xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ออเจ้าอยากเลือกตั้งฤา? ปี่กลองเริ่มเชิด การเมืองฝุ่นตลบ แง้มขุมกำลัง “ออกญาตู่ vs พญาแม้ว” ส่วน“จมื่นเทือก”พล่านหาพวก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ปี่กลองการเมืองเริ่มเชิด

แม้จะยังไม่รู้ว่า “โรดแมปเลือกตั้ง” จะถูกถูลู่ถูกังไปอีกกี่เพลา แต่การตีธงให้พรรคการเมืองเก่าในระบบ เปิดให้ยืนยันตัวตนการเป็นสมาชิกพรรคได้ ก็ทำให้ “นักการเมือง - นักเลือกตั้ง” ที่ “จำศีล” ในถ้ำอยู่นาน ได้ออกมายืดเส้นยืดสายกันบ้าง

คึกคักเป็นพิเศษก็ซีก “พรรคเพื่อไทย” ที่ผ่านมาขยับเคลื่อนไหวไม่ถนัด ด้วยโดนล็อกเป้าแปะหน้าผากว่า เป็น “ฝ่ายตรงข้าม” ของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

ครั้นมีจังหวะได้เปิดที่ทำการพรรค เพื่อยืนยันสมาชิกภาพได้ จึงได้เห็นภาพเหล่า “คีย์แมน” เฮโลเข้าพรรคกันเกือบจะพร้อมหน้า ทั้ง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ - เสนาะ เทียนทอง - พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ - ภูมิธรรม เวชยชัย - ปลอดประสพ สุรัสวดี - จาตุรนต์ ฉายแสง หรืออย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ออกอาการเหนียมไม่ปรากฏตัวให้เห็นหน้า แต่ฝากคนใกล้ชิดมาป่าวประกาศว่า “ป๋าเหลิม” ก็มานะจ๊ะ

กระทั่ง “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า อาจจะไม่เดินทางมา เนื่องจากเกรงว่าจะถูกโยงในฐานะยังเป็น “คนนอก” ไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคมาก่อน เข้าร่องขัดรัฐธรรมนูญ ก็ยังต้องแวะมาเช็กชื่ออย่างไม่เป็นทางการ

และแม้ว่าจะยังจัด “กิจกรรมการเมือง” อย่างเป็นทางการ แต่ก็ถือโอกาสจัดกิจกรรมล้อให้เข้าสถานการณ์ ตั้งแถวรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในพรรค เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ นัยว่าโชว์ความสมัครสมานสามัคคีของ “พลพรรคเด็กแม้ว” ดับกระแสเผื่อมีใครด้อมๆ มองๆ จะ “แต๊บเด็ก” ไปเสริมฐาน “พรรคทหาร” อย่างที่มีข่าวหนาหู

ท่ามกลางความชื่นมื่นที่อาคารโอเอไอหรือ “โอ๊ค-เอม-อิ๊ง” ทาวเวอร์ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ก็ไม่สามารถกลบวาระสำคัญอย่างการสรรหาตัว “ผู้นำเพื่อไทยคนใหม่” ไปได้ เบอร์ใหญ่ทุกรายที่ย่างกรายผ่านสื่อต้องถูกถามถึงเรื่องนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ โดยล้วนแล้วแต่ท่องสคริปต์เดียวกันเป๊ะๆ ว่า ยังไม่ถึงเวลาคิด ด้วยโรดแมปเลือกตั้งยังไม่ชัดเจนนัก

รายของ “เขยชินวัตร” สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ที่ไม่เคยเข้าทำเนียบ ก็เป็นผู้หนึ่งที่ถูกจับตามองวว่าอาจจะได้ขึ้นชูธง “พรรคทักษิณ” กรำศึกเลือกตั้งหนหน้า ก็ไม่ปฏิเสธ-ไม่ตอบรับตามฟอร์ม ก่อนเบี่ยงกระแสด้วยการจุดพลุว่า “เมียสุดที่รัก” อย่าง “เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เตรียมวางมือทางการเมือง ที่ไม่ค่อยมีคนเชื่อเท่าไร

หรือรายของตัวเก็งเต็งหนึ่ง “หญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่มีชื่อคั่วเก้าอี้มาตลอด ก็ปฏิเสธเสียงแข็ง “ไม่เคยพูดว่าอยากเป็นหัวหน้าพรรค...” พร้อมฟันธงว่า “ไม่ค่อยมีใครอยากจะเป็นหรอก” หนักเข้าก็ว่า เป็นเรื่องมโน-ไร้สาระไปเรื่อย

ตามสเตปคนชั่วโมงบินสูง อาศัยลูกเก๋าตั้งการ์ด ก่อนโยกตัวออกจากมุมกันหมด

จะมีก็แต่คิวของ “ผู้เฒ่าวังน้ำเย็นเสนาะ เทียนทอง ในวัย 7 รอบ 84 ขวบหมาดๆ ที่มีหัวโขนเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค ที่คอมเมนต์การเมืองกระชุ่นหลานๆในพรรคว่า เพิ่งฝันหวาน-ฝันดีว่า “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางกลับประเทศไทย พร้อมหยอดว่าความฝันของตัวเองมักจะเป็นจริงเสมอ ไม่วายแวะไปเขี่ยไอเดีย “รัฐบาลแห่งชาติ” ที่พูดกันมาเป็นสิบๆ ปีแต่ไม่เคยเกิดได้อีกด้วย

โดยก่อนหน้านี้ “ป๋าเหนาะ” ก็ออกลูก “สกัดดาวรุ่ง” พุ่งเป้าไปที่ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า หากกระโดดลงมาเล่นการเมืองเหนื่อยแน่ วันนี้แค่เจอนักข่าวก็หน้าบูดบึ้งไม่รับแขก ต้องเจอของจริงในสภาฯ แค่โดนกระทู้หนักหน่อย “ท่านผู้นำ” จะยิ่งกว่า “ไส้เดือนถูกขี้เถ้า” เสียอีก

คำพูดของ “เฒ่าเหนาะ” บางช่วงอาจดูเพ้อๆหลงๆไปตามวัย แต่ระดับ “ปรมาจารย์การเมือง” ปั้นนายกฯมาแล้วนักต่อนักก็ควรค่าแต่การถอดรหัสในบางช่วงบางตอน โดยเฉพาะการหยิบยกชื่อของ “ทักษิณ” ขึ้นมาโพล่งต่อหน้าธารกำนัล ทั้งที่เหมือนหนึ่ง “ชื่อที่ไม่ควรเอ่ย” ในบางวาระ ผูกโยงกับคำเตือนถึง “น้องตู่” ที่คุ้นเคยกันดีสมัยประจำการที่กองกำลังฝั่งบูรพา

กลายเป็นการตกผลึกว่า การเมืองในอนาคตอันใกล้นี้ ก็แค่การเลือกข้าง “ประยุทธ์” หรือ “ทักษิณ” เท่านั้น

ด้วยมีกระแสข่าวหนาหูว่าทั้ง “โพลทหาร” หรือ “โพลทักษิณ” อัพเดทล่าสุด ชี้ตรงกันว่าเลือกตั้งตอนนี้ “พรรคทักษิณ” กลับมาแน่ แถมมาเยอะไม่น้อยหน้าเลือกตั้งเมื่อปี 2554 เสียด้วย ตรงนี้เองที่ทำให้เห็นความเคลื่อนไหวอย่างมี “นัยสำคัญ” ของทั้ง “นายกฯตู่” และ “อดีตนายกฯแม้ว” ที่น่าสนใจบางประการ

กล่าวคือความเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ” ที่ล่องลอยเป็นสัมภเวสีอยู่ต่างแดน เริ่มมีจังหวะเดินเกมแรงขึ้น โดยการเปิดตัวควงคู่ “น้องปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวสุดเลิฟ ที่เจริญรอยตามเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีอย่างเป็นทางการตั้งแต่เมื่อช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา แวะเวียนมาประจำการให้ “ลูกพรรค” แวะเวียนไปซินเจียยู่อี่ แถบเอเชียตะวันออก เพื่อความสะดวกไม่ต้องถ่อกันไปถึงตะวันออกกลาง

