"ฝั่งขวาเจ้าพระยา"
"โชกุน"
Sarawak Report เป็น เว็บไซต์ข่าวเชิงสือบสวนสอบสวนหรือ “ ข่าวเจาะ “ เรื่องสิ่งแวดล้อม ออนไลน์ เปิดโปง การคอร์รัปชั่น ในอุตสาหกรรมป่าไม้และปาล์มน้ำมัน และการฉ้อฉลของนักการเมืองในมาเลเซีย ก่อตั้งเมื่อ ปี 2553 โดย แคลร์ ริวคาสเซิลบ บราวน์ ( Clare Rewcastle Brown ) ซึ่งเคยเป็นผู้ผลิตรายการข่าวทีวี ของ บีบีซี ไอทีวี และ เดอะ สกาย
ริวคาสเซิล บราวน์ เกิดที่ เมืองซาราวัก บนเกาะบอร์เนียว เมื่อ พ.ศ. 2502 สมัยที่บอร์เนียวยัง เป็นอาณานิคมของอังกฤษ พ่อของเธอ เป็นตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรอง ของเจ้าอาณานิคม บนเกาะนั้น แม่เป็นพยาบาล บอร์เนียวได้รับเอกราชใน พ.ศ. 2506 และรวมเป็นประเทศกับมาเลเซีย หลังจากนั้นอีก 6 ปี ครอบครัวของเธอจึงอพยพกลับไปอังกฤษ
เธออยู่อาชีพนักข่าวทีวีนาน 14 ปี ก่อนลาออก ในปี 2544 เพื่อดูแลลูก 2 คน สามีของเธอชื่อ แอนดรูว์ บราวน์ เป็นน้องชายแท้ๆ ของ กอร์ดอน บราวน์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ
ริว คาสเซิล บราวน์ กลับไปเยือนซาราวักอีกครั้ง ใน ปี 2549 ร่วมประชุมสื่อ ที่จัดขึ้นโดยผู้ว่าการรัฐ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ ของรัฐซาราวัก สิ่งที่เธอได้เจอคือ สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ ในวัยเด็กเมื่อ 40 ปีก่อน ถูกทำลายอย่างย่อยยับ เป็นแรงบันดาลใจให้หวนกลับสู่เส้นทางสื่ออีกครั้ง เธอใช้เวลาสามปี ในการทำสารคดี เปิดโปงเบื้องหลัง แหล่งหายนะของผืนป่าบนเกาะบอรืเนียว จนถูกรัฐบาลท้องถิ่น ใช้กำลังบังคับให้ออกนอกประเทศ
ซาราวัก รีพอร์ต รายงานสด ผ่านเว็บไซต์ ครั้งแรก ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 จากโต๊ะอาหาร ที่บ้านของเธอ ในย่านเซ็นทรัลลอนดอน ในชั่วเวลาเพียง 3 เดือน ผู้คลิกเข้าไปดู เพิ่มจากวันละ 300 คน เป็น 50,000 คน
อีก 5 ปีต่อมา ซาราวัก รีพอร์ต ซึ่งเริ่มต้นจากการเป็นเว็บข่าวสิ่งแวดล้อม ได้กลายเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ ที่เขย่า และสุดท้ายโค่นล้มบัลลังก์แห่งอำนาจของนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่พ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง ทั่วไปเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม สิ้นสุดการผูกขาดเป็นรัฐบาลของพรรคอัมโนเพียงพรรคเดียวนานถึง 57 ปี
สาเหตุสำคัญที่สุด ที่ทำให้ นาจิบ พ่ายแพ้คือ เรื่อง กองทุน 1 Mdb หรือกองทุนเพื่อการพัฒนาแห่งมาเลเซีย ที่มีการยักยอกเงินไปบัเญชีส่วนตัวของนาจิบ ที่ซาราวัก รีพอร์ต รายงานข่าวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2558 ร่วมกับ ซันเดย์ไทม์ ของอังกฤษ และ ดิ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ของสหรัฐอเมริกา
ซาราวัก รีพอร์ต รายงานเรื่องนี้ เป็นคนแรก เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 โดยพาดหัวข่าวว่า HEIST OF THE CENTURY - การปล้นแห่งศตวรรษ ฉายภาพเส้นทางของเงิน 700 ล้านเหรียญสหรํฐ ฯ ที่ถูกยักยอกจาก 1 Mdb
ก่อนหน้านี้ประมาณ 6 เดือน ริวคาสเซิล ซึ่งได้กลิ่น เรื่อ งการทุจริตเงิน 1 Mdb มาก่อน นัดเจอกับสายข่าวคนหนึ่งทีร้านอาหารจีน ในย่านเบย์วอเตอร์ สายข่าวรายนี้ แจ้งว่า มีแหล่งข่าวที่มีเอกสารการติดต่อ ระว่าง 1Mdb กับ บริษัทเปโตร ซาอุดิ ที่ร่วมลงทุนกับ 1 Mdb เป็นเงินกว่าพันล้านเหรียญ
ริวคาสเซิล นัดเจอกับแหล่งข่าวที่ว่านี้ ที่ ล็อบบี้ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี่ ในกรุงเทพ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2557 แหล่งข่าวรายนี้คือ นาย ซาเวียร์ จัสติน ชาวสเปน ซึ่งไปตั้งรกราก เปิดบริษัทการเงิน ในสวิสเซอร์แลนด์ นายซาเวียร์ ได้รับการชักชวนจากเพื่อนชาวซาอุฯ ที่เป็นคนตั้ง บริษัทเปโตร ซาอุดิ ให้ไปทำงานด้วยที่อังกฤษ โดยสัญญาว่า จะให้ค่าตอบแทนสูงๆ
นายจัสตินลาออกจากบริษัทในปี 2554 เพราะมีปัญหา ได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่าที่มีการรับปากไว้ ก่อนออกเขาได้ก๊อปปี้ สำเนาเอกสารวมทั้ง อีเมล์ 2 แสนกว่าฉบับ จากเซิร์ฟเวอร์ ของเปโตร ซาอุดิฯ กรรมการของ เปโตร ซาอุดิ บอกว่า จะให้ค่าชดเชยนายจัสติน เป็นเงิน 5 ล้านปอนด์ แต่ได้รับเพียง 3 ล้านปอนด์ ทำให้เขาโกรธ และหาทางที่จะเอาคืน
ข้อมูลเอกสาร ซึ่งมีความจุ ราวๆ 70 กิ๊ก ไม่ใช่ของฟรี เพราะนายจัสติน ขอแลกกับเงิน 2 ล้านปอนด์ เท่ากับจำนวนที่เขาควรจะได้จาก เปโตร ซาอุดิ ไม่มีเงิน ก็ไม่มีข้อมูล
อดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย และนางรอสมะห์ มันซูร์ ภริยา 
แคลร์ ริวคาสเซิล บราวน์ ที่มาภาพ: http://www.freemalaysiatoday.com/wp-content/uploads/2015/07/Clare-Rewcastle-Brown-sr.jpg ริวคาสเซิล หาเงินอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็ได้รับความช่วยเหลือ นาย Tong Kooi Ong เจ้าของนิตยสาร ธุรกิจรายสัปดาห์ ชื่อ the Edge ซึ่งชอบเสนอข่าวในแนวเปิดโปง และเป็นเจ้าของสื่อธุรกิจในมาเลเซียอีกหลายฉบับ ทั้งสามคน คือ ริวคาสเซิล นายจัสติน และ Tong นัดเจอกันที่โรงแรม Fullerton ในสิงคโปร์ ในเดือนมกราคม 2558 เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่นายจัสตินอ้างว่าเป็นของจริงไหม และจ่ายเงินค่าข้อมูล
รายงานข่าวชิ้นแรกของซาราวัก รีพอร์ต ส่งผลสะเทือนไปทั่วโลก เนื่องจาก มีข้อมุลจำนวนมาก และ ต้องการให้เรื่องนี้ ขยายวงกว้างไปให้มากที่สุด ริวคาสเซิล จึงร่วมมือกับ ซันเดย์ไทม์ ของอังกฤษ และดิ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ตั้งทีมทำข่าว จากข้อมูลที่ได้มา และร่วมกันนำเสนอ
วันที่ 2 กรกฎาคม 2558 ซาราวัก รีพอร์ต และดิวอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานข่าวเรื่อง พบเงิน 681 ล้านเหรียญถูกโอนจากกองทุน 1 Mdb ไปเข้าบัญชีส่วนตัว นายนาจิบ เมื่อ พ.ศ. 2556 ซึ่งนายนาจิบบอกว่า เป้นเงินที่เจ้าชายซาอุองค์หนึ่ง ให้มา และได้คืนกลับไปหมดแล้ว
การเสนอข่าวของซาราวัค รีพอร์ต ทำให้อัยการสูงสุดมาเลเซียขณะนั้น เตรียมออกมาหมายจับนายนาจิบ แต่ถูกนายนาจิบ ปลดเสียก่อน พร้อมกับ รองนายกรัญมนตรี เว็บไซต์ ซาราวัก รีพอร์ต ถูกบล็อกในมาเลเซีย ผู้บริหาร 4 คนของ the Edge ซึ่งนำเสนอเรื่องนี้ด้ว ย ถูกจับในข้อหาปลุกปั่นยุยง ให้ประชาชนต่อต้านรัฐบาล นิตยสาร the Edge ถูกปิด
สื่อในมาเลเซียไม่มีใครนำเสนอข่าวกองทุน 1Mdb แต่ริวคาสเซิล ทำหน้าที่ของเธอต่อไป ชาวมาเลย์ รับรรู้เรื่องนี้จาก ซาราวัก รีพอร์ต ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ในยุคดิจิตัล กฎหมายและอำนาจไม่สามารถปิดกั้นข้อมูลข่าวสารได้
เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559 กระทรวงยุติธรรม สหรัฐฯ ยื่นคำร้องต่อศาลขอ ยึดทรัพย์ นาย Jho Low นักการเงินหนุ่มชาวมาเลย์ เพื่อนของ นายริซ่า เอซีส ลูกนางรสมะห์ มันโซร์ ภรรยาคนปัจุบันซึ่งเป็นคนที่สองของนายนาจิบ คือ ในข้อหาฟอกเงิน นายLow เป็นคนที่นายนาจิบไว้ใจ และเป็นคนวางแผน ยักยอกเงินออกจากกองทุน 1 Mdb มูลค่า 3 พันกว่าล้านเหรียญ
ลอเรตต้า ลินช์ อัยการสูงสุดของสหรัฐฯในขณะนั้น บอกว่า คดีนี้ เป็น การฉ้อราษฎร์บังหลวงที่ร้ายแรงที่สุดใน ประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา นายนาจิบไม่มีชื่อ เป็นผู้ถูกร้องให้ถูกยึดทรัพย์ แต่ในคำร้อง มีการอ้างถึง Malay Official 1 ซึ่งหมายถึงเขา
กว่า 3 ปีของการทำหน้าที่สื่ออย่างกล้าหาญของ Clare Rewcastle Brown นำไปสู่จุดจบของนาจิบ ราซัก อย่างที่ใครก็คาดไม่ถึง