xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ตีแผ่ 2 ปมร้อน “เครื่องกรองน้ำขั้นเทพ” “เสี่ยป้อม” เซ็นอนุมัติ- “ศอ.บต.” จัดซื้อวิธีพิเศษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ยังคงเป็นประเด็น “ร้อนแรง” ต่อเนื่องสำหรับโครงการติดตั้ง “เครื่องกรองน้ำขั้นเทพ” ของ “ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)” โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องราคาที่สูงถึงตู้ละ 549,000 บาท จนถูกตั้งคำถามเรื่องความคุ้มค่า รวมถึงการตั้งข้อสังเกตในการจัดซื้อด้วย “วิธีพิเศษ” โดยไม่ต้องประกวดราคา จน “ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ถึงกับสั่งให้มีการตรวจสอบโดยเร่งด่วน

ที่สำคัญคือ งานนี้ไม่ได้ซื้อแค่เครื่องสองเครื่อง แต่ซื้อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจำนวน 93 ตู้ ด้วยงบประมาณที่สูงถึง51 ล้านบาทเศษ และยังเป็นแค่ “ล็อตแรก” เท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าจะมี “ล็อตที่ 2” หรือ “ล็อตที่ 3” ตามมาในอีกไม่ช้า

ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 30 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต.เป็นผู้ลงนามในคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา 1 ชุด พร้อมตั้งประเด็นการสอบสวนไว้ 3 ประเด็น คือ จัดซื้อในราคาสูงเกินจริงหรือไม่, วิธีการจัดซื้อที่ใช้ “วิธีพิเศษ” ไม่ต้องมีการประกวดราคา ขัดต่อระเบียบกฎหมายหรือไม่ และโครงการนี้คุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้หรือไม่

ฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องดี แต่ก็มีเรื่องที่ชวนให้ต้อง “สงสัย” อยู่ไม่น้อย

เนื่องเพราะประธานคณะกรรมการสอบสวนฯ มิใช่ใครอื่น หากแต่เป็น “อิสระ ละอองสกุล” ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ซึ่งหมายความว่าเป็นการตั้ง “คนกันเอง” สอบ “คนกันเอง” ส่วนกรรมการที่เหลืออีก 6 คนก็ล้วนแล้วแต่เป็นข้าราชการใน ศอ.บต.ทั้งหมด

แล้วท่านประธานฯ อิสระ จะกล้าสอบได้อย่างไรในเมื่อคนลงนามซื้อก็คือ “เลขาฯ ศอ.บต.”

แต่ประเด็นสำคัญอันเชื่อมโยงไปถึง “ปม” ที่ใหญ่กว่าอยู่ตรงผู้ที่ลงนามอนุมัติให้ ศอ.บต.จัดซื้อ “ตู้กรองน้ำขั้นแทพ” มิใช่ใครอื่น หากแต่คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถม “ลุงป้อม” ยังเป็นคนอนุมัติให้โยกงบประมาณเหลือจ่ายจากโครงการอื่น มาใช้ในโครงการนี้อีกต่างหาก

ทั้งนี้ ศอ.บต.ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล ศอ.บต. เรื่อง “ขออนุมัติปรับแผนและโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2560” ลงวันที่ 11 พ.ย.59โดยขออนุมัติโอนงบประมาณปี 60 ที่เหลือจ่ายจากโครงการจ้างจัดทำระบบฐานข้อมูล จำนวน 81.6 ล้านบาท ไปใช้ในโครงการเร่งด่วน 4 โครงการซึ่ง ศอ.บต.ไม่ได้ตั้งงบเอาไว้ โดย 1 ใน 4 โครงการ คือ โครงการติดตั้งตู้กรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 93 จุด ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้งบประมาณ 51 ล้านบาทเศษ โดย ศอ.บต.อ้างว่าเป็นโครงการจำเป็นเร่งด่วนด้านพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

และในตอนท้ายเอกสารก็ปรากฏลายเซ็น พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นผู้ลงนามอนุมัติเอาไว้อย่างชัดแจ้ง

