xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“อันวาร์” พ้นคุก-จูบปาก “มหาเธร์” ไม่รีบร้อนเป็นนายกฯ มาเลเซีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮาหมัด แห่งมาเลเซีย จับมือทักทายผู้นำฝ่ายค้าน อันวาร์ อิบราฮิม ที่พระราชวังหลวง อิสตานา เนอการา ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 16 พ.ค.
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - อันวาร์ อิบราฮิม นักการเมืองฝ่ายค้านสายปฏิรูปของมาเลเซีย ประกาศเฉลิมฉลอง “รุ่งอรุณใหม่” หลังได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำในสัปดาห์นี้ และเตรียมหวนกลับสู่เวทีการเมืองอีกครั้งในฐานะ “ว่าที่นายกฯ” ผู้จะสืบทอดอำนาจต่อจากนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮาหมัด ซึ่งนำพันธมิตรฝ่ายค้านโค่นกลุ่มแนวร่วม บาริซาน เนชันแนล (บีเอ็น) ได้สำเร็จในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา

อันวาร์ ถูกศาลพิพากษาจำคุกเมื่อปี 2015 ในข้อหามีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักกับอดีตผู้ช่วยชาย ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นแผนกลั่นแกล้งของรัฐบาลบีเอ็น แต่แล้วเส้นทางชีวิตของนักการเมืองผู้นี้ก็ถึงกาลพลิกผันอีกครั้งเมื่อฝ่ายค้านคว้าชัยในศึกเลือกตั้ง ปิดฉากการครองอำนาจยาวนานกว่า 6 ทศวรรษของกลุ่มบีเอ็นที่นำโดยพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) ของ นาจิบ ราซัก และนำมาซึ่งการขอพระราชทานอภัยโทษเพื่อคืนอิสรภาพให้แก่ อันวาร์ ก่อนกำหนด

อันวาร์ เดินทางออกจากโรงพยาบาลที่เขานอนพักฟื้นหลังการผ่าตัดหัวไหล่ในวันพุธ (16 พ.ค.) และมุ่งหน้าไปยังพระราชวังหลวง “อิสตานา เนอการา” ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ รอต้อนรับ ต่อมาสำนักพระราชวังมาเลเซียได้แถลงว่า สมเด็จพระราชาธิบดีทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษให้แก่ อันวาร์ ตามคำแนะนำของคณะกรรมการอภัยโทษ เนื่องจากเชื่อว่าคดีนี้มีการตัดสินผิดพลาด

อันวาร์ วัย 70 ปี ได้ถ่ายรูปเซลฟีกับเจ้าหน้าที่ผู้คุมเรือนจำ และให้สัญญาต่อหน้าสื่อมวลชนว่าจะสนับสนุนรัฐบาลใหม่ให้บริหารประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ระหว่างแถลงข่าวเคียงข้าง วัน อาซีซะห์ วัน อิสมาแอล ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก อันวาร์ กล่าวว่า “เวลานี้คือรุ่งอรุณใหม่สำหรับมาเลเซีย” พร้อมแสดงความซาบซึ้งที่ประชาชนทุกเชื้อชาติศาสนาช่วยกันปกป้องหลักการประชาธิปไตยและเสรีภาพ

อันวาร์ ยังบอกด้วยว่า เขาไม่เหลือความแค้นเคืองใดๆ ต่อ มหาเธร์ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เขาต้องถูกจำคุกเมื่อ 20 ปีก่อน

“ลืมความแค้นน่ะหรือ? เรื่องมันผ่านมาตั้งนานแล้ว... ผมอภัยให้ท่านแล้ว” อันวาร์ กล่าว

อันวาร์ พยายามสลายความขัดแย้งที่อาจปะทุขึ้นในกลุ่มพันธมิตร โดยยืนยันว่าไม่ต้องการกลับมารับตำแหน่งทางการเมืองในช่วงนี้ เนื่องจากต้องการใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และเดินทางไปต่างประเทศเพื่อบรรยายทางวิชาการตามที่ได้รับเชิญ แต่ระหว่างนี้ก็พร้อมที่จะสนับสนุน มหาเธร์ ในฐานะ “พลเมือง” คนหนึ่ง