ก่อนที่ล่าสุด “สองศรีพี่น้องชินฯ” จะโฉบมาที่เกาะญี่ปุ่น ร่วมงานเกลอเก่าระดับรัฐมนตรีแดนปลาดิบ พิเคราะห์ตามไทม์มิ่งได้ความว่า นัยหนึ่งก็รู้ว่าต้องขยับเขยื้อนบาง เมื่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำลังเตรียมสรุปสำนวน “คดีฟอกเงิน” จากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย ให้กับกลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร ของ “ลูกโอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร สอดรับกับแอ็กชั่นของ “ลูกโอ๊ค” ที่พยายามไต่น้ำหนักขุดเรื่องเก่าไปชกรุ่นใหญ่ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี แต่ก็หงายเก๋งกลับมา

อีกนัยหนึ่งเพื่อเขย่า “รัฐบาล คสช.” กับคิวที่ “ทักษิณ” เปิดปากให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ของประเทศบ้านเกิดว่า เป็นยุคแห่งความอยุติธรรม ซัดหมัดตรงไปที่ “คณะ คสช.” พร้อมแสดงควมมั่นใจว่า มีเลือกตั้งเมื่อไร ลูกพรรคตัวเองก็มาแบบแลนด์สไลด์ถล่มทลายอีก สอดรับกับ “โพลทักษิณ” ที่สำรวจแล้วว่า งวดนี้มาไม่ต่ำกว่า 230 ที่นั่ง บวกลบนิดหน่อย

เสมือนแสดงความมั่นใจว่า “กระแสแม้วฟีเวอร์” ยังอยู่ดี แม้ถูดกดทับโดนอำนาจคณะรัฐประหารมาถึงเกือบ 4 ปีเต็มก็ตาม

ด้วยความเข้มขลังของความนิยม “นายใหญ่” นี่เอง ก็ก่อให้เกิด “คลื่นใต้น้ำ” ปะทะกันเนืองๆภายในพรรคเพื่อไทย ที่ยังอยู่ในสภาพ “ไร้หัว” แถม “คนตระกูลชินวัตร” ก็ถูกดึงขึ้นมาจนเกือบหมดมือแล้ว ระดับ “แกนนำ” หลายคนก็เลยลูบปากว่า น่าจะเป็นทีได้แจ้งเกิดของตัวเองบ้าง หากเป็นคนที่ใช่ในใจ “นายใหญ่” ด้วยประเมินแล้วลู่ทาง “พรรคทหาร” หรือ “นายกฯคนนอก” โอกาสเกิดยาก แม้จะมี “พรรค ส.ว.” ร่วมโหวตให้ แต่จากนั้นการทำงานมีปัญหาแน่ ด้วยเสียงใน “สภาฯล่าง” ไม่พอทำเนา

หน้าฉากก็ว่ากันไปตามมารยาท ออกตัวกันไม่ได้มาก มีกรณีของ “หญิงหน่อย” เป็นตัวอย่าง ที่ครั้งปีใหม่จีน ลูกพรรคบางกลุ่มหอบวีรกรรม “เจ๊” ไปฟ้อง “นายใหญ่” ถึงเกาะฮ่องกง ส่วนหลังฉากดุเดือดเลือดพล่าน “ขาใหญ่ในพรรค” ตั้งตะหง่านขวางทาง “เจ๊” สุดลิ่ม

นำโดยคู่ชังตลอดกาล “เหลิม บางบอน” ที่แตะมือกับ “ยุทธ ตู้เย็น”ยงยุทธ ติยะไพรัช โดยชื่อ “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ดีกรี “สายตรงนายใหญ่” หลุดออกเป็นคู่เทียบ “เจ้าแม่นครบาล” แถมส่ง “ยงยุทธ” ไปประกบ 2 พี่น้องตระกูลชินฯ อยู่ที่ต่างแดน กั๊กไม่ให้ “ฝ่ายเจ๊” เข้าถึง “นายแม้ว-นายปู” ได้อย่างสะดวกโยธิน

