xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“รอดคดี”แลก“สวามิภักดิ์” “ท็อปบูต”รุกท้องถิ่นตุนแต้ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สมการการเมือง

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -  ปฏิเสธว่า ไม่ได้ดูดใคร แต่เดินหน้ากวาดต้อนต่อเนื่อง ตามคิวที่ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพิ่งจะเสร็จสรรพจากทัวร์ภาคเหนือตอนล่าง ที่จ.นครสวรรค์ หมาดๆ

นักการเมือง อดีตส.ส. ตบเท้าเข้าไปต้อนรับกันให้พรึบ ตามเสียงลือเสียงเล่าอ้าง “เฮียกวง”สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ระยะหลังรับบทฝ่าย “สู่ขอ”ใช้คอนเนกชั่นประสานเพื่อนพ้องแต่ละท้องถิ่น ให้มาเปิดประตูเมืองต้อนรับช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง กันหน่อย

ส่วนคนที่อยู่นอกเหนือคอนเนกชั่น ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดต่อประสานงานขอความร่วมมือให้มาร่วมต้อนรับ “บิ๊กตู่”โดยเอาความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ มาเป็นเหตุผล เรียกว่า โซนเหนือตอนล่างคราวนี้แทบจะมาแบบพร้อมหน้าพร้อมตา กันทีเดียว

โดยเฉพาะพวกตัวเป้งๆ ถูกเล็งว่า อยู่ในข่ายโดนขาย “ขนมจีบ”แทบไม่มีใครตกขบวน “เสี่ยแฮงค์”อนุชา นาคาศัย อดีต ส.ส.ชัยนาท พรรคไทยรักไทย แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ถูก “บิ๊กตู่”หยอดแล้วหยอดอีก แบบอ้อมๆ เป็นการทอดไมตรีจิต
 
มีแต่ภาพหวานชื่น จนแทบจะกาชื่ออยู่ในข่ายเรียบร้อยโรงเรียนแป๊ะไปเสียให้ได้ เพราะ “เสี่ยแฮงค์”เองก็ทิ้งท้ายเป็นนัยให้ชวนคิดเป็นสองแง่สองง่ามว่า เดือนนี้มีข่าวใหญ่ ก่อนให้ปริศนาคอยติดตาม เหมือนรหัสลับดาวินชี โค๊ด “มีงานทำ”

ตีความกันเป็น 2 ทาง ทางแรก กลุ่มมัชฌิมาของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน”เจ้าพ่อวังน้ำยม อาจจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เลิกเป็นไม้หลักปักขี้เลน อยู่ที่ว่าจะไปสิงอยู่ศาลไหน น้ำหนักไหลไปทางกลุ่มประชารัฐ อย่างที่รู้กัน “สมศักดิ์”และ “สมคิด”ซี้ปึ้กเอาเรื่องเหมือนกัน

กับอีกทาง ยังไม่แสดงตัวว่า จะไปมุดรั้วอยู่กับฝ่ายไหน เล่นบทเนิบๆ แบบพรรคพลังชลของ “สนธยา คุณปลื้ม”หัวหน้าพรรค ส่งคนมาซ้อมรับตำแหน่งกันแต่เนิ่นๆ ในเก้าอี้ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และผู้ช่วยรัฐมนตรี ก่อนเล่นจริงหลังการเลือกตั้งคราวหน้า

อย่างน้อยๆ งบประมาณก็น่าจะไหลไปในพื้นที่ตัวเองมากขึ้น เหมือนเอาทุนไปตุนคะแนน เรียกว่า ได้ทั้งตัวเอง และท็อปบูต ถึงตรงนี้ไม่ต้องมีคิวเหนียมอายอะไร ในเมื่อทุกวันนี้ไม่กลับพรรคเพื่อไทยอยู่แล้วแน่ หลังไม่มีแม้สักคนในกลุ่มไปยืนยันสมาชิก

แม้ในโซเชียลมีเดีย จะเหมือนคะแนน “บิ๊กตู่”มีแต่ทรงกับทรุด แต่ถ้าแหงนมองภาพรวม ทำไปเล่นเคล็ดวิชา “พลังดูด”รวบหัวรวบหางเข้าแก๊งท็อปบูตมาได้หลายต่อหลายรายแล้วเช่นกัน เบื้องหน้าอาจดูนับจำนวนได้ว่าใครบ้างอยู่ในข่ายต้านทานแม่เหล็กไม่ไหว แต่ที่ยังไม่เผยตัว ไม่โดนเพ่งเล็ง หรือตกเป็นข่าว ประเภทตัวเล็ก ตัวน้อย ที่โดนดึงตัวเข้าทีมมีอีกเพียบ
 
อย่างคิวล่าสุดที่อยู่ๆ มีคำสั่ง คสช. คืนเก้าอี้ให้ 4 นายก อบจ. ชื่อดัง แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ประกอบด้วย “สถิรพร นาคสุข”นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร “มลัยรัก ทองผา”นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร “บุญเลิศ บูรณุปกรณ์”นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ “ชัยมงคล ไชยรบ” นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร

มันมีกลิ่นตุๆ แปลกๆ เหมือนกันว่า อยู่ดีๆ ทำไมใจดีจัง นึกอยากคืนก็คืนให้แบบดื้อๆ ทั้งๆ ที่บางคนยังถูกสอบสวนไม่เสร็จสิ้น เลยมิวายโดนคนนินทาหมาดูถูกว่า เป็นปฏิบัติการ “ดูด”ระลอกใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ ยอมเข้าแก๊งแลกกับอิสรภาพทางคดี

