสบาย อีกอย่างคือเราต้องทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง เราซื่อสัตย์กับลูกค้า เราสอนลูกด้วยการทำให้ดู ผมบอกลูกเสมอว่า เงินหลวงบาทเดียวก็ต้องไม่โกง ผมสอนลูกว่าห้ามรับเงินใครทั้งนั้น แม้กระทั่งลูกน้องหรือข้าราชการด้วยกัน ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง

“ลูกผมโตมาในกรมที่ดิน มีผลประโยชน์เยอะ ข้าราชการในกรมที่ดินทราบดีว่าให้เงินให้ทองลูกผมไม่รับ แต่ถ้าเป็นผลไม้นิดๆ หน่อยๆ ของที่ไม่มีราคาเป็นน้ำใจแก่กัน ผมบอกว่าให้ลูกผมรับ คุณไปถามในกรมที่ดินได้เลยว่าคนในกรมเขาชมลูกผมเรื่องนี้อย่างไร ผมสอนลูกผมมาแบบนั้น ผมบอกให้ลูกทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง ให้ลูกประคองตัว ลูกผมมีหัวหน้ามาหลายคน มีสองคนเข้าคุกไปแล้ว คนหนึ่งเรื่องคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ อีกคนเรื่องการเลือกตั้ง (ละชื่อผู้ถูกพาดพิง และรายละเอียดออกไป โดยผู้เขียนเอง) ผมบอกลูกว่าให้ทำแต่สิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น แล้วลูกผมก็เป็นคนโผงผาง ตรงไปตรงมา ไม่กลัวใครเสียด้วย”

“ร้านขายยาผมเปิดมา 50 ปี ตู้ไม้สักใส่ยาที่คุณเห็นก็ห้าสิบปี ตอนนั้นเงินจะทำตู้ยังไม่มีเลย ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ซื้อ เก็บหอมรอมริบ ผมบอกลูกว่าไม่รวยก็ไม่เป็นไร ขอให้ซื่อสัตย์เท่านั้น ผมเองสอนลูกเรื่องความกตัญญูด้วยการทำให้ดู ผมไปดูแลแม่ผมที่แปดริ้วตลอด และผมก็พาลูกไปด้วย และให้ลูกเคารพและดูแลย่า ลูกผมก็อยากให้ผมเลิกขายของ เขาจะดูแลผม แต่ผมยังมีความสุขกับการขายยาและได้ช่วยเหลือลูกค้า ผมทำบุญตลอด คนขับแท็กซี่สามล้อ เขาลำบากกว่าผมก็ทิปให้ทุกครั้ง ครั้งละ 20 บาท ผมมีความสุขกับการให้และการทำบุญ การช่วยเหลือคนอื่น

“ผมสอนลูกว่า จะถูกย้ายไปที่ไหนก็ได้ ลูกเป็นข้าราชการ ไม่ได้ลงทุนอะไรแบบคนอื่นที่เขาวิ่งเต้นเรื่องตำแหน่งด้วยเงินกันเป็นล้านๆ ผมบอกลูกว่ามีเงินก็อย่าทำเช่นนั้น การที่ลูกผมไม่ได้ลงทุนอะไรเลยแล้วเติบโตมาด้วยความสามารถและผลงานทำให้ผมภูมิใจ บอกลูกว่าไปที่ไหนก็ได้ ขอให้ได้ทำงานเพื่อส่วนรวม ได้ตำแหน่งมาเท่านี้ก็ดีมากแล้ว ถือว่าดีกว่าคนอื่นตรงที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย”

“แปดเก้าวันนี้ผมเหนื่อยมาก นอนน้อย ดูโทรทัศน์ทั้งวันจนดึกดื่น ห่วงลูก เห็นว่าลูกทำงานหนัก ได้โทร.ไปคุยกันให้กำลังใจลูกเสมอ ลูกคนอื่นเขาก็มาเฝ้าผมตอนกลางคืน ผลัดกันมา มาอยู่เป็นเพื่อน กลัวผมไม่นอน เพราะตามข่าวลูกคนโตตลอดเวลา”

นอกจากคุณพ่อของผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์แล้ว อีกคนหนึ่งที่สังคมกำลังให้ความสนใจก็คือ “น.ส. พรธี รา โอสถธนากร” หรือ “พลอย” ลูกสาวของผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ที่เพิ่งได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมาภายหลังเจ้าหน้าที่ค้นพบทีมฟุตบอลหมูป่าได้อย่างยอดเยี่ยมและประสบความสำเร็จ ระบุว่า…

“ขอบคุณทุกกำลังใจ คำถาม คำขอบคุณ และทุกอย่าง ตลอดกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขอบคุณที่ให้ความสนใจและความชื่นชมกับครอบครัวของเราค่ะ ตอนนี้พลอยไม่ได้อยู่กับคุณพ่อตลอด หลายสถานการณ์ก็ทราบจากข่าวเช่นเดียวกันค่ะ อาจจะตอบคำถามไม่ได้ทั้งหมด เมื่อคืนมีข้อความเข้ามาเยอะมาก พยายามตอบทุกคน อาจจะมีตกหล่นขอโทษด้วย แต่ยินดีรับทุกข้อความทุกช่องทางค่ะ และตั้งแต่เมื่อคืนมี friend request เข้ามาเยอะมาก นักข่าวบ้าง คนไม่รู้จักบ้าง ขออนุญาตไม่รับนะคะ ขอบคุณค่ะ #ถ้ำหลวง #เชียงราย #fcท่านผู้ว่าฯเชียงราย

กล่าวสำหรับน้องพลอยนั้น เคยศึกษาชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยริทชุเมคันเอเชียแปซิฟิค กับมหาวิทยาลัยคอร์เนล ส่วนการทำงานพบว่า เคยทำงานที่ Thai Airways และที่ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่ปัจจุบันทำงานเป็นนักพัฒนาระบบราชการ ที่ Public Service Executive Development Programme (PSED)




กำลังโหลดความคิดเห็น