xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เปิดขุมทรัพย์ “เมียกี้ร์” “ระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง” รวยอะไร...รวยยังไงให้ ป.ป.ช. ยึดทรัพย์?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ประเด็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” ที่สร้างความฮือฮา โดยเฉพาะในแวดวง “คนเสื้อแดง” ก็เห็นทีจะหนีไม่พ้นกรณีความร่ำรวยผิดปกติของเศรษฐินีศรีภรรยาของ “กี้ร์ หรือ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง” หลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด “นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง” อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย

ด้วยเหตุ “รวยอู้ฟู่!” หลังพ้นตำแหน่งทางการเมืองมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเกือบ 43 ล้านบาท

คำถามมีอยู่ว่า อดีตแม่ค้าคนสวยแห่งดินแดนที่ราบสูง ซึ่งกลับกลายมาเป็น “เมีย” ของแกนนำแดงอาร์ดคอร์อย่างนายอริสมันต์นั้น ร่ำรวยมาได้อย่างไร

ทั้งนี้ ความร่ำรวยของนางระพิพรรณปรากฎให้เห็นเป็นรูปธรรม “ครั้งแรก” ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Rapipun Pongrueangrong อยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่ช่วงปี 2555 เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อยก็เมื่อครั้งที่เจ้าหล่อนโพสต์ภาพตัวเองโดยฉากหลังเป็นเครื่องบินลำโต นิว เจน แอร์เวย์ส (New Gen Airways) พร้อมระบุข้อความ “ฝากสายการบินน้องใหม่ด้วยนะคะ..แต่ยังไม่เปิดเป็นทางการค่ะ.. อีกไม่นานได้พบกันแน่นอนค่ะ...”ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเจ้าของและเป็นการสายการบินเปิดใหม่

แถมในช่วงเวลาไล่เรี่ยกันนั้นเอง คุณเธอโพสต์รูปโชว์หรารูปคู่แนบชิด “นช.ทักษิณ ชินวัตร” เมื่อครั้งบินลัดฟ้าไปเยี่ยมนายใหญ่ในต่างแดนพอดิบพอดี จนตกเป็นขี้ปากชาวบ้านว่า มีวันนี้เพราะพี่ให้

ทว่า ในเวลาต่อมา นายอริสมันต์ ได้ออกมาเปิดเผยว่าไม่ได้เป็นสายการบินใหม่ แต่เป็น “ชาร์เตอร์ไฟลต์” เครื่องบินแบบเช่าเหมาลำรองรับธุรกิจนำเที่ยวระหว่างประเทศไทยกับเมืองต่างๆ ในประเทศจีน แถมอ้างว่าเป็นธุรกิจของเพื่อน มี “บริษัท สบายดี แอร์เวย์ส จำกัด” เป็นเจ้าของ

จากนั้นความร่ำรวยผิดปกติของนางระพิพรรณ ถูกจับตามองขึ้นเรื่อยๆ



และน่าจับตาเป็นพิเศษในช่วงเดียวกันนี้เอง ชื่อของ “นางระพิพรรณ” ปรากฎเป็นหนึ่งในกรรมการและผู้ถือหุ้น “บริษัท เฮ้าส์ ออฟ ฮาร์ท พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด” ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยร่วมลงทุนในบริษัทนี้เบื้องต้นจำนวนเกือบ 25 ล้านบาท ซึ่งนายอริสมันต์ อ้างว่าเป็นเงินกู้จากธนาคาร อย่างไรก็ตาม ยิ่งตอกย้ำเบื้องหลังความร่ำรวยอันมิชอบมาพากล