ใครยอมก้มหัวศิโรราบ หรือกระโดดแยกวงจากแก๊งเก่า ให้พรรคเพื่อไทยง่อยเปลี้ยเสียขามากที่สุด ย่อมได้ข้อแลกเปลี่ยนอันน่าพิสมัย เพราะถ้าเช็กกันให้ละเอียด 4 นายก อบจ. ที่ถูกปลดเปลื้องพันธนาการ ล้วนเป็นคนในเครือข่ายพรรคเพื่อไทย แทบทั้งสิ้น 

โดยเฉพาะตระกูล “บูรณปกรณ์”ที่มีความแน่นแฟ้นกับตระกูล“ชินวัตร” มีสายอำนาจกว้างขวางในเมืองเชียงใหม่ คนในครอบครัวแทบจะกินรวบตำแหน่งในระดับท้องถิ่นเกือบทั้งหมด การได้รับอิสรภาพเที่ยวนี้ ย่อมต้องมี “ดีล”ที่คุ้มค่าต่อการโดนด่า หรือถูกตั้งข้อสงสัยทรยศหักหลัง

อย่าลืมว่า คนในครอบครัวโดนคดีกันกราวรูด สมัยคสช.ยึดอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใหม่ๆ นายทหารเข้าไปยังสำนักงานที่ทำการ เข้าค่ายทหารแล้ว เข้าค่ายอีก เรียกว่า โดนหนักกว่าเพื่อนในจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่คดีก็ยาวเป็นหางว่าว

ตามกระแสข่าว ลือว่า ตกปากรับคำอาจไม่ย้ายเข้าเป็นพวก คสช. แต่ก็ขอกระโดดหนีพรรคเพื่อไทย เพื่อเอาตัวรอดทางคดีไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นอาจได้สมนาคุณตั๋วเที่ยวเมืองนอกตลอดชีวิต เหมือนพี่น้องตระกูล “ชินวัตร”หากปล่อยให้คดียืดออกไปจนได้บทสรุป

ขณะที่อีก 3 พื้นที่ ถิ่นอีสาน ที่ได้รับเก้าอี้คืนไปนั่งบริหารต่อ หลังเตะฝุ่นมาพักใหญ่ๆ ล้วนเป็นบุคคลต้องสงสัยที่อยู่ในข่าย คสช. เข้าไปกดให้ยอมสวามิภักดิ์เหมือนกัน อย่าง “ชัยมงคล ไชยรบ”นายก อบจ.สกลนคร สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กำลังฮึ่มๆ ว่า คดียังไม่สุด แต่กลับได้คัมแบ็กเฉย

มันลักลั่นพิกลแปลกๆ แล้วชวนให้ต้องสงสัย เพราะสตง.ยังตรวจสอบไม่สิ้นกระแสความ แต่คณะกรรมการสอบสวน ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธาน ประทับตราให้ว่า ไม่ผิด ไม่รู้จะเร่งรีบ รวบรัด กันทำไม ในเมื่ออุตส่าห์แช่มาได้นานสองนาน

จับตาการทำงานของคนที่เพิ่งได้รับอิสรภาพกันได้เลย ถ้าใครปลีกตัวออกห่างจากสังกัดเดิมแบบผิดธรรมชาติ ข้อสันนิษฐาน เรียบร้อยโรงเรียนแป๊ะแล้ว สูงปรี๊ดจนแทบจะฟันธงได้
 
แล้วมันยังเป็นสัญญาณส่งไปยังนักการเมืองท้องถิ่นอื่นๆ ที่มีชนักปักหลัง โดนพักงานจากคำสั่ง คสช. การยอมสวามิภักดิ์ อาจแลกได้กับอิสรภาพในการไม่เข้าซังเต โดยมีโมเดล 4 นายกอบจ. เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า อยู่กับแป๊ะ แล้วลื้อจะรอด

เรื่องนี้อย่างไรก็ไม่ปกติ ในเมื่อนายก อบจ. ที่โดนพักงานจากคำสั่ง คสช. หลายคนมีคดีที่เบากว่า 4 รายข้างต้นเสียด้วยซ้ำ แต่ยังต้องพันธนาการ ว่างงาน เตะฝุ่นกันอยู่ พอคสช.แสดงอย่างนี้ให้รู้ รับรองว่า ล่อตาล่อใจ จะยอมโดนเป็นคนทรยศ แต่ได้ใช้ชีวิต มีตำแหน่งแห่งหนกันต่อ หรือจะยอมซื่อสัตย์กับเจ้านายเก่า แต่ต้องไปกินข้าวแดงในบั้นปลายชีวิต

ปฏิบัติการทุบ บีบ แลกเปลี่ยน คสช.ทำแบบนิ่งๆ มาเนียนๆ บางคนไม่ต้องโปรไฟล์หรู แต่ดูดีในพื้นที่ตัวเอง ถือว่าดึงคะแนนมาสะสมให้ “บิ๊กตู่”ต่อพาสปอร์ตเก้าอี้นายกฯ อีกสมัยได้เป็นพอ
 
ทำเป็นเล่น เห็นแบบนี้ เก็บเล็กผสมน้อย กวาดต้อนให้มากที่สุด ที่ดูดๆกันมา พอถึงวันแบไต๋ คะแนนเสียงจะเกือบๆ พรรคใหญ่เหมือนกัน ต้องรอดู




กำลังโหลดความคิดเห็น