อันวาร์ อิบราฮิม โลดแล่นอยู่บนสังเวียนการเมืองมาเลเซียมานานหลายสิบปี เริ่มต้นจากการเป็นสมาชิกดาวรุ่งของกลุ่มบีเอ็นในทศวรรษ 1990 จนถึงขั้นถูกคาดหมายให้เป็นทายาทการเมืองของมหาเธร์ก่อนจะสิ้นอำนาจวาสนาถูกปลดจากรองนายกฯ เพราะขัดแย้งกับมหาเธร์ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ “ต้มยำกุ้ง” และถูกตัดสินจำคุกครั้งแรกในข้อหามีพฤติกรรมรักร่วมเพศและทุจริตเมื่อปี 1998

หลังพ้นโทษในปี 2004 อันวาร์ตัดสินใจเข้าร่วมกับขบวนการต่อต้านรัฐบาล และใช้บารมีที่ตนสั่งสมมารวบรวมกลุ่มฝ่ายค้านที่แตกแยกและไร้อำนาจให้กลายมาเป็นพลังท้าทายที่น่าเกรงขามสำหรับรัฐบาลบีเอ็น

กลุ่มพันธมิตรปากาตันรักยัต (People’s Pact) ภายใต้การนำของ อันวาร์ เคยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการชนะป๊อบปูลาร์โหวต 52% ในศึกเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2013 แต่ไม่สามารถเป็นรัฐบาลได้ เนื่องจากกลวิธีแบ่งเขตเลือกตั้งที่เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายบีเอ็นมากกว่า

คดีรักร่วมเพศเมื่อปี 2015 ส่งผลให้ อันวาร์ ต้องเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำอีกเป็นครั้งที่ 2 แต่แทนที่จะยอมแพ้ต่อโชคชะตา อันวาร์ กลับต่อสู้จากภายในห้องขังเพื่อจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรฝ่ายค้าน และยอมยุติความเป็นปรปักษ์กับ มหาเธร์ ซึ่งถือเป็นการเดิมพันที่คุ้มค่าอย่างยิ่งเมื่อกลุ่มพันธมิตรฝ่ายค้านพลิกล็อคชนะศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา

มหาเธร์ ประกาศจะบริหารประเทศอยู่เพียง 1-2 ปี จากนั้นก็จะส่งมอบอำนาจให้แก่ อันวาร์ ขึ้นมาเป็นผู้นำมาเลเซียคนต่อไป ขณะที่ อันวาร์ ก็ยืนยันว่าความบาดหมางระหว่างตนกับ มหาเธร์ เป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว และเวลานี้ทั้งคู่มีเป้าหมายเดียวกันนั่นคือการปฏิรูปฝ่ายบริหาร และสะสางคดีทุจริตคอร์รัปชันที่ นาจิบ และพวกได้ก่อเอาไว้

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ฟันธงว่าบีเอ็นจะเป็นฝ่ายชนะศึกเลือกตั้ง เพราะควบคุมทั้งสื่อ รัฐบาล ตำรวจ และฐานเสียงมุสลิมมาเลย์ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ แต่ผลที่ออกมาสะท้อนให้เห็นว่ากระแสความไม่พอใจรัฐบาลบีเอ็นนั้นหยั่งรากลึกเกินคาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ นาจิบ เข้าไปมีชื่อพัวพันกับการยักยอกเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB)

มหาเธร์ ได้สั่งห้ามอดีตนายกฯ และภริยาเดินทางออกนอกประเทศ หลังมีกระแสข่าวว่า นาจิบ เตรียมจะเดินทางไป “พักเบรกชั่วคราว” ที่กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย

ซาเวียร์ ชัยกุมาร สมาชิกพรรค พีเพิลส์ จัสติส ปาร์ตี ของอันวาร์ ระบุว่า การที่ อันวาร์ ได้รับอิสรภาพถือเป็นวันที่น่าจดจำสำหรับชาวมาเลเซียทุกคน และความยินดีปรีดาครั้งนี้เทียบได้กับความรู้สึกของชาวแอฟริกาใต้เมื่อตอนที่ “เนลสัน แมนเดลา” ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ

องค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ซึ่งเคยวิจารณ์คำสั่งจำคุก อันวาร์ ว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ยกย่องการคืนอิสรภาพแก่เขาว่าเป็น “ช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับสิทธิมนุษยชน” ในประเทศแห่งนี้

เนื่องจาก อันวาร์ เคยต้องคดีรักร่วมเพศจนถูกปลดจากตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2015 เขาจึงจำเป็นต้องลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อให้ได้กลับเข้าสู่รัฐสภาอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มต้นบทบาททางการเมืองและเตรียมตัวสู่การเป็นผู้นำมาเลเซียคนใหม่



กำลังโหลดความคิดเห็น