ฟาก “เจ๊หน่อย” ได้แรงหนุนจาก “ลูกโอ๊ค” พานทองแท้ ที่สนิทสนมกับกลุ่มก๊วนรอบข้างเจ๊ทั้ง “ผู้พันปุ่น” น.ต.ศิธา ทิวารี หรือ “ผู้การป๊อบ”น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ แต่เส้นทางขึ้น “จ่าฝูงเพื่อไทย” ก็ยังไม่แบเบอร์ จนถึงขนาดส่งสัญญาณไปถึง “นายใหญ่” หากงวดนี้ไม่ได้เก้าอี้ “หัวหน้าพรรค” พ่วงแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค อาจจะต้องสวมคอนเวิร์ส “ทางใครทางมัน” ไปตั้งพรรคของ “กลุ่มวังทองหลาง” เจาะพื้นที่นครบาลเสียเอง

แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ “เยส - โน - โอเค - โคคาโคลา” จากคนแดนไกล ที่กำลังพำนักพักผ่อน มอนิเตอร์การเช็กชื่อลิ่วล้อ อยู่ที่คฤหาสน์หรูในสนามกอล์ฟไพน์ วัลเลย์ กรุงปักกิ่ง หรือจะด้วย “นายหญิงแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า” ที่ยังคงร้อง “ยี้” กับชื่อเจ้าแม่วังทองหลางอย่างไม่เสื่อมคลายก็มิรู้ได้

หันกลับมาที่ “นายกฯประยุทธ์” บ้าง ระยะหลังออกอาการการ์ดตก จนคะแนนร่วงฮวบฮาบ จนมีตัวช่วยอย่างผลงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่พอเชิดหน้าชูตาได้บ้าง หรือมีกระแสละครดัง “บุพเพสันนิวาส” ให้เกาะเกี่ยวทำพีอาร์ทั้งตัวเอง และงานของรัฐบาล ได้คอมโบใหญ่ๆ

โดยเฉพาะคิวที่ “ออเจ้า” ดารานักแสดงจากละครดัง แห่มาคารวะที่ทำเนียบรัฐบาล เปิดโอกาสให้ “ออกญาลุงตู่” ได้ตักตวงคะแนนนิยมล้อกับกระแสสังคมกลับมาบ้าง ด้วยอากัปกิริยา “เล่นเป็น” หยอกเอินกับเหล่านักแสดงได้อย่างเนียนตา โดยเฉพาะซีนเด็ดที่ที่ “ออกญาประยุทธ์” ถามตรงๆว่า “เห็นออเจ้าคนไหนอยากเลือกตั้งเร็วขึ้นเหรอ?” ด้วยมีการทำการบ้านล่วงหน้าว่าในกลุ่มนักแสดงมี “แอนตี้ คสช.” อยู่ด้วย

ซีนนี้ โป๊ป-ธนวรรธน์ หรือ “พี่หมื่นสุทรเทวา” รับลูกส่งไปให้ หนุ่มปั้นจั่น-ปรมะ ผู้รับบท “หมื่นเรืองราชภักดี” ที่ต้องตอบแบบเสียไม่ได้ว่า “ผมรอได้ครับท่าน เข้าใจว่า ต้องเป็นไปตามโรดแมป” ก่อนที่ “เจ้าพระยาประยุทธ์” จะออกปาก “ให้เอาขุนเรืองไปตัดหัว” กลายเป็นไวรัลฮอต ในโลกโซเชี่ยลที่เรียกเสียงฮาได้ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเลยทีเดียว

ใช่ว่าจะเล่นกับกระแสเป็นเท่านั้น การเสริมนั่งร้านเพื่อเส้นทางต่อท่ออำนาจ ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะการทำคลอด “พรรคทหาร-พรรค คสช.” ที่แม้เบอร์ใหญ่ใน คสช. “สายบิ๊กทหาร” จะยังไม่ออกตัว แต่ “บิ๊กสายพลเรือน” ก็เริ่มแง้มๆ กันออกมาเรื่อย กับข่าวการตั้งพรรคที่ถูกเชื่อมโยงมาถึง “ทีมเศรษฐกิจ” ภายหลังจากที่ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ - สกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปปส. พร้อมด้วย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีต ส.ส.สิงห์บุรี พรรคชาติไทย โผล่ไปเข้าพบ “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า มีการทาบทามอดีต ส.ส. จากหลายพรรคการเมืองเพื่อให้ไปร่วมงานกับพรรคการเมืองใหม่ โดยระบุถึงโครงสร้างพรรคที่จะตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง มี อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าพรรค และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เป็นเลขาธิการพรรค ส่วน “เฮียกวง” และ “ลุงตู่” จะนั่งในตำแหน่งที่ปรึกษาพรรค

กระแสข่าวหนักข้อขึ้นไปอีกเมื่อ “รองฯสมคิด” ถูกนักข่าวทำเนียบต้อนยกใหญ่ จนหลุดปากว่า พร้อมสนับสนุน “นายกฯประยุทธ์” ภายหลังการเลือกตั้ง หากแต่ก็ยังดูกั๊กๆ ในเรื่องตั้งพรรคการเมือง แล้วให้ “อุตตม-สนธิรัตน์” ลูกทีมของตัวเอง

ตามประสาช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม สำหรับพรรคการเมืองใหม่ ที่ “ทีมเฮียกวง” จะตั้งหรือไม่นั้น ยังเหลือเวลาในการตัดสินใจอีกอย่างๆน้อย 2-3 เดือน อีกทั้ง “ทีมเศรษฐกิจ” ก็ยังรอไทมม์มิ่งที่เหมาะสม ด้วยหวังให้ “อุตตม-สนธิรัตน์” ได้แสดงฝีมือทางด้ามเศรษฐกิจให้เห็นเป็นรูปธรรมเสียก่อน ทั้งงานด้านอุตสาหกรรม เศรษฐกิจฐานราก ที่ “อุตตม” ดูแล หรือภารกิจสำคัญของ “สนธิรัตน์” ในการรีบูทราคาพืชผลทางการเกษตรให้กระเตื้องโดนใจเกษตรกรเสียก่อน

หากเอากันจริง ก็มีการวางหมุดหมายไว้ว่า จะเปิดตัวอย่างเร็วในเดือนมิถุนายนนี้ ทั้งกรณีตั้งพรรคใหม่ หรือกรณีที่จะใช้ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่มีสายคอนเนกชั่นกับผู้ที่ไปจดแจ้งชื่อกับ คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ไว้อยู่แล้ว

สรรพกำลังของ “เจ้าพระยาประยุทธ์” ที่จะฟาดฟันกับ “พญาแม้ว” ในการศึกอันใกล้นี้ ก็ใช่ว่าจะมีแค่ขุมข่ายคนใน คสช. ยังมีสายพันธุ์ “นักการเมือง - นักเลือกตั้ง” ที่หวังเกาะเกี่ยวไปอยู่ในวงศ์วานอำนาจก็เพียบ ทั้ง “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ แห่ง กปปส. ที่ใกล้มีความชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตทางการเมือง และการตั้ง “พรรคเทือกสุบรรณ” ในเร็ววันนี้ ขาดก็เพียงอาณัติสัญญาณตีธงจาก “ขุนทหาร” ทำให้ต้องซอยเท้ารอไปพลาง

น่าสังเกตว่า “เดอะเทือก” ที่พยายามหลบเลี่ยงตอบประเด็นการตั้ง “พรรคมวลมหาประชาชน” ที่ “กำนันเล็ก” ธานี เทือกสุบรรณ น้องชายตัวเองเป็นตัวตั้งตัวตีมาตลอด กลับเลือกเวลานี้เคลื่อนไหวให้ความเห็นเกี่ยวกับ “13 แกนนำ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ที่ศาลสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายจากกรณีปิดสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อปี 2551