นายอิสระ ละอองสกุล ได้ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการตรวจสอบโครงการจัดซื้อตู้กรองน้ำครึ่งล้าน ว่า คณะกรรมการสอบสวนฯได้เริ่มประชุมกันไปบ้างแล้ว อยู่ในกระบวนการเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ปากคำ ทั้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในกระบวนการจัดซื้อ จนถึงกระบวนการติดตั้งตู้กรองน้ำฯทุกคน และประชาชนที่มีโอกาสได้ใช้ตู้กรองน้ำด้วย

สำหรับประเด็นในการตรวจสอบ อิสระอธิบายว่า จะตรวจสอบในข้อครหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้งราคากลางตู้กรองน้ำที่กำหนดไว้กว่า 6 แสนบาทต่อตู้ แพงเกินจริงหรือไม่ แม้ภายหลังจะต่อราคาเหลือ 549,000 บาทก็ตาม นอกจากนั้นก็มีประเด็นเรื่องความคุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อหมดระยะเวลารับประกันจากบริษัทผู้ผลิตแล้ว จะดำเนินการอย่างไรต่อไป รวมไปถึงประเด็นการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษที่ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ของโครงการนี้

“เบื้องต้นในเรื่องราคากลาง ได้ข้อมูลว่ามีการกำหนดราคามาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งตามความเข้าใจของผมเอง ความคุ้มค่ากับราคาขนาดนี้อยู่ที่ระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ที่สามารถประเมินความชำรุดเสียหายของตู้กรองน้ำแต่ละตู้ได้ และส่งข้อมูลเข้าส่วนกลางได้ เหมือนเป็นระบบอัจฉริยะ แต่เมื่อมีข้อครหา ก็ต้องหาคำตอบ และเพื่อให้ได้คำตอบที่น่าเชื่อถือ ทางคณะกรรมการสอบสวนฯ จึงกำลังหา 'หน่วยงานกลาง' ที่อยู่นอก ศอ.บต. และไม่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ โดยต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ ให้มาช่วยประเมินราคาที่แท้จริง เพื่อหาคำตอบให้ได้ว่าตู้กรองน้ำที่ซื้อมานั้น แพงเกินจริงหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสรรหาหน่วยงานกลาง”ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโครงการตู้กรองน้ำฯ ให้สัมภาษณ์เอาไว้กับสื่อหลายแห่ง

ส่วนระยะเวลาการสอบสวน ซึ่งเลขาธิการ ศอ.บต.กำหนดกรอบเวลาให้แล้วเสร็จในวันที่ 10 เม.ย.นี้นั้น นายอิสระ ยอมรับว่า คงสรุปผลสอบได้ไม่ทันตามกรอบเวลาดังกล่าว และคงต้องขอขยายเวลาออกไป พร้อมทั้งย้ำว่าการสอบสวนเรื่องนี้ไม่รู้สึกกดดันใดๆ พร้อมออกตัวกลายๆ ด้วยว่า “ผมเองแม้จะมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. แต่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งประจำ เพราะจริงๆ แล้วถูกส่งมาจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ฉะนั้นสิ่งที่จะดำเนินการก็คือ ตรวจสอบไปตามข้อเท็จจริง”

อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากประเด็นดังกล่าวข้างต้นแล้วสิ่งที่ ศอ.บต.ต้องตอบคำถามก็คือ มีความจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องจัดซื้อเครื่องกรองน้ำแสงอาทิตย์ที่มีราคาแพงหูฉี่ขนาดนั้น ทั้งๆ ที่สามารถซื้อตู้กดน้ำธรรมดาซึ่งไม่ได้ใช้โซลาร์เซลล์ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับได้ในราคาที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

ตู้แบบนี้ปกติสนนราคาอยู่ที่ 2 0,000 - 30,000 บาทเท่านั้น หรือแพงสุดๆ ก็ไม่เกิน 50,000 บาท

