ขสมก.เร่งตรวจสอบระบบ E-Ticket บนรถเมล์ 100 คันแรก เผยระบบเริ่มเสถียร ยัน ต.ค. นี้รถขสมก. 800 คัน รองรับบัตรคนจนได้ และเร่งเชื่อมระบบเพื่อรับบัตร MRT Plus ได้ด้วย ขณะที่เตรียมรายงานบอร์ด 31 พ.ค.นี้ หั่นสัญญา ช.ทวี ตัดค่าเช่า Cash box จากสัญญา 70%
นางพนิดา ทองสุข รักษาการ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าดำเนินการจัดหา และติดตั้งระบบ E-Ticket และเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) ในรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. จำนวน 2,600 คัน ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการใน 800 คันแรก ซึ่ง บริษัท ช ทวี จำกัด(มหาชน) ได้ส่งมอบมาแล้ว 100 คัน และขสมก.ได้ตรวจสอบครั้งแรก พบว่าสามารถใช้งานได้ 2 คัน ส่วนอีก 98 คัน จะมีการตรวจสอบในวันที่ 28 พ.ค.นี้ โดยจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็น 8 ทีม โดยตั้งเป้าหมายว่า รถ 100 คันแรกจะต้องใช้งานได้ ในวันที่ 10 มิ.ย. 61 ส่วนอีก 700 คัน จะเร่งการส่งมอบและตรวจรับต่อไป โดยมีเป้าหมายว่าระบบ E-Ticket รถ 800 คัน จะสามารถรองรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในเดือนต.ค. 61
ส่วนเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) ซึ่งพบว่า ระบบไม่เสถียร ทำงานไม่สมบูรณ์ ขสมก. มีนโยบายจะยกเลิกเฉพาะในส่วนของเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) ซึ่งได้ทำหนังสือหารือไปยังกรมบัญชีกลางแล้ว และเนื่องจาก ขสมก.ได้ทำสัญญาเช่า ระบบ E-Ticket และ Cash box รวมกัน จะต้องมีการประเมินค่างานในส่วนของ Cash box และตัดค่าเช่าออก และเจรจากับเอกชน เพื่อทำบันทึกข้อตกลงท้ายสัญญาใหม่ ซึ่งในสัญญา ขสมก.สามารถรับงานบางส่วน หรือไม่รับงานบางส่วนได้
ทั้งนี้ สัญญาเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมอุปกรณ์ E-Ticket และ Cash box กลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน (บ.ช ทวี จำกัด, บ.จัมป์ อัพ จำกัด, บ. เอ็มโอแอล เพย์เมนท์ จำกัด) วงเงิน 1,665 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ 15 มิ.ย. 60-15 มิ.ย. 65 บนรถเมล์ 2,600 คันนั้น คิดเป็นค่าเช่าเฉลี่ยประมาณ 320 บาทต่อคันต่อวัน ซึ่งแยกเป็นส่วนของค่าเช่า E-Ticket 30% ส่วน ค่าเช่า Cash box จะอยู่ที่ 70% ดังนั้น ขสมก.จะจ่ายค่าเช่าเฉพาะระบบ E-Ticket ที่ตรวจรับและใช้งานได้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จะรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการติดตั้งระบบ E-Ticket และ Cash box ต่อที่คณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ที่มีมี นายณัฐชาติ จารุจินดา เป็นประธาน ที่จะมีการประชุมนัดแรก ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ หลังจากที่ครม.แต่งตั้ง
"เป้าหมายขณะนี้ในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กับรถ ขสมก.นั้น จะเป็นในเดือนต.ค. 61 ซึ่งจากการตรวจสอบการใช้งานระบบ E-Ticket มีความเสถียร แล้ว จะเร่งรัดให้ครบ 800 คันตามแผน ซึ่งที่ผ่านมา ขสมก.ได้หารือร่วมกับ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร( สนข.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มาตลอด และมีความเป็นไปได้ว่าในเดือนต.ค.61 นอกจากระบบ E-Ticket บนรถขสมก.จะรองรับบัตรคนจนได้แล้ว จะรองรับบัตร MRT Plus ของรฟม.ได้อีกด้วยซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากขึ้น"