ไฉนเลย “สุเทพ” จึงเลือกมา “อวย” แกนนำพันธมิตรฯในห้วงนี้ ทั้งก่อนหน้านี้ไม่เคยให้เครดิต หรือกระทั่งพูดถึงแต่อย่างใด ก็มีหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า งานนี้ “เทพเทือก” ล็อกเป้า “คนชังทักษิณ” ให้มาเป็นแนวร่วมตัวเอง จึงเริ่มกวาดตาหาพวก โดยดึงอดีตคนพันธมิตรฯ ทั้ง สำราญ รอดเพชร - สุริยะใส กตะศิลา และอีกหลายคนมาช่วยงานตั้งแต่ช่วงทำม็อบมวลมหาประชาชน

และก็มองว่าแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นด้วยวาระการปฏิรูประเทศมาอย่างยาวนาน มากกว่าแนวร่วมลุงกำนันที่เกาะกลุ่มกันเหมือน “รวมกันเฉพาะกิจ” เพื่อล้มล้าง “ระบอบทักษิณ” ในขณะที่ “วาระปฏิรูป” ที่เคยชูเป็นเรื่องใหญ่ ก็ถูก “อดีตลุงกำนัน” ทำเป็นลืมไปอย่างน่าฉงน

ถือเป็น “ก้าวย่างที่พลาดมหันต์” ของ “จมื่นเทือก” ที่ทำเป็นหลงลืมไปว่า “ตัวการ” ที่สร้างตราบาปยัดเยียดฐานะ “ว่าที่บุคคลล้มละลาย” ให้กับ “13 แกนนำพันธมิตรฯ” ก็เป็น “ท่านรองฯสุเทพ” รองนายกฯฝ่ายมั่นคงในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ก็ด้วยเป็นผู้สั่งการให้ “ฝ่ายตำรวจ” โดย “เสี่ยอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้ายและบุกรุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ แย้งความเห็นของ “อัยการ” จนเป็นเหตุให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ(ทอท.) ฟ้องร้องคดีในชั้นศาลด้วยข้อหาที่ไม่สมเหตุสมผลกับแกนนำพันธมิตรฯ

เมื่อหมากการหาเสียงกับแนวร่วมพันธมิตรฯไม่ได้มรรคผลอะไร “พรรคเทือกสุบรรณ” ก็คงได้แค่คอยเก็บตกคะแนนจากพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ปักษ์ใต้ ให้พอมีจำนวน ส.ส.แบบถูๆไถๆ มีปากเสียงไปต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองได้บ้างเท่านั้น

ยังดีที่มี “เพื่อนร่วมอุดมการณ์” อย่าง “ค่ายสีน้ำเงิน” พรรคภูมิใจไทย ที่ยังพอเกี๊ยะเซียะแอบอิงกันได้บ้าง ด้วยขุมข่ายค่ายสีน้ำเงิน ที่นำโดน “เสี่ยหนู-เสี่ยเน” อนุทิน ชาญวีรกุล - เนวิน ชิดชอบ ดูจะเกาะกลุ่มกันเป็นปึกแผ่นมากกว่า จากภาพการทำบุญวันคล้ายวันเกิดพรรคล่วงหน้าเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา หรืองานยักษ์อย่างการแห่ไปแฮปปี้เบิร์ธเดย์อายุครบ 90 ปี ปู่ชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา บิดาของ “เสี่ยเน” ที่โรงโม่หินศิลาชัย ต.อิ สาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันก่อน ที่มีทั้งบรรดาอดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส. นักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน มาร่วมอวยพรอย่างคับคั่ง