นอกจากนี้ นางระพีพรรณ และนายอริสมันต์ ยังเกี่ยวข้องกับธุรกิจเกี่ยวกับแฟรนไชส์ ลูกชิ้นเว้ยเฮ้ย และ ราแมงเว้ยเฮ้ย ภายใต้สโลแกน ราเมงเขากินบนห้าง แต่ราแมงเขากินกันข้างถนน ของ “บริษัท กู๊ดกาย คอร์ปอเรชั่น จำกัด” เพียงแต่ไม่พบทั้งคู่ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ความร่ำรวยดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเข้ารับตำแหน่งทางการเมือง กล่าวคือเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 ในช่วงที่นางระพิพรรณเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เธอได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. โดยระบุว่ามีเงินฝากอยู่ 2,988,135.78 บาท (ส่วนสามีอดีตนักร้องมีเงินฝากอยู่เพียง 1.06 บาท และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีเงินอยู่ 424,287.86 บาท) ทว่า หลังพ้นจากตำแหน่งแล้ว 1ปี ป.ป.ช. ตรวจสอบพบว่านางระพิพรรณ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น จำนวน 21,534,084 บาท จึงมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงรวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สิน โดยมี “นางสาวสุภา ปิยะจิตติ” กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ

ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีเงินฝากของนางระพิพรรณ พบว่า มีการทำรายการฝากเงินและถอนเงินออกจากบัญชีจำนวนมาก และยังพบว่านางระพิพรรณ ได้ซื้อทรัพย์สินระหว่างดำรงตำแหน่งจำนวนมาก อันเป็นการมีพฤติการณ์ โอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สิน จึงมีคำสั่งอายัดบัญชีเงินฝาก ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ ของนางระพิพรรณ ไว้เป็นการชั่วคราว จำนวน 4 รายการ รวมมูลค่า 15,545,143 บาท ดังนี้

1. บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 บัญชี เป็นเงินจำนวน 845,143 บาท 2. ที่ดินในแขวงลาดยาว เขตจตุจักร(บางซื่อ) กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แปลง พร้อมบ้านพักอาศัย มูลค่ารวม 9,000,000 บาท 3. ที่ดินในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จำนวน 1แปลง มูลค่า 1,500,000 บาท 4. รถยนต์ BMW รุ่น 730Ld ป้ายทะเบียนชั่วคราว ถ 8988 กรุงเทพมหานคร หมายเลขเครื่องยนต์ 30268550 หมายเลขตัวถัง MMFYG44040DZ30453 มูลค่า 4,200,000 บาท"

กระทั่ง “นายวรวิทย์ สุขบุญ” เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เปิดเผยผลพิจารณารายงานผลการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงรวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สินของนางระพิพรรณ พบว่า นางระพิพรรณ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ รวมมูลค่า 42,816,226 บาท

แบ่งเป็นเงินฝากธนาคาร 6 บัญชี จำนวนเงิน 27,618,954 บาท ที่ดิน 3 แปลง มูลค่า 9,492,000 บาท สิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง มูลค่า 2,000,000 บาท รถยนต์ 1 คัน มูลค่า 1,805,272 บาท และเงินที่นำมาชำระหนี้เงินกู้ธนาคาร จำนวนเงิน 1,900,000 บาท ดังต่อไปนี้

1. เงินฝากในบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขารัฐสภา ชื่อบัญชีนางระพิพรรณ จำนวน 8,935,300 บาท2. เงินฝากบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาเคหะแห่งชาติ ชื่อบัญชีนางระพิพรรณ จำนวน 232,700 บาท3. เงินฝากในบัญชีธนาคารเกียรตินาคิน สาขาเมเจอร์ รัชโยธิน ชื่อบัญชีนางระพิพรรณ จำนวน 5 ล้านบาท4. เงินฝากในบัญชีธนาคารยูโอบี สาขาลาดพร้าว ชื่อบัญชีนางระพิพรรณ จำนวน 11,842 บาท5. เงินฝากในบัญชีธนาคารยูโอบี สาขาลาดพร้าว ชื่อบัญชีนางระพิพรรณ จำนวน 1,008,954 บาท 6. ที่ดินโฉนดเลขที่ 79819 ต.ลาดยาว อ.จตุจักร (บางซื่อ) กทม. เนื้อที่ 1 งาน 11 ตารางวา และที่ดินโฉนดเลขที่ 79820 ต.ลาดยาว อ.จตุจักร (บางซื่อ) กทม. เนื้อที่ 1 งาน 10 ตารางวา กรรมสิทธิ์ของนางระพิพรรณ จำนวน 7,992,000 บาท7. บ้านเลขที่ 342/3 ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 9-3 (ซอยเสือใหญ่อุทิศ) แขวจันทร์เกษม เขตจตุจักร กทม. กรรมสิทธิ์ของนางระพิพรรณ มูลค่า 2 ล้านบาท8. รถยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่น 730LD (ป้ายแดง) จำนวน 1,805,272 บาท มีนางระพิพรรณเป็นผู้ครอบครอง9. เงินฝากในบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขารัฐสภา ชื่อบัญชีนายอริสมันต์ จำนวน 6 แสนบาท10. ที่ดินโฉนดเลขที่ 7449 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จำนวน 1.5 ล้านบาท เฉพาะส่วนตัวของ น.ส.จันทาภา พิษณุไวศยวาท11. เงินที่นำมาชำระหนี้เงินกู้ธนาคารกรุงไทย สาขาศรีย่าน ชื่อบัญชีนางจิราวรรณ (ชื่อเดิมนางระพิพรรณ) และนายอริสมันต์ ชำระเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท

จากนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะรายงานผลการตรวจสอบไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีกับ นางระพีพรรณ พงศ์เรืองรอง ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 38 รวมทั้ง มาตรา 83 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2542

ที่น่าสนใจคือ บ้านเลขที่ 342/3ในซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 9-3 หรือ ซอยเสือใหญ่ เป็นที่ตั้งเดียวกับ บริษัท เฮ้าส์ ออฟ ฮาร์ท พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ประกอบกิจการด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่มีนางระพิพรรณเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น ขณะดำรงตำแหน่งทางการเมือง

หากยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ “กี้ร์ อริสมันต์” ก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านสำนักข่าวอิศราเมื่อช่วงต้นปี 2557 โดยระบุว่า ในส่วนของเงินจำนวน 25 ล้านบาทที่นำไปลงทุนในบริษัท เฮ้าส์ ออฟ ฮาร์ท พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มีการจดทะเบียนโดยใช้บ้านที่อยู่อาศัยของตนเองและภรรยาเป็นที่ตั้งบริษัท) นั้นเป็นเพียงตัวเลขลอยๆ ทางบัญชี ไม่มีตัวเงินจริงๆ และบริษัทที่ว่าก็ไม่ได้มีการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด เนื่องจากหุ้นส่วนที่จะทำด้วยมีความขัดแย้งกันเสียก่อน

“เรายังไม่ได้ลงเงินเลย มีแค่ตัวเลข พวกที่ทำธุรกิจ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทก็ทำเหมือนกัน เขาจะจดเงินทุนสูงๆ เพื่อเอาโปรเจกต์ไปเข้าแบงค์(ธนาคาร) เพื่อขอปล่อยกู้ แต่เรายังไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้มีเงินไปลงสักบาทตรงนั้น เสียแค่ค่าจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแค่นั้น”

“จริงๆ แล้ว หุ้นส่วนเราคนหนึ่ง มีที่ดินอยู่ เขาเอาที่ดินไปเข้าธนาคาร ซึ่งที่ดินจำนวนนี้ ตีราคาเป็นเงิน 75 ล้านบาท โอนเข้ามาเป็นของบริษัท คุณไปดูได้เลย แต่หุ้นส่วนเขาเกิดปัญหากันก่อน ไม่เข้าใจกันงานทุกอย่างก็หยุดไป”

ขณะที่ก่อนหน้านี้นางระพิพรรณก็ได้ระบุถึงเรื่องสินทรัพย์ดังกล่าวเอาไว้เช่นกันว่า... ”ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. เราไม่เคยปิดบังอะไรอยู่แล้ว แต่เรื่องเกิดหลังจากเข้ามารับตำแหน่งก่อน ก็เลยไม่ได้แจ้ง”

สุดท้าย กรณี ป.ป.ช. มีมติชี้มูลนางระพิพรรณ รวยผิดปกติ ร้องศาลฯ ยึดทรัพย์ คงต้องติดตามกันว่าจ้าหล่อนจะงัดหลักฐานอะไรขึ้นมาต่อสู้




กำลังโหลดความคิดเห็น