นางพนิดา ทองสุข รักษาการ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าดำเนินการจัดหา และติดตั้งระบบ E-Ticket และเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) ในรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. จำนวน 2,600 คัน ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการใน 800 คันแรก ซึ่ง บริษัท ช ทวี จำกัด(มหาชน) ได้ส่งมอบมาแล้ว 100 คัน และขสมก.ได้ตรวจสอบครั้งแรก พบว่าสามารถใช้งานได้ 2 คัน ส่วนอีก 98 คัน จะมีการตรวจสอบในวันที่ 28 พ.ค.นี้ โดยจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็น 8 ทีม โดยตั้งเป้าหมายว่า รถ 100 คันแรกจะต้องใช้งานได้ ในวันที่ 10 มิ.ย. 61 ส่วนอีก 700 คัน จะเร่งการส่งมอบและตรวจรับต่อไป โดยมีเป้าหมายว่าระบบ E-Ticket รถ 800 คัน จะสามารถรองรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในเดือนต.ค. 61
ส่วนเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) ซึ่งพบว่า ระบบไม่เสถียร ทำงานไม่สมบูรณ์ ขสมก. มีนโยบายจะยกเลิกเฉพาะในส่วนของเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) ซึ่งได้ทำหนังสือหารือไปยังกรมบัญชีกลางแล้ว และเนื่องจาก ขสมก.ได้ทำสัญญาเช่า ระบบ E-Ticket และ Cash box รวมกัน จะต้องมีการประเมินค่างานในส่วนของ Cash box และตัดค่าเช่าออก และเจรจากับเอกชน เพื่อทำบันทึกข้อตกลงท้ายสัญญาใหม่ ซึ่งในสัญญา ขสมก.สามารถรับงานบางส่วน หรือไม่รับงานบางส่วนได้
ทั้งนี้ สัญญาเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมอุปกรณ์ E-Ticket และ Cash box กลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน (บ.ช ทวี จำกัด, บ.จัมป์ อัพ จำกัด, บ. เอ็มโอแอล เพย์เมนท์ จำกัด) วงเงิน 1,665 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ 15 มิ.ย. 60-15 มิ.ย. 65 บนรถเมล์ 2,600 คันนั้น คิดเป็นค่าเช่าเฉลี่ยประมาณ 320 บาทต่อคันต่อวัน ซึ่งแยกเป็นส่วนของค่าเช่า E-Ticket 30% ส่วน ค่าเช่า Cash box จะอยู่ที่ 70% ดังนั้น ขสมก.จะจ่ายค่าเช่าเฉพาะระบบ E-Ticket ที่ตรวจรับและใช้งานได้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จะรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการติดตั้งระบบ E-Ticket และ Cash box ต่อที่คณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ที่มีมี นายณัฐชาติ จารุจินดา เป็นประธาน ที่จะมีการประชุมนัดแรก ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ หลังจากที่ครม.แต่งตั้ง
"เป้าหมายขณะนี้ในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กับรถ ขสมก.นั้น จะเป็นในเดือนต.ค. 61 ซึ่งจากการตรวจสอบการใช้งานระบบ E-Ticket มีความเสถียร แล้ว จะเร่งรัดให้ครบ 800 คันตามแผน ซึ่งที่ผ่านมา ขสมก.ได้หารือร่วมกับ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร( สนข.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มาตลอด และมีความเป็นไปได้ว่าในเดือนต.ค.61 นอกจากระบบ E-Ticket บนรถขสมก.จะรองรับบัตรคนจนได้แล้ว จะรองรับบัตร MRT Plus ของรฟม.ได้อีกด้วยซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากขึ้น"