กลุ่มการเมืองก็แห่แหนไปส่งสัญญาณทางการเมือง ทั้ง สุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำและอดีตส.ส.กลุ่ม 16 ที่ช่วงนี้เนื้อหอมสุดๆ หรือ วันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา แกนนำกลุ่มวาดะห์ ที่แยกทางกับพรรคเพื่อไทยชัดเจนแล้ว ที่ต้องจับตาก็ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส) ก็โผล่หน้าไปอวยพรเป็นครั้งแรกด้วย

จนว่ากันว่า นอกเหนือจากความสัมพันธ์ดั้งเดิมของ “สุเทพ - เนวิน” แล้วก็ยังมี “เสี่ยคีรี” ที่วันนี้ได้ชื่อว่าเป็น “บิ๊กเนชั่น” เป็นโซ่ข้อกลางอีกชั้น ด้วยกระแสข่าวที่ว่า “เซเลบค่ายลุงกำนัน” ไล่ตั้งแต่ “เสี่ยต้อย” สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม จาก TNEWS ที่ได้ล่วงหน้าเข้าไปยึดหัวหาดในฝ่ายบริหารสื่อในเครือ “เนชั่น” จนตอนนี้กำลังกลายเป็น “TNEWS สาขาสอง” และยังมีการดึง “เจ๊ปอง” อัญชะลี ไพรีรัก โฆษกคนสำคัญของลุงกำนัน มาแทกทีมกับ กนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้เป็นมหามิตรมาตลอด ผนึกกำลังเป็น “กระบอกเสียงลุงกำนัน” ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น

ที่ขาดไม่ได้ก็ “ค่ายสีฟ้า” พรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่ผู้เล่นหลักในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากแต่ก็เป็น “ตัวแปรสำคัญ” สำหรับการหยั่งเสียงในสภาฯ แม้ท่าทีของ “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค จะดูไม่ปลื้มกับเส้นทางที่ “ลุงตู่” จะต่อท่ออำนาจเป็นนายกฯหลังเลือกตั้ง ถึงกับประกาศว่าใครสนับสนุน “ลุงตู่” ให้ไสหัวไปที่อื่น

แต่เชื่อเถอะว่าถึงเวลาจริง หากให้ “เดอะมาร์ค” ต้องเลือกระหว่าง “ออกญาตู่” กับ “พญาแม้ว” ก็คงไม่ต้องทายว่า “ค่ายสีฟ้า” จะเอียงไปทางไหน

ส่วน “พรรคเอสเอ็มอี” อื่นๆ ที่กำลังสร้างราคากันอย่างคึกคัก สุดท้ายก็คงไม่ลึกซึ้งอะไรมาก เลือกพิง “ผู้ชนะ” เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในภาวะ “อดอยากปากแห้ง” เหมือนตลอด 4 ปีที่ผ่านมาก็เท่านั้น

ที่ไล่เรียงมาเป็นเพียงความเคลื่อนไหวในช่วงเปิดหัว-ออกแขก ที่เป็นบรรยากาศปลดล็อกการเมืองอย่างไม่เต็มสูบ ยังต้องฝุ่นตลบกันอีกหลายเพลา เพียงแต่พอสรุปได้ว่าเลือกตั้งหนหน้าก็ยังหนีไม่พ้นการห้ำหั่นกันระหว่าง “ฝ่ายไม่เอาทักษิณ” ที่วันนี้มี “นายกฯลุงตู่” เป็นสัญลักษณ์ กับ “ฝ่ายระบอบทักษิณ” ที่ไม่ว่าใครขึ้นมานำฝูงพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องเป็นเพียง “ร่างทรง” หรือ “นอมินี” ของ “อดีตนายกฯแม้ว” อยู่แล้ว

เมื่อระฆังเลือกตั้งลั่นอย่างเป็นทางการ หมอกควันฝุ่นตลบเริ่มจาง ถึงวันนั้นถึงจะเห็นหน้าเห็นหลังว่า “ออกญาตู่” หรือ “พญาแม้ว” จะมีขุมกำลังมากกว่ากัน




กำลังโหลดความคิดเห็น