ขณะที่ถ้าจะใช้ระบบโซลาร์เซลล์จริงๆ ต่อให้แพงแค่ไหนและบวกค่าโสหุ้ยเต็มสูบ ราคาก็ไม่น่าถึงครึ่งล้านอย่างตู้ของ ศอ.บต. อย่างมาก 200,000-300,000 บาท นี่ก็บวกกำไรแบบสุดๆ ในทุกมิติไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กล่าวสำหรับบริษัทผู้ติดตั้งและจำหน่ายตู้กรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับ ศอ.บต. จากการตรวจสอบโดย “สำนักข่าวอิศรา” พบว่า เป็นของ บริษัท เซ็นทริก (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ที่ถนนนวลจันทร์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิตยืนยันว่า จุดเด่นของเครื่องกรองน้ำขั้นเทพตู้นี้อยู่ตรงที่เป็นตู้กรองน้ำอัจฉริยะ สามารถเช็กจากระบบออนไลน์ได้ว่าตู้ไหนเสีย หรือตู้ไหนระบบการจ่ายน้ำขัดข้อง และสามารถกรองน้ำได้ทุกประเภท ทั้งน้ำในดินหรือแม้แต่น้ำที่เป็นโคลน ที่สำคัญใช้บุคลากรในการดูแลตู้น้ำจำนวนไม่มากและคุณภาพน้ำที่ผลิตออกมาได้มาตรฐานระดับโลก

ขณะที่ตัวบริษัทเองก็เป็นผู้พัฒนาระบบเครื่องกรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ระดับแถวหน้าของประเทศ จนได้รับรางวัล “สุดยอดนวัตกรรม เซเว่น อินโนเวชั่น อวอร์ดส์” ประจำปี 2559 สามารถผลิตน้ำสะอาดคุณภาพมาตรฐานองค์การอนามัยโลกได้วันละ 4,000 ลิตร โดยตู้กรองน้ำฯทุกตู้ติดตั้งระบบควบคุมและรายงานผลระยะไกล สามารถตรวจสอบคุณภาพเครื่องและการทำงานของเครื่องได้ผ่านทางออนไลน์ ทั้งยังมีช่างประจำอยู่ในพื้นที่ชายแดนใต้นับสิบคน

นายภูมิพัฒน์ บุญช่วย กรรมการบริษัทเซ็นทริกฯ อธิบายกับ “สำนักข่าวอิศรา” ว่า กรณีที่หมดระยะเวลาประกันของตู้กรองน้ำฯ ทางบริษัทฯยังสามารถช่วยเหลือเรื่องการซ่อมบำรุงผ่านระบบควบคุมและรายงานผลระยะไกลได้ (ระบบออนไลน์) โดยมีทีมงานเข้าไปดูคุณภาพน้ำ และการทำงานต่างๆ ของเครื่อง เมื่อพบความผิดปกติก็จะใช้วิธีติดต่อกับผู้ดูแลหน้างาน และช่างของ ศอ.บต.ที่ทางบริษัทฯอบรมเอาไว้ เพื่อให้ทราบถึงสถานะของเครื่องและการดำเนินการที่ต้องการ

“ส่วนนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าไปควบคุมดูแล เนื่องจากบริษัทฯจะต้องควบคุมดูแลตู้กรองน้ำฯ ไม่แต่เฉพาะในโครงการนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโครงการอื่นๆ ในอนาคตด้วย” นายภูมิพัฒน์ ระบุ

สำหรับระยะเวลาประกันของตู้กรองน้ำฯ ทางบริษัทฯรับประกันตัวตู้และส่วนประกอบเป็นเวลา 1 ปี แต่ นายภูมิพัฒน์ ยืนยันว่า ช่างของบริษัทฯ จะดูแลต่อเพิ่มให้อีก 1 ปี ขณะที่อายุการใช้งานของตู้กรองน้ำฯ เฉลี่ยอยู่ที่ 5 ปี

ดูทรงแล้ว เมื่อพินิจพิเคราะห์หลักฐานและประจักษ์พยานที่ทำท่าว่าจะสอดประสานไปในทิศทางเดียวกัน งานนี้เห็นทีการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะ “3 ผ่าน” อย่างแน่นอน




กำลังโหลดความคิดเห็น