ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - รวยชุดใหญ่ไฟกระพริบ เรียกเสียงฮือฮาอีกระลอกสำหรับแนวทางแก้ปัญหาจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา เมื่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเตรียมคลอดสลากฯ รวมชุด หรือจะเรียกว่า “ลอตเตอรี่ชุด” หรือ “หวยชุด” แถมเป็นโต้โผพิมพ์เองขายเอง
เรียกว่า รับลูกกระแสหวยชุดที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักเสี่ยงโชค พ่วงแก้ปัญหาผู้ค้าเก็งกำไรขาย โดยกำหนดดีเดย์งวดแรก 16 กรกฎาคม 2561 ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ลอตเตอรี่ชุด เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ มีผู้นิยมซื้อสลากแบบรวมชุดจำนวนมาก ทั้งรูปแบบรวมชุด 2 ใบ, 3 ใบ, 5 ใบ และ 10 ใบ ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากกระแสข่าวหวยอลวน 30 ล้าน ระหว่าง “ครูปรีชากับหมวดจรูญ” รวมทั้งกรณีมีผู้ถูกสลากฯ ชุดรางวัลใหญ่ 180 ล้านบาท ประชาชนจึงนิยมซื้อสลากฯ ชุดกันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการจำหน่ายสลากฯ เกินราคา ที่ผ่านมารัฐกำกับควบคุมราคาอย่างเข้มข้น แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่นัก ประชาชนค่อนประเทศยังยินยอมพร้อมใจซื้อลอตเตอรี่เกินราคาอยู่ดี โดยข้อมูลจากมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน เผยถึงเหตุผลที่ผู้ซื้อสลากยอมซื้อสลากในราคาแพง หนึ่ง - เป็นเลขเด็ดที่อยากได้ สอง - สงสารคนขาย และ สาม - คิดว่าอุดหนุนกิจการของรัฐ
สำหรับปัญหาสลากเกินราคา พบว่า สลาก 1 ใบ มีราคาเฉลี่ยที่ 80 - 100 บาท สลากชุด 2 - 3 ใบ มีราคาเฉลี่ยที่ 100 -110 บาท สลากชุด 10 ใบ มีราคา 110 - 150 บาท สลากชุด 15 ใบมีราคา 125 - 150 บาท และสลากชุด 20 ใบ มีราคา 140 - 170 บาท ซึ่งจากเดิมสลากชุดใหญ่เคยมีราคามากถึง 200 - 250 บาท
และมูลค่าการยอมซื้อสลากเกินราคาในแต่ละเดือน คิดเป็นจำนวนเงินมูลค่ากว่าสูงกว่า 1,120 ล้านบาท โดยที่ไม่เข้ารัฐแม้สักบาทเดียว
ลอตเตอรี่ชุดมีราคาแพงมากขึ้น สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงมีนโยบายจำหน่าย “ลอตเตอรี่ชุด” หรือ “หวยชุด” เพื่อลดปัญหาการจำหน่ายลอตเตอรี่เกินราคา เดินหน้านโยบายการจำหน่ายสลากรวมชุด
โดยเบื้องต้นจะนำสลากจำนวน 20 ล้านฉบับ มารวมชุด ชุดละ 5 ฉบับ คิดเป็น 4 ล้านชุด ส่วนอีก 60 ล้านฉบับจะขายแบบใบเดี่ยวเหมือนเดิม จากจำนวนยอดพิมพ์ทั้งหมด 80 ล้านใบ สลากรวมชุดจะเป็นการนำสลากแบบใบเดี่ยวราคา 80 บาท มารวมเป็นชุด 5 ใบ จำหน่ายแบบใบเดียว 400 บาท
นโยบายการจำหน่ายสลากรวมชุดเองของสำนักงานสลากฯ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเบื้องต้นผ่านระบบออนไลน์และจดหมายเปิดผนึกจากประชาชน 2,000 ราย ที่ส่งถึงสำนักงานสลากฯ ซึ่งกว่า70 เปอร์เซ็นต์ สนับสนุนให้มีการรวมชุดจำหน่ายลอตเตอรี่รวมชุด
แม้มีผู้เห็นด้วยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่ได้ข้อยุติอีกหลายประเด็น เช่น การจำหน่ายเป็นร้านค้าประจำจุดหรือขายหาบเร่เหมือนเดิม ซึ่งทางบอร์ดสำนักงานสลากฯ ต้องการขายแบบประจำจุดมากกว่า เพราะสามารถตรวจสอบได้ง่าย ซึ่งทางร้านต้องติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมมทั้ง แอปพลิเคชันยืนยันการขายลอตเตอรี่รวมชุดสำหรับการตรวจสอบ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยผลรับฟังความคิดเห็นส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีการรวมชุดจำหน่าย ลำดับถัดไปจะสรุปรายละเอียดเสนอให้บอร์ดสำนักงานสลากฯ พิจารณา และคาดว่าจะสามารถจัดจำหน่ายสลากรวมชุดได้เร็วที่สุดภายในวันที่ 16 ก.ค. 2561
ภายหลังจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นเบื้องต้นผ่านระบบออนไลน์ และจดหมายเปิดผนึกจากประชาชน 2,000 ราย ที่ส่งถึงสำนักงานสลากฯ พบว่าประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ สนับสนุนให้มีการรวมชุดจำหน่ายลอตเตอรี่รวมชุด แต่ยังมีประเด็นเสียงแตกอยู่หลายประเด็นดังที่กล่าวในข้างต้น
นายธนวรรธน์ ยืนยันว่า การจำหน่ายสลากรวมชุดเอง จะเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากฯ ราคาแพง แต่หากไม่สำเร็จหรือไม่อาจแก้ปัญหาจำหน่ายสลากเกินราคาได้ ยังมีแผนสำรองออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น หวยขูด, สลากออนไลน์ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ในฟากผู้ค้าสลากฯ สัญญาเดิมมีการเปิดกว้างให้รายย่อยสามารถจำหน่ายสลากรวมชุดได้ โดยโควตาอยู่ที่รายละ 5 ชุด ฉะนั้น ไม่ต้องมาทำสัญญาใหม่ หากแต่พบว่ายังมีการขายเกินราคา จะดำเนินการตัดโควตาได้ทันที ซึ่งปัจจุบันได้มีการตัดโควตาสำหรับผู้ทำผิดไปแล้ว 5,000 ราย
พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รอง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงระบบการพิมพ์สลาก ซึ่งสามารถพิมพ์แบบคละหมายเลขได้ ไม่จำเป็นต้องพิมพ์แบบเรียงหมายเลขตั้งแต่ 000000 - 999999 จนครบ 1 ล้านฉบับ ดังนั้นการออกเลขชุดของสำนักงานสลากฯ จะรวมเลขชุดได้ยาก เช่น ชุด 5 ใบ รวมกัน 3 ชุด เป็น 15 ใบ หรือชุด 4 ใบ รวมกันเป็น 20 ใบ นอกจากนี้ ยังลดเวลาจำหน่ายจากเดิม 1 งวด เหลือ 10 - 12 วัน จาก 15 วัน เพื่อลดปัญหาการขายสลากชุดเกินราคาลดลงได้
แนวคิดดังกล่าวในมุมนักวิชาการ รศ. สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ให้การสนับสนุนแนวคิดการทำสลากรวมชุด เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงนิยมซื้อแบบรวมชุดมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าแนวทางนี้จะช่วยลดปัญหาการขายสลากเกินราคาลงได้
เช่นเดียวกับ นายประสาน น้อมจันทึก ผู้แทนกลุ่มสลาก 5 ภาค สนับสนุนการจัดจำหน่ายสลากรวมชุด มองว่าถึงเวลาแล้วต้องมีการทำสลากรวมชุด ซึ่งเป็นเวลากว่า 23 ปี ที่มีการขายสลากเกินราคา โดยเสนอให้มีการจัดทำสลากรวมชุดแบบสลากใบเดียว แต่ราคาต่างกัน เช่น ใบละ 80 บาท 240 บาท และ 400 บาท สิ่งสำคัฯต้องกระจายสลากให้เข้าถึงผู้ค้ารายย่อยตัวจริงมากที่สุด พร้อมเรียกร้องให้สำนักงานสลากฯ ลดราคาสลากลง ปัจจุบันจำหน่ายในราคาใบละ 68.80 - 70.40 บาท แต่ยี่ปั๊วจะบวกราคาเพิ่มและขายต่อราคาใบละ 85 - 88 บาท ส่งผลให้ผู้ค้ารายย่อยจำเป็นต้องขายสูงราคาใบละ 100 - 120 บาท
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าสลากฯ จำนวนหนึ่ง แสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวคิดสลากรวมชุด มองว่าแก้ปัญหาหวยแพงไม่ได้แถมเข้าทางยี่ปั๊ว นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน เป็นตัวแทนของกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วย ต่อการจัดจำหน่ายสลากรวมชุดของสำนักงานสลากฯ กล่าวว่าแนวทางดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาสลากราคาแพงได้ โดยสภาพปัญหาในปัจจุบันคนที่ได้รับโควตาไม่ได้ขายเอง กล่าวคือ คนขายตัวจริงไม่ได้สลากแต่ต้องไปซื้อสลากต่อ หากระบบสลากยังเป็นเช่นนี้ สลากจะยังมีราคาแพงอยู่ต่อไป สิ่งที่สำนักสลากฯ ต้องทำคือการให้สิทธิค้าสลากกับผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก ทั้งผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้มีรายได้น้อยก่อนผู้ค้าทั่วไป
ท้ายที่สุด สลากรวมชุด หรือ หวยชุด อาจเป็นเพียงความหวังแสงริบหรี่ ในการแก้ปัญหาการจำหน่ายสลากฯ เกินราคา เพราะปัญหาดังกล่าวเรื้อรังมานับสิบๆ ปี และคงต้องยอมรับว่า หากไม่มีอุปสงค์ก็คงไม่มีอุปทาน ทุกวันนี้ ยิ่งเลขไหนเด่นเลขไหนดัง นักเสี่ยงโชคต่างพร้อมจับจ่ายจับโดยไม่ปริปากบ่น เพราะหากถูกรางวัลขึ้นมาคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม!